การศึกษานอกโรงเรียนกับวิถีพุทธ 1.


สุขใจและสุขกาย

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2550ที่ผ่านมาตรงกับวันแรม 8 ค่ำเดือน 9ได้ไปทำบุญที่วัดโคกใหม่และร่วมปฏิบัติธรรมรักษาอุโบสถศีลหรือรักษาศีล8 ข้อจะต้องรักษาให้ครบ 1วัน 1คืนโดยจะต้องนอนที่วัดส่วนใครที่มีกิจที่จะต้องทำก็ขออนุญาตอาจารย์ที่ให้ศีลไปทำได้จนกว่าจะแล้วเสร็จ วันนั้นได้พบกับญาติธรรมหลายท่านทั้งเด็กและผู้สูงวัย(สว.) มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันมีความรู้หลากหลาย ทั้งทางธรรมและทางโลก แม่ใหญ่แห้งท่านเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานท่านเล่าให้ฟังว่าท่านหลวงพี่เดชได้บอกสมุนไพรที่มีในท้องถิ่นแล้วแม่ใหญ่แห้งก็ไปปฏิบัติตาม จนกระทั่งท่านไปให้หมอที่โรงบาลบ้านโคกตรวจผลออกมา ความดันโลหิตไม่สูงและน้ำตาลก็ไม่ขึ้นแสดงว่าร่างกายเกิดความสมดุลย์แล้ว ทำให้ท่านดีใจมากเพราะท่านเป็นโรคนี้มานานหลายปีแล้ว ท่านจึงบอกสูตรยาสมุนไพรให้ฟังดังนี้ นำมะเขือพวงประมาณ 1กำมือของตนเอง นำมะเขือพวงต้มน้ำรับประทานทุกวันและน้ำต้มก็สามารถเอามาดื่มได้จนครบ 1 เดือน ถ้าวันไหนลืมรับประทานจะต้องเริ่มต้นนับใหม่ เมื่อหายจากการเจ็บป่วยแล้วให้อุทิศส่วนบุญกุศลให้กับเจ้าของตำรับยา มีกล้วยน้ำหว้า 1 หวีและน้ำ 1 ขวด เห็นไหมครับการไปวัดนั้นดีอย่างไร ได้ทั้งความสุขทางใจและความสุขทางกาย การศึกษานอกโรงเรียนเกิดได้ทุกหนทุกแห่งไม่จำเป็นที่เราจะเป็นผู้ให้ความรู้เขาแต่เราสามารถนำคววามรู้ของเขามาเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้รู้อีกทีหนึ่ง อย่างนี้จะเรียกว่าการจัดการตวามรู้ก็คงจะไม่ผิด

หมายเลขบันทึก: 125851เขียนเมื่อ 7 กันยายน 2007 08:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับ

   ผมอบรมรุ่น 5 กำลังทดลอง ยินดีที่ได้รู้จักกัน ครับ

ยินดีที่ได้รู้จัก พี่ ผมบ้านอยู่เพชรบูรณ์ 

ยินดีร่วมแสดงความคิดเห็นและพัฒนางานร่วมกัน

ดีจังเลยครับ ได้เข้าวัดกล่อมเกลาจิตใจ เออ...ก็เลยพึ่งนึกได้ เราเองก็ห่างวัดมานานเหมือนกันนะนี่......

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท