เลี้ยงส่งพี่โต้ง


พรุ่งนี้พี่โต้งจะกลับเมืองไทยแล้ว เล่นเอาผมจ๋อยไปแว๊บหนึ่ง แล้วต่อไปใครจะเป็นประธานสมาคมนักเรียนไทยล่ะเนี่ย

วันที่ 11 กันยายน 2550

เป็นวันอังคารของสัปดาห์ที่ 19 นับถอยหลังไปก็จะเหลือ 64 วันเท่านั้นเอง ฮ่า ฮ่า

                ตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม ก็แน่ล่ะสิ ตื่นเวลา 6 โมงครึ่งของที่นี่ ก็ราวตี 5 ครึ่งที่บ้านเรา มันจะสว่างได้อย่างไร เปล่าเลย ผมหมายความว่าท้องฟ้ามองไปไกลๆมีเมฆมากและครึ้ม ราว 7 โมง มาเลยครับ ทั้งลมทั้งฝน ต้นไม้ใหญ่ๆแทบจะถอนราก เสียงดังเพล้งพล้างเพราะกระถางต้นไม้ล้ม กระจกตกแตกกระจาย ผมได้แต่ยืนดูและฟังเสียงลมและฝนอย่างสงบ กินขนมปังกับกาแฟจนอยู่ท้อง รออยู่จนกระทั่ง 7 โมงครึ่งก็ลงจากห้องพัก วันนี้ตัดสินใจนั่งรถบัสไปทำงาน เพราะว่าจะได้ไม่เปียกปอน เลือกขึ้นสาย 66 เพราะสามารถขึ้นที่หน้าแฟลตและไปจอดที่ข้างโรงพยาบาลเลย สบายมาก นึกถึงเมื่อ 2 เดือนแรก ที่ต้องนั่งรถไปทำงานทุกวัน นี่เราย่างเข้าเดือนที่ 5 แล้วนะ

                ตอนช่วงเช้าผมตรวจคนไข้ที่คลินิกกับครูลี ไม่มีอะไรหวือหวา จนกระทั่งบ่ายโมงก็ขึ้นมาที่ภาควิชาเพื่อที่จะกินข้าวเที่ยง แต่ยังไม่ทันเปิดกล่องข้าวก็ถูกครูหาญเรียกเข้าไปช่วยผ่าตัดพร้อมอานีต้า ดูเธอร่าเริงขึ้นมาก หลังจากซึมเซาเพราะเรื่องจดหมายเวียนในภาควิชาเมื่อสัปดาห์ก่อน เธอรีบวิ่งผลุงออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไปให้ถึงยังห้องผ่าตัดให้เร็วที่สุด ส่วนผมก็เดินตามสบาย แต่กลับถึงห้องผ่าตัดก่อนเธอ แปลกดีแฮะ

                บรรยากาศการผ่าตัดก็ดีเหมือนเดิม ครูหาญเข้ามาก็โวยวายก่อนตามเรื่องตามราวเพราะหาแฟ้มคนไข้ไม่พบ แต่เมื่อเข้าผ่าตัดก็หัวเราะกันตามเคย และแน่นอนที่สุดที่เพื่อน fellow ข้างๆผมก็พลอยสนุกสนานจนลืมการช่วยผ่าตัดเป็นทีๆไป จนผมต้องแอบสะกิดเธออยู่บ่อยๆ

                เสร็จผ่าตัดก็เหมือนเสร็จงาน เพราะว่าผมว่างช่วงบ่าย จึงรีบกลับที่พักเพื่อนั่งเขียนหนังสือของภาควิชา ที่ยังไงยังไงผมก็ยังไม่มีอารมณ์สุนทรีย์พอที่จะนั่งเขียนได้ครั้งละนานๆ อย่างที่ได้เคยเล่ามาแล้วว่าไม่เห็นด้วยที่จะมาทำหนังสือแบบนี้ แต่เมื่อได้นั่งเขียนสักพักก็เริ่มลื่นไหลสไตล์ผมนั่นแหละ จนกระทั่ง 5 โมงครึ่งก็ออกจากห้องเพื่อไปยังตึกทุเรียน วันนี้ผมนัดกับพี่โต้งและเท้งเพื่อกินข้าวจานหรูด้วยกัน เพราะว่าพรุ่งนี้พี่โต้งจะกลับเมืองไทยแล้ว เล่นเอาผมจ๋อยไปแว๊บหนึ่ง แล้วต่อไปใครจะเป็นประธานสมาคมนักเรียนไทยล่ะเนี่ย

                เรากินกันที่ร้านอาหาร Thai Express ซึ่งรสชาติอร่อยพอประมาณ เสียอย่างเดียว ดันให้เรากินข้าวสวยในถ้วย กินยากชะมัด เด็กเสิร์ฟถามผมว่าเป็นสมาชิกร้านอาหารหรือไม่ ผมตอบว่าไม่ เป็นสมาชิกบัตรเครดิต Standard Charter หรือไม่ ผมตอบว่าเปล่า เลยบอกกลับไปว่า มีแต่สมาชิก Thai citizen ลดได้ไหม เล่นเอาเด็กเสิร์ฟอึ้งไปเลย ส่วนหมอไทยอีกทั้ง 2 ท่าน ก็หัวร่อหงอหงายไปตามระเบียบ

                เสร็จมื้ออาหารแล้ว ผมก็พาทั้ง 2 คนไปต่อที่ Harry ที่อยู่ข้างๆ เพื่อดื่มเบียร์เย็นๆ ผมเลือกดื่มเบียร์กลิ่นส้ม จำชื่อไม่ได้เสียแล้วสิ ตามด้วยเบียร์ธรรมดาอีก 1 แก้ว ก็เตรียมจะกลับบ้าน พี่โต้งบอกว่าอยากไปที่ Fullroom Blue ที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกันเมื่อเดือนก่อน ไอ้ 2 คนที่ใจง่ายก็เลยตอบตกลง ตอนที่เราไปถึงนั้นก็ราวๆ 3 ทุ่มครึ่ง เขายังไม่มีนักดนตรีมาเล่น ก็คนเดิมที่เล่นกีต้าร์เก่งๆชาวฟิลิปปินส์นั่นแหละ เราสั่งเบียร์ดำ Asahi มาดื่มคนละขวด ราวๆ 4 ทุ่ม นักดนตรีก็มาและเริ่มบรรเลงเลย ผมล่ะชอบมาก เพลงแบบคันทรี่หน่อยๆที่เพราะถูกใจหูยิ่งนัก เราขอเพลง “Anak” “You’ve got a friend” จนกระทั่งราวเที่ยงคืนก็ต้องบอกกันว่ากลับได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่โต้งตกเครื่อง นี่เห็นว่าข้าวของยังไม่ได้เก็บเลย งานนี้พี่โต้งเลี้ยงน้องครับ เพราะบอกว่ามีเงินเหลือมาก ก็จะไม่ให้เหลือได้อย่างไร กับข้าวก็ทำกินเอง บ้านก็ไม่ค่อยกลับ แถมกลับบ้านแต่ละครั้งก็แบกอาหารกลับมาเพียบซะอย่างนั้น เก่งจริงๆ

                ทั้ง 2 คนก็เดินมาส่งผมที่บ้านตามเคย วันนี้พี่โต้งไม่ค่อยเมา เลยรู้สึกตัวว่าเดินมาส่งผมได้ยังไงกัน ไกลชะมัด ผมก็ย้อนไปว่า ครั้งก่อนผมก็บอกพี่แล้วว่าไม่ต้องไปส่ง ก็ยังดั้นด้นไปส่ง เป็นไงล่ะ วันนี้ไม่เมา บ่นเชียว เราก็ลากันที่ป้ายรถเมล์หน้าแฟลตผม เฮ้อ จากไปอีก 1
หมายเลขบันทึก: 127361เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2007 13:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 20:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • น่าสงสารคุณหมอเนอะ
  • เพื่อนๆๆทุ่มไปหมด(ใช่ภาษาใต้ไหม ไม่ได้ใช้นาน)
  • อันนี้เพลงเพลงประจำตัวครับ
  • You’ve got a friend”
  • ขอบคุณครับ
  • แวะมาทักทายค่ะ
  • มีพบก็ต้องมีจาก...เป็นธรรมดาโลกค่ะ

อ.ขจิต P ที่เคารพ จริงๆมีอีกเพลงนึงที่รักมาก ร้องโดย Jim Croce แต่ไม่กล้าเขียนชื่อลงไป กลัวถูกขำ

อะไรนะ ....to say I love you in a song อะไรเทือกนี้นี่แหละครับ กำลังหาซื้อ CD อยู่

สวัสดีครับคุณครูอ๋อ P

ครับผม เห็นด้วยเรื่องการพบการจาก อีก 63 วัน ผมก็จากสิงคโปร์แล้วคร๊าบบบบ

So... I'll have to say I love you, in a song
  • คุณขจิตไม่ว่านะ พี่เม่ยมาช่วยเติมเต็มให้คุณหมอค่ะ เพลงเก่ามากแล้วนะคะ สมัยพี่เม่ยยังเด็ก (ความจริงตอนนี้ก็ยังเด็กอยู่) ได้ร้องคลอบ่อยๆ
  • ดีใจด้วยนะคะ อีกสองเดือนกับสามวันก็ได้กลับมาอยู่บ้านซะที คราวนี้สงสัยไม่อยากไปไหนอีกนานเลย คนที่อยู่บ้านเดียวกับพี่เม่ยก็ประมาณนี้เหมือนกันค่ะ

สวัดีครับพี่เม่ย P

หาซื้อ CD แผ่นนี้ยากจังเลยครับ

เอ๊ะ...ที่พยาธินี่ มีพี่เม่ยกี่คนครับ 2 ใช่มั้ย

เรื่องไปไกลๆนานๆคงไม่เหลือในหัวแล้วครับ เอาเรือเฟอร์รี่มาลากก็ไม่ยอม

 

อ.หมอแป๊ะคะ เห็นชื่อลุง Jim Croce แล้วต้องรีบเข้ามาลงชื่อบอกว่าถ้าหา CD เจอต้องบอกพี่ด้วยนะคะ มีตลับเทปของลุงแกอยู่ ฟังจนจะยืดหมดแล้ว อยากหาแบบที่เป็น CD มาเก็บไว้บ้างค่ะ นักร้องคนนี้คือคนโปรดสุดๆ ร้องเพลงตามลุงแกได้เกือบทุกเพลงเลยค่ะ จำชื่อได้เพลงเดียวคือ Time in a bottle 

ครับพี่โอ๋ P

ถ้าเจอแล้ว ไม่เพียงแต่บอกเท่านั้น จะซื้อไปฝากอีกด้วย

ตามมาบอกว่าขอบคุณค่ะ แล้วก็ถ้าหาก CD ที่พี่โอ๋ทำ ตามที่เล่าไว้ในบันทึกนี้ ฟังได้พอทนละก็ จะเผา (burn) เผื่อมาให้อ.หมอแป๊ะแผ่นนึงด้วยค่ะ

พี่โอ๋P ครับ ลองเข้าไปที่ You've got a friend และ Jim Croce ดูสิครับ เต็มตื้น

  • เวอร์ชั่นของพี่ "หมิง" (คุณภูสมิง หน่อสวรรค์) ก็ฟังเพราะดีนะคะ แบบไทยๆ
  • คุณหมอคะ พยาธิมีพี่เม่ยคนเดียวค่ะ จริง จริ๊ง... (แต่มีชื่อใกล้เคียงกันเยอะค่ะ ทั้งพี่โม่ย พี่ม้อย.....)

สวัสดีครับพี่เม่ย P

ยังไม่เคยฟัง หน่อสวรรค์ เวอร์ชั่นเลยครับ

วันนี้หลังจากอ่านของอ.เต็ม เลยนั่งเฝ้าหน้าคอมเพื่อฟังเพลงที่คิดถึงหลายๆเพลง

พี่เม่ยฟังของ Ennio Morricone ไหมครับ สุดยอดเลยครับพี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท