“ พระวิบูลย์เมธาจารย์…ปรมาจารย์ผู้สร้างบัณฑิตสงฆ์เมืองสุพรรณ ”


 

“ พระวิบูลย์เมธาจารย์…ปรมาจารย์ผู้สร้างบัณฑิตสงฆ์เมืองสุพรรณ ”

 

      ในบันทึกก่อนๆผมได้นำเรื่องราวของพระเดชพระคุณพระราชปริยัติสุธีมาเสนอ และได้กล่าวถึงอาจารย์ของท่านคือ พระวิบูลย์เมธาจารย์ ฉบับนี้จึงขอนำเรื่องราวโดยตรงของอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้มาเสนอสู่ท่านผู้อ่าน


     ก่อนที่ผมจะนำประวัติของพระวิบูลย์เมธาจารย์ มาเสนอ ผมได้พบผลงานที่พระเดชพระคุณท่านนี้ได้เขียนไว้เป็น กิตยานุสรณ์ในงาน พระราชทานเพลิงศพพระครูสุวรรณสาธุกิจหรือหลวงพ่อแดง แห่งวัดทุ่งคอก อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อปี พ.ศ.2516 เห็นว่าน่าสนใจ จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดดังนี้


      “อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีพระเถระ 3 รูป ซึ่งได้รับสมัญญาจากประชาชนผู้รู้จักท่านได้ดี แล้วแอบตั้งถวายด้วยความเคารพและนับถืออย่างยิ่ง คือ


     1. พระครูสุวรรณสาธุกิจ(หลวงพ่อแดง) วัดทุ่งคอก รูปนี้ได้รับสมัญญาว่า “แดงใจใหญ่”


    2. พระอาจารย์น่วม วัดสองพี่น้อง รูปนี้ได้รับสมัญญาว่า “ น่วมพระมาลัย “


     3. พระอธิการแก้ว( หลวงพ่อแก้ว ) วัดใหม่นพรัตน์ รูปนี้ได้รับสมัญญาว่า “ แก้วสารพัดนึก ”


      พระเถระทั้ง 3 รูปนี้ ล้วนเป็นผู้มีอัธยาศัยใหญ่ทั้งนั้น  แต่ที่ได้รับนามต่างๆกันก็เพราะเหตุว่า

 

      หลวงพ่อแก้ว รูปนี้ได้สร้างวัดใหม่นพรัตน์มาตั้งแต่วัดนี้มีเพียงกระท่อมมุงด้วยแฝก ฝาไม้ไผ่ จนเป็นวัดที่สมบูรณ์ด้วยศาสนวัตถุทุกๆอย่าง ตั้งแต่กุฎีสงฆ์ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ และอาคารเรียนประชาบาล โดยมิได้แจกฎีกา มิได้บอกบุญเรี่ยไร หรือโฆษณาใดๆทั้งสิ้น ประชาชนทั้งใกล้และไกล รู้จักท่านว่าเป็นนักสร้างเงียบๆ สำเร็จได้ดังใจนึก เหตุนี้จึงถวายนามพระเถระรูปนี้ว่า “ แก้วสารพัดนึก”


      หลวงพ่อน่วมอีกรูปหนึ่ง ซึ่งคนในเขตอำเภอสองพี่น้อง เป็นจำนวนพันๆ ตั้งแต่เกิดมา อยู่จนตายจากโลกไป จะไม่ได้รับอุปการะจากท่านนั้นเป็นอันไม่มี เหตุว่าพระเถระรูปนี้มีจิตเต็มเปี่ยมด้วยวิหารธรรม สนใจในเวชกิจ ประกอบยาให้เป็นทาน โดยมิได้เลือกถือชาติชั้นและศาสนา ประกอบอยู่เป็นนิตย์เรื่อยมาจนตลอดชีวิต พระคุณของท่านผู้นี้ จึงติดตรึงใจของประชาชน จนถึงกับบันดาลออกทางวาจาว่า “ น่วมพระมาลัย “


       ท่านพระครูสุวรรณสาธุกิจ(หลวงพ่อแดง) มาถึงพระเถระรูปนี้ ร่างกายท่านไม่ใหญ่โต การสร้างสรรพวัตถุในวัดทุ่งคอก ก็ไม่มีอะไรใหญ่โตสักอย่าง แต่คุณสมบัติของท่านทั้งที่เป็นอัตหิตสมบัติ(อัตแปลว่าตน ส่วนหิต แปลว่าประโยชน์เกื้อกูล)และปรหิตสมบัติ(ปร แปลว่าภายนอก) ที่ท่านได้บำเพ็ญมาแต่ต้นจนถึงอายุขัยครบ 70 ปี นี่ซิ เป็นของใหญ่อยู่มาก
 ในส่วนอัตหิตสมบัติ ตั้งแต่ได้รับการบรรพชาอุปสมบทในพระบวรพุทธศาสนาแล้วเป็นผู้มีศรัทธามั่นมาก  ไม่เคยประพฤติถอยหลัง เป็นผู้มีความอดทนใหญ่ในการสดับฟังโอวาท จากพระอุปัชฌาย์และจากพระมหาเถระและพระสังฆาธิการผู้บังคับบัญชา มีความเพียรใหญ่ ไม่เคยแสดงอาการท้อถอย เป็นผู้มีความหนักแน่นมั่นคงทรงไว้ซึ่งเถรการุณธรรมเป็นอย่างดีแม้ภารกิจในตำแหน่งหน้าที่ และที่เป็นสาธารณประโยชน์ บำเพ็ญอยู่เต็มกำลัง พระเถระรูปนี้ยังรักษาความเป็นพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์อยู่ได้จนตลอดชีวิต ในส่วนปรหิตสมบัติ ตั้งแต่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งคอกมา ได้จัดสรรสร้างศาสนวัตถุ เช่นอุโบสถหลังเก่าและหลังใหม่ ศาลาการเปรียญ กุฎีสงฆ์ อบรมสั่งสอนคฤหัสถ์ บรรพชิตให้ได้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม นำคนให้ออกจากที่มืดไปสู่แดนสว่างได้เป็นจำนวนมาก พยุงคนต่ำให้สูงขึ้น โดยสถานะ ทำป่าให้เป็นบ้าน ทำบ้านให้เป็นเมือง เรื่องที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไป ในเขตตำบลทุ่งคอก เท่าที่เห็นและได้รับความสะดวกกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ย่อมมีหลวงพ่อแดงเกี่ยวอยู่ด้วยทั้งนั้น อาศัยเหตุแห่งที่พรรณนามานี้เป็นสำคัญประชาชนจึงรู้จักพระรูปนี้ว่า “แดงใจใหญ่”
 

      ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่พระวิบูลย์เมธาจารย์เขียนไว้ น่าสนใจและทำให้เราทราบเรื่องราวของพระเถระที่สำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีอีกหลายรูป

คำสำคัญ (Tags): #พระเถระ
หมายเลขบันทึก: 128245เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 07:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 21:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท