กินอาหารเช้าลดความเสี่ยงโรคเบาหวานขข-หัวใจ


การงดอาหารเช้านั้นเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนถึง 4 เท่า
เผย!กินอาหารเช้า ช่วยลดความเสี่ยงเบาหวาน-หัวใจ


รายงานผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดพบว่า คนที่กินอาหารเช้าจะผอมกว่าคนที่งดอาหารเช้า โดยงานวิจัยจากโครงการสังเกตการณ์สุขภาพผู้ชายของ มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด รายงานว่า การงดอาหารเช้านั้นเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนถึง 4 เท่า อาหารซีเรียลที่มีเส้นใยอาหาร สูงจัดเป็นอาหารเช้าที่ให้ประโยชน์ และช่วย ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองตีบในผู้ชาย รวมทั้งก้อนเนื้องอกในลำไส้ และโรคมะเร็งลำไส้ ใหญ่ลงได้ด้วย

ผลจากการศึกษานี้แนะนำให้บริโภคอาหารเช้าซีเรียลที่มีเส้นใยอาหารอย่างน้อย 6 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค และมีปริมาณน้ำตาล ต่ำ (น้อยกว่า 10 กรัมต่อหน่วยบริโภค) โดยสามารถเติมนมพร่องมันเนย และกล้วย ลูกเบอร์รี่ หรือชิ้นแอปเปิลลงไปได้

อาหารเช้านั้นไม่ได้จำกัดเพียงแค่อาหารซีเรียลที่มีเส้นใยอาหารสูงเท่านั้น แต่การเลือก อย่างฉลาดนั้นก็มีความสำคัญมาก กรณีรับประทานขนมปังปิ้ง ควรเลือกขนมปังที่ทำจากโฮลวีต ซึ่งเหมาะที่จะทานร่วมกับมาการีนที่ปราศจากไขมันชนิดทรานส์ หรือสเปรดที่ประกอบด้วยสารสเตนอลจากพืช และช่วยลดคอเลสเตอรอล โดยในเมนูอาหารเช้าไม่จำเป็นต้องงดไข่ แต่อาหารที่มีไข่เหมาะสำหรับการเสิร์ฟในมื้อสายๆ เป็นครั้งคราว

อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้ชายที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งกินไข่มากกว่าวันละ 1 ฟองเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือด หัวใจถึง 2 เท่า จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไข่ชนิดออแกนิก หรือไข่ที่ระบุว่ามีไขมันชนิดโอเมก้า-3 สูงนั้น จะก่อให้เกิดผลดีเฉพาะต่อสุขภาพ ซึ่งให้ประโยชน์เช่นเดียวกับไข่ทั่วไปนั่นเอง

และผลจากการวิจัย ยังชี้ให้เห็นอีกว่าอาหารเช้าปกติทั่วๆ ไป เช่น เบคอน และครัวซอง นั้นมีปริมาณไขมันและเกลือสูงมาก และอาหารเช้าประเภทจานด่วนก็มีปริมาณสารเหล่า นี้สูงมากเช่นกัน และยังไม่มีเส้นใยอาหารที่ช่วย เพิ่มผลดีให้กับสุขภาพ

ดังนั้น ผู้บริโภคควรจะรับประทานข้าวซ้อมมือแทนข้าวขัดขาว หรือข้าวซ้อมมือผสมกับข้าวขัดขาว และในแต่ละมื้อควรรับประทาน อาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และพยายามลดอาหาร ที่หวาน มัน เค็ม โดยให้เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ชนิดต่างๆ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้เกิดความสมดุลของสารอาหารที่ร่างกาย ควรได้รับ

นอกจากนี้ ฝ่ายโภชนาการ กองส่งเสริมสาธารณสุข สำนักอนามัย ยังให้ข้อมูลว่า เส้นใยอาหารสามารถช่วยลดความเสี่ยงของผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากอาหารที่มีเส้นใยจะถูกย่อยเป็น กลูโคสอย่างช้าๆ และฮอร์โมนอินซูลินไม่ต้องทำงานหนักในการนำส่งกลูโคสเข้าเซลล์ เส้นใยที่ละลายน้ำมีความหนืดสูงจะเคลือบผิวของลำไส้ ไว้ และชะลอการดูดซึมของน้ำตาลเข้าสู่กระแส เลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อยๆ เพิ่มสูง ขึ้นอย่างช้าๆ เส้นใยอาหารยังมีผลช่วยลดระดับ ไขมันในเลือด เนื่องจากใยอาหารชนิดที่ละลาย น้ำหรือพวกที่มีความหนืดจะดูดซับเอาน้ำดีไว้และขับถ่ายออกไปกับอุจจาระ ทำให้คอเลสเตอรอลถูกดึงมาใช้สร้างน้ำดีเพิ่มขึ้น

ดังนั้น ผู้ใหญ่ควรรับประทานใยอาหาร ปริมาณ 20-35 กรัมต่อวัน โดยการรับประทานผักนานาชนิด รับประทานผลไม้สดแทนขนมหวานหรือแทนการดื่มน้ำผลไม้ ก้านผักหรือเปลือกของผัก ผลไม้บางชนิดมีใยอาหาร สูง เช่น แอปเปิล ฝรั่ง ชมพู่ พีช พลัม แตงกวา ก้านคะน้า เป็นต้น จึงควรรับประทานทั้งเปลือก เพราะนอกจากอาหารที่มีเส้น ใยสูงจะช่วยในการลดน้ำหนักแล้วยังช่วยควบคุมโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองตีบอีกด้วย




ขอบคุณข้อมูลจาก สยามธุรกิจ
หมายเลขบันทึก: 128229เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 00:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท