สวัสดีครับทุกท่าน
ผมได้รับ เมล์ ไปยังมหาวิทยาลัย...ลองอ่านดูนะครับผม...หากช่วยได้ ก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ ผมขอให้น้องหายไวๆ และมีคนใจบุญช่วยเหลือเยอะๆ นะครับ
เมล์จาก ช่วยชุบชีวิตน้องแป้งด้วยเถิดค่ะ <[email protected]>
น้องคนนี้เป็นรุ่นน้องที่คณะค่ะ รู้ข่าวมานานแล้ว เพิ่งได้รายละเอียดมาวันนี้เอง
ช่วยชุบชีวิตน้องแป้งด้วยเถิดค่ะ
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 น.ส. เมธาวี ชโลธร (น้องแป้ง)
ศิษย์เก่าสตรีวิทยา ปัจจุบันเป็นนักศึกษาปี 3 คณะอักษรศาสตร์
มหาวิทยาลัยศิลปากร จ. นครปฐม หลังจากพักรับประทานอาหารกลางวัน
ก็ขี่จักรยานพร้อมเพื่อนซ้อนท้ายมาตามถนนเลียบคลองเล็ก ๆ
ในมหาวิทยาลัยเพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนวิชาต่อไป
- แต่ก็มีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
เมื่อเกิดพายุกรรโชกแรงทำให้ต้นไม้ใหญ่อายุกว่า 40 ปี
ที่ปลูกอยู่อีกฝากหนึ่งของคลอง
ล้มฟาดลงมาทางฝั่งที่เป็นเส้นทางสัญจรของนักศึกษา และน้องแป้ง
ก็เป็นนักศึกษาที่โชคร้ายมาก
เมื่อต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นฟาดลงกลางหลังของน้องแป้ง
เธอต้องนอนร้องครวญครางอยู่กลางสายฝน ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
แต่ก็ยังโชคดีที่เหตุเกิดในช่วงบ่ายโมงเศษๆ จึงมีนักศึกษา คณาจารย์
และเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย เข้ามาช่วยกันยกต้นไม้ใหญ่ออกจากร่างของน้องแป้ง
และพาส่งโรงพยาบาลสนามจันทน์ ในทันที
ผลก็คือ ซี่โครงหัก 3 ซี่และแทงทะลุเข้าไปในปอด กระดูกสันหลังแตกหลายข้อ
และหลังจากรักษาพยาบาลเบื้องต้นแล้ว นางสมมาตร ชโลธร
แม่ที่รักลูกมากกว่าสิ่งใด
ก็วิ่งเต้นทุกทางที่จะพาลูกไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลที่ได้ชื่อว่า
มีหมอที่สามารถรักษากระดูกสันหลังเก่งที่สุด และเธอก็ทำสำเร็จ
สามารถพาลูกเข้ารักการรักษาที่โรงพยาบาลเลิศสินได้
คุณหมอกระดูกมือหนึ่งของเลิศสิน แจ้งว่ากระดูกสันหลังแตกหลายข้อมาก
ทำให้ไขสันหลังเสียหายหมด คุณหมอยังอธิบายอีกว่า ไขสันหลังของคนเรา
มีลักษณะเหมือนเต้าหู้ที่ฝังตัวอยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง
เมื่อเต้าหู้ตกแตกก็ไม่สารถเก็บมาใส่หลอดให้เหมือนเดิมได้
คุณหมอคงช่วยได้แค่ผ่าตัดจับกระดูกสันหลังมาเรียงต่อกัน แล้วใช้เหล็กดามไว้
หนึ่งเดือนผ่านไป น้องแป้งยังคงนอนร้องไห้อยู่กับเตียงทุกวัน
เพราะเธอรับรู้แล้วว่าประสาทรับความรู้สึกของเธอหายไปหมดตั้งแต่ช่วงเอวลงมา
ซึ่งนั่นก็แปลว่า เธอจะไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้เหมือนเดิม
ไม่สามารถถ่ายหนักถ่ายเบาได้เอง และเมื่อแผลผ่าตัดหายดี
คุณหมอก็ต้องให้เธอออกจากโรงพยาบาล แล้วเธอจะทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลืออยู่
แม่อีกนั่นเองที่วิ่งเต้นทุกทางที่จะเสาะหาวิธีการรักษาลูกให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง
แล้วเธอก็ได้พบกับความหวังอีกครั้ง เมื่อได้รับการแนะนำว่า
มีคุณหมอจากเมืองจีนที่สามารถช่วยสร้างไขกระดูกให้เกิดขึ้นมาใหม่ได้
โดยการฉีดสเต็มเซลที่สร้างจากรกเด็ก ร่วมกับการฝังเข็ม และทำกายภาพบำบัด
ซึ่งคุณหมอท่านนี้จะเดินทางมารักษาคนไข้ในโรงพยาบาลเอกชนของไทยอยู่แล้ว
และก็ทำประสบผลสำเร็จแล้วหลายราย
แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ ค่าใช้จ่ายในการทำสเต็มเซลสูงถึง 700,000.- บาท
(ไม่รวมค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล) แล้วจะหาเงินจากที่ไหน
การขอรับบริจาค จึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำได้ในตอนนี้
จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากญาติ พี่น้อง เพื่อน ๆ และท่านผู้มีจิตศรัทธา
ช่วยกันบริจาคเงินตามกำลัง
เพื่อรวบรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาและชุบชีวิตน้องแป้งให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง
โดยท่านสามารถบริจาคเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางปะกอก
เลขที่บัญชี 079-2-14742-9 หรือ
ธนาคารกรุงเทพ สาขาราษฎร์บูรณะ เลขที่บัญชี
186-022538-0 ชื่อบัญชี นางสมมาตร ชโลธร
รายละเอียดโทรคุยกับคุณแม่น้องแป้งได้ โทร. 08 1620 3061
หรือที่บ้านเลขที่ 104/290 หมู่บ้านพระปิ่น 5 ซ.เอกชัย 109 (บางบอน 3)
แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150
ปล. ผมได้โทรไปแล้วนะครับ คุยกับคุณแม่และน้องแป้งแล้ว เพื่อให้ทางบ้านมาอ่านคำแนะนำที่ท่านใจบุญแนะนำไว้นะครับ ท่านสามารถฝากความห่วงใยและคำแนะนำไว้ให้น้องและทางครอบครัวได้นะครับ
อีเมล์น้องแป้ง นะครับ... pb_pang @ hotmail . com (ต้องพิมพ์ติดกันนะครับ ผมเว้นวรรคไว้ป้องกัน สแปมเมล์ ครับ)
ปล.2. ถึงน้องแป้งหรือคุณแม่นะครับ หากเกิดว่ามีรายละเอียดใดในบทความนี้ผิดพลาด คลาดเคลื่อนไป รบกวนช่วยเพิ่มรายละเีีอียดไว้ที่ข้อความเห็นด้านล่างด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆ นะครับ
เ้ม้ง
คุณเม้ง
ได้ลองติดต่อพูดคุยกับคุณแม่ของน้องเขาหรือยังครับ
อยากจะแนะนำให้เขาไปออกรายการทีวีต่างๆ
น่าจะช่วยได้เยอะเรื่องบริจาค
สวัสดีครับคุณบรรพต
ผมลองส่งเมล์ไปที่อีเมล์ เหมือนว่าโดนตีกลับครับผม ส่วนเบอร์โทรยังไม่ได้โทรนะครับ เพราะเพิ่งได้รับเมล์นะครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำครับผม
สวัสดีค่ะคุณเม้ง
ลองให้คุณแม่ของน้องติดต่อไปที่สถาบันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ ( Institute of science and technology for research and development ) ของมหิดลดูนะคะ
25/25 พุทธมณฑลสาย 4 ,
ศาลายา , นครปฐม ,
73170
Telephone: +66 (0) 2441 9003-7
FAX: +66 (0) 2441 1013
สอบถามถึงโครงการวิจัยและพัฒนาห้องปฏิบัติการเซลล์ต้นกำเนิด[Stem Cell] นะคะ เพราะโครงการนี้เป็นการลงนามร่วมกันของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และมหาวิทยาลัยมหิดลประสานความร่วมมือในการวิจัยพัฒนา การใช้ประโยชน์จากเซลล์ต้นกำเนิด เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคร้ายแรงที่ยังไม่สามารถรักษาได้น่ะ่ค่ะ
เพื่อขอเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในการทดลองปลูกถ่าย Stem Cells + อาจสอบถามความคืบหน้าและข้อสงสัยในการรักษาด้วยStem Cells กับที่นี่ดูก็ได้นะคะ..เรื่องที่หนักใจอาจจะเบาบางลงได้ในระดับหนึ่งค่ะ..
เดี๋ยวแวะมาใหม่นะคะ
ี่
ลืมบอกไปค่ะ
อาจบอกให้คุณแม่ขอให้ทางภาควิชา มหาวิทยาลัยศิลปากรติดต่อประสานงานไปที่สถาบันนี้ด้วยน่า จะได้ความคืบหน้าเร็วขึ้นค่ะ เพราะเป็นในนามของมหาวิทยาลัยต่อมหาวิทยาลัย
เข้ามาแบบเป็นเรื่องเป็นราวอีกทีค่ะ
ในการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังจะมีผลทำให้เกิดอัมพาตอยู่ 2 แบบคือ complete - incomplete
complete คือ ไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่การขับถ่าย แต่ incomplete ยังมีความรู้สึกเวลาอยากขับถ่ายอยู่บ้าง ซึ่งพวกหลังจะมีหวังในการรักษามากกว่าค่ะ และอยากให้เน้นที่กายภาพบำบัดหนักๆเลย เพราะมีเคสอยู่คนหนึ่งเป็นแบบ incomplete เน้นกายภาพบำบัดมากๆ ป่วยมา 5 ปีเดี๋ยวนี้สามารถลุกยืนได้โดยใช้ไม้เท้าพยุงน่ะค่ะ
ส่วนพวกแรกจะมีหวังน้อยหน่อย แต่ก็ไม่อยากให้ทิ้งกายภาพบำบัดเช่นเดียวกันค่ะ เล่าเรื่องเพื่อนเบิร์ดให้ฟังดีกว่า เค้าเป็นอาจารย์หนุ่มสอนที่ม.นเรศวร ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ เมื่อปี 2549 จากการเดินทางไปหาแฟนที่ขอนแก่น กระดูกสันหลังหักอัมพาตแบบ complete อนาคตที่วาดฝันไว้เกือบล่ม แต่เค้าไม่ยอมแพ้ และ ม.นเรศวรก็เป็น มหาวิทยาลัยที่เบิร์ดขอชื่นชม ยกย่องในที่นี้จากใจจริงเพราะเค้าจ้างเพื่อนเบิร์ดให้เป็นอาจารย์สอนต่อ + ปรับปรุงทางลาดเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน + การใช้ชีวิตที่หอพักของเพื่อนเบิร์ดอย่างดียิ่ง
เมื่อเบิร์ดได้คุยกับเพื่อนคนนี้และชื่นชมความเข้มแข็งของเค้า เบิร์ดได้คำตอบที่ประทับใจเบิร์ดมากว่า " สิ่งที่เค้าเสียไปคือขา ไม่ใช่หัว " เรายังเหลือสิ่งดีๆและสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างดีได้อีกตั้งเยอะแยะมากมายเลยนะคะ..ขอเพียงเราไม่ยอมแพ้เท่านั้นเอง
ความพิการเป็นเพียงความไม่สะดวกแต่ไม่ใช่โรคค่ะ ..
หมอจากเมืองจีนที่จะมาฝังเข็ม + stem cells ที่ไทยน่ะเพื่อนเบิร์ดบอกว่าแพงกว่าไปที่จีนเยอะ ( เพื่อนเบิร์ดไปมาค่ะ ) เพราะฉีดแค่ 4 เข็ม แต่ที่จีนฉีด 6 เข็ม และเค้าบอกว่าที่ปักกิ่งน่าจะมีความหวังกว่าที่เสิ่นเจิ้น เพราะที่ปักกิ่งเป็นการเอาเนื้อเยื่อจากโพรงจมูกมาฉีดร่วมกับ stem cellsด้วย
แ่ต่ท้ายที่สุดเพื่อนเบิร์ดบอกว่า ความหวังของ complete จะน้อยอยู่แล้ว การฉีดเข้าไปไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย การรักษาที่น่าจะดีกว่าคือการผ่าตัดเอาแผลที่กระดูกสันหลังออกร่วมกับการฉีด stem cells + growth hormone ค่ะ
รายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาที่ปักกิ่งจะเป็นเบอร์โทร.ค่ะ และเบิร์ืดจะให้เบอร์โทร.ของเพื่อนเบิร์ืดไว้ด้วย ส่วนการรักษาที่เสิ่นเจิ้นเข้าไปที่เว็ปนี้นะคะ
6. เบิร์ด
สวัสดีครับคุณเบิร์ด
สวัสดีครับพี่โอ๋
ขอบคุณมากๆ เลยครับ ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ ไว้ผมจะค่อยโทรไปคุยความคืบหน้าอีกทีหนึ่งครับผม
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล