ประเทศไทย มีลักษณะภูมิประเทศที่ประกอบด้วยแหล่งน้ำมากมาย
และมีประชาชนบางส่วนทำการประมงเป็นอาชีพหลักและพัฒนาเครื่องมือจับปลาให้สามารถจับปลาได้ปริมาณมากๆเพื่อให้ผลตอบแทนสูงสุดโดยเฉพาะเมื่อถึงฤดูฝนพ่อแม่พันธุ์
เกือบทุกชนิดจะอพยพขึ้นสู่ต้นน้ำ
หรือบริเวณที่มีความเหมาะสม
เพื่อผสมพันธุ์และวางไข่ตามธรรมชาติ
ชาวประมงจะถือโอกาสนี้ จับปลาขึ้นมาใช้ประโยชน์
ซึ่งเป็นวิธีการทำลายพันธุ์สัตว์ฯอย่างร้ายแรง
จากวิธีการจับปลาที่ผิดหลักการอนุรักษ์ดังกล่าว
ทำให้ผลผลิตสัตว์ฯลดลงอย่างรวดเร็ว
และมีแนวโน้มว่าจะไม่เพียงพอแก่ การบริโภคในอนาคต
ทางราชการโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้จึงศึกษาวิจัยเกี่ยวกับนิสัยการผสมพันธุ์ปลาและวางไข่ของปลา
พบว่าช่วงระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม ถึง
15 กันยายน ของทุกปี
เป็นช่วงเวลาที่ปลาน้ำจืดผสมพันธุ์และวางไข่มากที่สุด
จึงได้กำหนดให้เวลาดังกล่าวเป็นฤดูปลาน้ำจืดมีไข่
โดยออกประกาศกฎกระทรวงเมื่อวันที่ 17 เมษายน
2507
ห้ามทำการประมงในช่วงเวลาที่กำหนดตามแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ทุกแห่ง
ทั่วประเทศ
เว้นแต่บางจังหวัดที่มีการศึกษาวิจัยทางวิชาการแล้วว่า
ช่วงระยะเวลาของฤดูปลาน้ำจืดมีไข่ และวางไข่
เลี้ยงลูกมีความแตกต่างกันออกไปตามสภาพภูมิประเทศ
ดินฟ้าอากาศ
และสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อการวางไข่แพร่พันธุ์ของ สัตว์น้ำ
ซึ่งไม่ตรงฤดูปลาที่มีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูก
ที่ได้กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงฯ
ก็ให้จังหวัดดังกล่าวออกเป็นประกาศจังหวัด
กำหนดฤดูปลาน้ำจืดมีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูก เช่น
ประกาศจังหวัดขอนแก่น กำหนดฤดูปลาน้ำจืดมีไข่เลี้ยงลูก
ให้มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน
ถึงวันที่ 15 ตุลาคมของทุกปี เป็นต้น
สาระสำคัญของประกาศกระทรวงและประกาศจังหวัด คือ
ห้ามทำการประมงในช่วงเวลาที่กำหนดตามแหล่งน้ำจืดสาธารณประโยชน์ทุกแห่ง
เว้นแต่ใช้เครื่องมือที่ไม่ทำลายพ่อ แม่พันธุ์
และสามารถจับปลาได้เพียงพอแก่การยังชีพ
เครื่องมือที่สามารถทำการประมงได้ในช่วงฤดูปลาน้ำจืดมีไข่
ได้แก่
1. เบ็ดทุกชนิด
เว้นเบ็ดราว
2. ตะแกรง สวิง
ช้อน ยอ และชนาง ซึ่งมีปากกว้างไม่เกิน
2 เมตร
และห้ามมิให้ทำการประมงด้วยวิธีประดาตั้งแต่สามเครื่องมือขึ้นไป
3. ไซ ตุ้ม อีจู้ ลัน โป่ง
และโทง
ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่ปลาได้มีโอกาสขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
ปราศจากการถูกรบกวนของมนุษย์
ซึ่งเป็นวิธีการเพิ่มปริมาณปลาในธรรมชาติที่ดีที่สุด
โดยมอบหมายให้กรมประมงเป็นผู้รับผิดชอบและดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดโดยตรง
กรมประมง
ได้ดำเนินการให้ส่วนบริหารจัดการด้านการประมงน้ำจืด
ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการประมงน้ำจืดทุกแห่ง
ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ส่งเรือตรวจการณ์ประมง
พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติภารกิจคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์ปลา
ในบริเวณ แหล่งพื้นที่รับผิดชอบคอยเฝ้าระวัง
ป้องกันมิให้ผู้ใดรบกวนหรือลักลอบจับพ่อ แม่
พันธุ์ปลาของสัตว์น้ำอันจะเป็นประโยชน์โดยตรงกับชาวประมงในระยะยาวนั่นเอง