ครั้งแรก..กับคนจากโลกไซเบอร์


 

คนเขียนเป็นเด็กบ้านนอกที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างจะสูงลิบลิ่ว    และไม่ใช่คนที่เชื่อในสัมพันธภาพจากโลกไซเบอร์    โลกไซเบอร์ในสายตาของคนเขียนค่อนข้างจะเลื่อนลอย  เปราะบาง  น่ากลัว    เราจะไปแน่ใจได้อย่างไรว่าทุกสิ่งที่บอกเล่าผ่านตัวหนังสือในโลกเสมือนจริงนั้นคือ ความจริง     และคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะหาความจริงใจได้จากในนั้น

แล้ววันหนึ่ง..เมื่อได้พาตัวเองเข้าสู่โลกไซเบอร์    คนเขียนก็ได้เรียนรู้  ได้เข้าใจ  โลกไซเบอร์มากขึ้น    โลกไซเบอร์หรือ Cyber worlds เปรียบได้กับโลกเสมือนจริงนั้นมีผู้คนหลากหลายประเภท  ทั้งดี  ทั้งเลว  ไม่ต่างไปจากโลกแห่งความจริงเลย   

แรก ๆ ก็กึ่งกล้า กึ่งกลัว ที่จะเข้าไปโลดแล่นอยู่ในนั้น    ซึ่งนอกเหนือจากการค้นหาเรื่องที่ตัวเองให้ความสนใจอยู่ก็เพื่อความบันเทิงในรูปแบบของการพูดคุยผ่านเวบบอร์ด    ได้รู้จักพี่คนแรกที่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังคบหากันด้วยความจริงใจ    พอรู้จักพี่คนแรกที่แสนจะจิตใจดีก็เริ่มย่ามใจจะทำความรู้จักกับคนอื่นต่อไปอีก และสนุกสนานกับการตั้งกระทู้คุยเรื่องโน้น เรื่องนี้ เยอะแยะไปหมด    จนใคร ๆ ในเวบนั้นรู้จักเป็นอย่างดี     ผู้คนให้ความสนใจเป็นลำดับต้น ๆ     พี่คนต่อไปก็เจอในเวบบอร์ดของเวบบอร์ดหาเพื่อนที่ปกติคนเขียนจะไม่ค่อยโผล่ไปตรงนั้น    พี่สาวคนนี้เธอตั้งกระทู้หาเพื่อน    เธอโพสว่า..เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพและยังไม่มีเพื่อนมากนัก   รู้สึกเหงา  ต้องการเพื่อนคุย    คนเขียนได้อ่านก็รู้สึกเห็นใจ  เออหนอ  หากเป็นตัวเราย้ายไปทำงานที่อื่นก็คงรู้สึกแย่เนอะ  ไม่มีเพื่อน  แถมยังอยู่ต่างถิ่น  ก็เลยบอกไปในกระทู้นั้นว่า งั้น..เรามาเป็นเพื่อนกันนะคะ     ก็แค่พิมพ์คุยเป็นเพื่อนเธอเองนี่นา  ไม่ได้ไปเจอตัวเป็น ๆ สักหน่อย

ค่ะ    ด้วยความที่เป็นคนขี้อาย และมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง (( ย้ำเสียจริง เนอะ ))    คนเขียนก็เลยมีความสุขกับการที่ได้ปลดปล่อยให้อีกภาคหนึ่งของตัวเองได้เริงร่าอย่างสนุกสนานในนั้น    และภาคสนุกสนานนี่เอง..ก็เป็นที่ชื่นชอบของใคร ๆ   และกระทั่งวันหนึ่งก็ถูกตั้งกระทู้ต่อว่า    โอ้! แม่เจ้า  ฉันก็อยู่ของฉันดี ๆ นะ  แล้วไหงมาโพสชื่อฉันหราพร้อมกับประณามกลางเวบบอร์ดเสียอย่างนั้น   เธอไม่ชอบฉันก็ต่อว่ามาเป็นการส่วนตัวสิวะ    หรือจะแจ้งเวบมาสเตอร์ให้ลบกระทู้ของฉันก็ยังได้    ฮือ ๆ ๆ   TT_TT  ไอ้อาการสนุกสนานที่ว่าเลย..ชะงัก  ซึม  เศร้า  ไม่เข้าใจ    แต่ทำให้คนเขียนรู้ว่าตัวเองมีผู้ที่ชื่นชอบอยู่มากมาย    ทุกคนออกมาโพสข้อความต่อว่าคนตั้งกระทู้ และเรื่องราวก็สงบลงในเวลาต่อมา    mail box ของคนเขียนเต็มไปด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่มีเนื้อหาให้กำลังใจ 

ค่ะ  ใคร ๆ ก็ให้กำลังใจคนเขียน  แม้กระทั่งพี่ๆ  เวบมาสเตอร์ทุกคน   และพี่คนที่ว่านี้  คนที่บอกว่าเหงาไม่มีเพื่อนนั่นล่ะค่ะ   เมลมาปลอบใจน้องน้อย (( ตอนนั้นสรีระยังไม่ล่ำบึ้กเหมือนอย่างปัจจุบันนี้หรอกนะ  จะบอกให้  โฮ่ะ ๆ ๆ   ))   ไอ้น้องน้อยอย่างคนเขียนก็ตอบเมลไปทั้งน้ำตาว่ารู้สึกแย่มาก ๆ     ฝ่ายพี่ก็ขอเบอร์  น้องก็ให้ไป    ก็ขยับมาคุยทางมือถือ    คุณเธอปลอบใจตามประสาพี่ที่แสนดี และ .. จะว่าไป  พี่ว่าผู้หญิงคนนั้นกล้าหาญเหลือเกินนะคะ  ที่ลากน้องต้อมของใคร ๆ ออกมาว่ากลางบอร์ด   พี่ว่าเธอคนนั้นน่าสนใจดีค่ะ   พี่ชักอยากจะรู้จักเธอเสียแล้ว     โกรธค่ะ  คนเขียนโกรธ    ปลอบไป ปลอบมา ก็นัดเจอกัน    เปล่าค่ะ  คนเขียนไม่ได้อยากจะไปเลยแต่ถูกพี่บังคับ   เธอบอกว่า พี่ต่างหากต้องกลัวต้อม   นอกจากพี่อีกคนแล้วพี่ก็ไม่เคยนัดเจอใครนะ    ต้อมจะเป็นคนที่สองที่พี่นัดเจอ      อ่าววววววว .. แต่หนูยังไม่เคยเจอคนในเน็ตนะเว้ย     และด้วยความที่เป็นน้องแสนดีก็ต้องยอมไปแต่โดยดีใช่ไหมคะ? (( หลังจากที่ทำเป็นอิดเอื้อนไปเป็นเดือน ))    และคุณเธอให้โอกาสคนเขียนเป็นคนเลือกสถานที่ตลอดจนเวลาเหมาะ    หลังจากที่ยังไงก็เลี่ยงหลบไม่ได้ก็..เออ วะ  เอาใต้ต้นก้ามปู หน้าโรงพยาบาลแมคคอร์มิค ตอนสองทุ่ม ก็แล้วกัน

พอถึงวันนัด.. คนเขียนก็ทำงานในสวนทั้งวันพร้อมกับใจเต้นตุ้ม ๆ  ลุ้นให้พี่เขาติดประชุม  เป็นไข้  ปวดท้อง  ไม่สบาย  เลื่อนนัด    แต่ท่าคุณเธอจะสนุกกับการแกล้งคนเขียน    เห็นได้จากจะโทรเข้ามาเตือนเป็นระยะ ๆ กำชับไม่ให้คนเขียนลืมนัดสำคัญ    พอถึงเวลาบ่ายสามโมงก็บอกแม่..ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ    แหงล่ะ  ต้องใช้เวลาทำใจ   พอสี่โมงเย็นก็ขับรถเข้าเมือง    ใช้เวลาชั่วโมงกว่าก็..เอ๊ะ  ยังไม่ถึงเวลานัด  ไปไหนดี?  ไปร้านหนังสือดีกว่า?   แวะร้านหนังสือสุริวงค์เพื่อหาหนังสือ พระจันทร์เสี้ยว  ของท่านรพินทรนาถ  ฐากูล  ปราชญ์นักเขียนชาวอินเดีย ไปฝากคุณเธอเสียหน่อย    เดินหาจนขาลากก็ไม่เจอ    ขับรถไปร้านหนังสือดวงกมล..เดินจนขาลากอีกรอบก็ยังไม่เจอหนังสือเล่มที่ว่า   โอ้ หล่ะ หนอ   ตัดใจจะยกของตัวเองให้ก็แล้วกัน  แต่ไม่ได้เอาติดรถมาด้วย  แฮ่ะ ๆ ๆ   ไว้ค่อยส่งให้วันหลัง

หนึ่งทุ่ม..คนเขียนก็ขับรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลแมคคอร์มิค    นั่งรอด้วยใจระทึก   เอ..พี่เราจะเป็นคนยังไงล่ะเนี่ย?   เสียงเพราะนะแต่จะสวยหรือเปล่า?  เออ..ถ้าคุณเธอเบี้ยว เราก็มาเก้อล่ะสิ    ทำไมเรามาตามนัดวะเนี่ย?  คุยกันมาตั้งนานก็ยังไม่เคยขอดูรูปเธอเลย    จะน่ากลัวไหมวะ?    คิด คิด คิด   นับ 1..2..3..4..5.....50  ดูนาฬิกาจากมือถือ  อืมมม อีกไม่ถึง 10 นาที จะสองทุ่ม  โอ๊ยยย!!  อยากเข้าห้องน้ำ ๆ ๆ   ห้องน้ำอยู่หน๊ายยยยยยย?   เสร็จธุระและกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ  เสียงมือถือก็ดัง   สวัสดีค่ะ  น้องต้อม.. พี่อยู่ที่ร้านหนังสือในคาร์ฟูร์  จะหาหนังสือมาฝากต้อม  แต่ไม่เจอเล่มที่อยากได้เลย  งั้นพี่ติดไว้ก่อนนะคะ  ว่าแต่น้องต้อมอยู่ไหนแล้ว?  มาถึงโรงพยาบาลหรือยัง?  โอเค.. อีก 5 นาที เจอกันค่ะ    เออ..พอกันเลย

เดินเข้ามินิมาร์ทในโรงพยาบาล  ซื้อยูนิฟชาเขียวแช่เย็น ๆ  1 กล่อง   ดูด ๆ ๆ  ยูนิฟ   ฮือ ๆ ๆ   คนในเน็ตจะเป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย?   ก็หนูกลัว  TT_TT     เสียงมือถือดังอีกที สวัสดีค่ะ .. น้องต้อมอยู่ตรงไหนคะ  ตอนนี้พี่เอารถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถแล้วน๊า  .. จ้า...เดี๋ยวเจอกันค่ะ     

เดินออกมาอีกทาง  ใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ  คุยกับคุณเธอทางมือถือไปด้วย “ .. น้องต้อมคนที่เดินอาด ๆ ดูดนมมา ใช่ไหมค๊า?     คนเขียนก็ .. ค่ะ .. ใส่เสื้อสีน้ำเงิน  กางเกงขาสั้น  .. ค่ะ  ใช่ ค่ะ    กดสายทิ้ง.. มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหา   สวมเสื้อผ้าฝ้ายสีขาว  กางเกงยีนส์   หุ่นดีมาก   เท่ห์มาก   หน้าตาน่ารักมากกกกกกก   ดูไฮโซ๊ - ไฮโซ     เฮ้ยยย!!  คนในเน็ตสวยเป็นบ้า   ยกมือไหว้พี่เขา สวัสดีค่ะ    แล้วพากันเดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นก้ามปู   บรรยากาศวังเวง   มืดก็มืด  ยุงก็ชุม   พี่เขาถามอะไร..คนเขียนก็ตอบได้แค่ว่า ค่ะ   ไม่ค่ะ   อือฮึ      คุณเธอคอยแซวตลอดว่า ไม่เห็นคุยเลย    น้องต้อมในเน็ตคุยเก๊ง เก่ง     ก็แหม..นั่นในเน็ตนี่  แต่นี่ตัวเป็น ๆ

น้องต้อมหิวไหมคะ?

ไม่ค่ะ    ความจริงน่ะ  หิวสุด ๆ

พี่ว่าจะพาไปทานข้าว ..  ร้านนี้น่ารักมาก  คนไม่เยอะค่ะ  ....เงียบบบบบบบ....

ต้อมเคยเจอใครในเน็ตไหมคะ?

ไม่ค่ะ ....เงียบบบบบบบ....

เดี๋ยว น้องต้อมต้องขับรถกลับบ้านคนเดียวสิคะ?  ไกลเนอะ    ทำไมไม่ค้างกับเพื่อนล่ะคะ? ....เงียบบบบบบบ....

 

 

จนเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง ๆ  พี่ก็เงียบ  น้องก็เอาแต่ดูดยูนิฟชาเขียว    อย่าสงสัยเลยนะคะ  ยูนิฟก็กล่องนิดเดียว ทำไมคนเขียนดูดได้เป็นชั่วโมง ๆ   ..เออ..พี่ว่า เราคุยกันทางมือถือไหมคะ?    น๊านนน  แซวอีกขับรถเล่นกันไหมคะ?   ขับไปไหนดี?  น้องต้อมเคยขับรถขึ้นดอยสุเทพในเวลากลางคืนไหมคะ? สรุปแล้ว move ค่ะ   เดินไปที่รถ .. 

 รถต้อมคันไหน?  ขับให้พี่นั่งหน่อย

เออ.. รถต้อมจอดด้านโน้นค่ะ  แต่นี่เราเดินมาทางรถพี่นะคะ  ว่าแต่พี่น่ะ คันไหนล่ะ  คันนี้หรือเปล่า? ”  

พูดไม่พูดเปล่า  เตรียมจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถกระบะสี่ประตูรุ่นใหม่ล่าสุด  สุดเท่ห์  แต่พี่เขาเดินเลยไป อ่าวววว  แฮ่ะ ๆ ๆ    เดินไปหยุดอยู่ที่รถสปอร์ตคันสวยหรู   โอ้!!  พระเจ้าช่วย  คุณเธอขับรถไปทางซุปเปอร์โผล่ที่ถนนห้วยแก้ว  ชวนคุยไปเรื่อยค่ะ  แต่คนเขียนก็เงียบ    ขับรถขึ้นดอยสุเทพไปจนเกือบครึ่งทางก็..มีความเห็นพ้องตรงกันว่า เรามาทำไมคะ?  มืดจัง! น่ากลัว!  ลงไปข้างล่างเถอะค่ะ   

 แล้วก็ตกลงไปที่ร้านเฮือนโบราณบ้านริมปิง ที่คนเขียนเลือก    ค่ะ..ลงจากรถเดินเข้าร้าน   ช่วงสามทุ่มกว่านี่คนเยอะค่ะ   ได้โต๊ะนั่งริมน้ำปิงพอดี แต่แน่ล่ะที่ว่าคนเยอะ และคนเขียนก็เหงื่อแตก    ถึงแม้ว่าร้านนี้คนเขียนจะมาทานข้าวจนเกือบบ่อยแต่ว่าเวลาที่คนเขียนมามักจะเลือกช่วงที่ไร้ผู้คน   ฝ่ายพี่ก็.. ไหวไหมคะ?  แล้วปกติต้อมนั่งโต๊ะตัวไหนเอ่ย?    ปกติก็นั่งแถว ๆ นี้ล่ะค่ะ   แต่คืนนี้ทำไมคนเต็มร้าน ((วะ))

 

ย้ายไปนั่งตรงโน้นไหมคะ?    คุณเธอชี้ไปยังมุมผีสิง  มุมที่ไร้ผู้คน  ห่างจากน้ำปิงมาก   คาดว่าเธอคงรำคาญคนเขียนก็เลยชี้ไปส่ง ๆ   แต่คนเขียนกลับยิ้มร่า ดีใจ  ตอบไปว่า ค่ะ .. ตรงนั้นก็ดีค่ะ

เมื่อกับข้าวแต่ละจานมาวางตรงหน้า   เธอก็ตักใส่จานให้คนเขียน   เธอคุยไป เล่าไป ถามไป   คนเขียนเองก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ   ตาก็มองแต่จานของตัวเอง  มือที่ถือส้อมก็ม้วน ๆ วุ้นเส้นบนจานของตัวเองเล่น    ผ่านไปเกือบชั่วโมงเหมือนกันค่ะ    เธอก็เรียกบริกรมาคิดเงินและพาคนเขียนกลับไปยังโรงพยาบาลแมคฯ    คนเขียนยกมือไหว้ลาเรียบร้อย  เดินลงจากรถ  เดินที่ยังรถของตัวเอง  แต่ เฮ้!  ทำไมยังไม่ขับไปอีกวะ   อย่ามองตามหลังหนูสิ  หนูอายนะเว้ยยย!!  พอคนเขียนขึ้นไปนั่งบนรถ  ถอยรถออกมา  เธอก็ขับรถของเธอออกไป

ครั้งหลัง ๆ ที่สนิทสนมกันมากขึ้น   ก็สังเกตจากการเรียกคนเขียนนะสิคะ   จากน้องต้อม  >> เจ้า ต้อม  >>เจ้าลูกหมาน้อย >> ไอ้หมาต้อม     เธอก็บอกว่า ฉันล่ะกลัวแกจริง ๆ   นัดที่ไหนไม่นัด    นัดที่โรงพยาบาล  แถมยังนัดสองทุ่มอีก    มืดก็มืด   ....แว๊ดดด ๆ ๆ ....  

เนี่ยล่ะค่ะ   ครั้งแรกของคนเขียนกับการได้พาตัวเองออกไปเจอคนในเน็ต    และพี่สาวคนนี้เธอช่วยสอนคนเขียนเยอะมาก    ให้คนเขียนมีความคิดที่โตขึ้น    ในการสอนแต่ละครั้งก็ไม่ได้นุ่มนวลเหมือนแรกเช่นที่ได้รู้จักกันแต่เดิม   หมายถึงการสาดใส่กันอย่างรุนแรงทางตรรกะ  ทางความคิด   แต่เธอเป็นพี่สาวที่คนเขียนรักมากอีกคน   ^_^    และถัดจากเธอก็เป็นพี่สาวอีกคนในกลุ่มเดียวกันนี้   และก็เริ่มกล้าจะออกไปเจอตัวเป็น ๆ ของคนอื่น ๆ อีก  จากสองเป็นสาม  จากสามเป็นสี่  จากสี่เป็นห้า และก็ต่อ ๆ ไป   ซึ่งบางคนก็น่ารัก  และแน่นอนบางคนก็แสนร้าย    แต่คนเขียนก็ได้เข้าใจผู้คนมากขึ้น    ขอขอบคุณพี่ ๆ ทุกคน  ขอขอบคุณทุก ๆ เหตุการณ์ ที่ทำให้คนเขียนได้เรียนรู้ชีวิต   ขอบคุณค่ะ

 
หมายเลขบันทึก: 125612เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2007 13:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 21:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)
  • โห น้องต้อม
  • เลยไม่ทราบว่าพี่เขาชื่ออะไร
  • เสียดายจัง
  • ฮือๆๆ
  • อยากทราบครับ
  • สวัสดีค่ะ  ท่านพี่ขจิต โจ บา เอ..

เป็นสาวสวย  ฉลาด  สูง 174  อายุมากกว่าต้อม 5 ปี   แต่ขอเตือนว่าเวลาอ่อนหวานก็อ่อนหวาน   แต่เวลาสาดใส่ตรรกะทางความคิดเข้าหากันนี่  บางคนที่ไม่เคยเจอพวกต้อมคุยกัน  แต่แอบถามคนอื่นว่า " นี่.. พวกเขาทะเลาะกันใช่ไหม? "   โอ้  ป๊าววว  เราสองคนคุยกันตามปกติจ้า   อิอิ

 

คือจะบอกว่า .. สวก  <<  แปลว่า ดุ

  • ดูจากลายมือแล้ว
  • เป็นคนหนักแน่น
  • แต่ชีวิตวุ่นวายมาก
  • ฮ่าๆๆๆ
  • พ่อหมอขจิต โจ บา เอ..

อ่าววว ๆ ๆ   ไหน ๆ ก็ดูดวงแล้ว  ก็ดูให้ครบทุกเรื่องเซ๊   อย่างเรื่องความรักงี้   เรื่องกระเป๋าตังค์งี้   เรื่องงานงี้    แต่ดูฟรีนะคะ   ต้อมม๊ะมีกะตังค์จ่ายค่าดูหมอ  แฮ่ะ ๆ ๆ

  • พ่อหมอดูได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องความรัก
  • แค่ตัวเอง พ่อหมอยังเอาไม่รอดเลยครับ
  • อิอิๆๆ
  • แวะมาดู ลายมือ คะ
  • ฮ่าๆ...ลายมือแบบนี้ต้องทำกับข้าวเก่งแน่ๆใช่ไหมคะ
  • ก็ดูจากหุ่นไงคะ...น่าจะหนักสัก..45 ปลายๆอิอิ
  • ต้องทำอาหารอร่อยมากเลย
  • น่าจะมือหนักนะคะ(ดุคะ)...ลองพับมือสิคะเส้นสมองยาวตรงแบบนั้น...มักพบในมือผู้ชายคะ
  • แล้วเส้นใจยังยาวถึงนิ้วชี้อีก เป็นคนโรแมนติก คะ
  • อ้อเส้นวาสนา...ออกจะยุ่งๆแบบที่หนุ่มคนโน้นว่าละค่า
  • บางทีนะคะ...คุณต้อม...คนที่อยู่ที่ทำงานนะตัวปลอม...แต่ในเน็ตนะตัวเราจริงๆ
  • บางครั้งเราก็ไม่อยากเปิดเผยตัวตน...เพราะไม่รู้ว่าที่เขาดีกับเรา...เพราะสถานะทางสังคมของเราหรือปล่าว
  • หลายครั้งที่เราต้องฝืนใจทำหลายสิ่ง...
  • อย่างตัวจริงฉันนี่...แสนจะน่าร๊าก...ชอบสายลมแสงแดด...รักธรรมชาติไม่รังเกียจคนจน...แถมรักเด็กอีก
  • คุณสมบัติเหมาะเป็นนางสาวไทยเลย...แต่ต้องเพิ่มความสูงอีกนิด...แบบพี่สาวคุณไง...เธอเป็นนางสาวเชียงใหม่ด้วยหรือปล่าวคะ...ถามแทนหนุ่มคนเก่าความคิดเห็นข้างบนนั่นละคะ
  • ฉันชอบมิตรภาพที่เกิดขึ้นใน G2K คะ
  • พ่อหมอขจิต โจ บา เอ..

อ่าววว ๆ ๆ  ไหงงั้นล่ะคะ?  ต้องดูให้ได้ครบทุกเรื่องสิ บังคับ ๆ ๆ  งั้นเปลี่ยนคำถามค่ะ  หวยงวดหน้าจะออกเลขอะไร?  พ่อหมอตอบได้ไหมเอ่ย?  โฮ่ะ ๆ ๆ

  • คุณ naree คะ..

คุณนี่นะ .. เป็นวิกิพิเดียจริง ๆ ด้วย  ^_^  นี่ชมนะ  ต้อมชม

มาลองดูกันนะ  ว่าแม่หมอวิกิพิเดียของเราจะทายถูกเรื่องอะไรมั่ง?
- ต้อมทำกับข้าวไม่เก่งค่ะ   เท่าที่เห็นก็คือเพราะชอบฝันถึงรสชาติ  ฝันถึงหน้าตาอาหารจาน ๆ นั้น เท่านั้นเอง  และอยากทำออกมาให้ได้อย่างที่คิด ที่ฝัน   และโชคดีที่ทำออกมาแล้วอร่อย
- โฮ่ะ ๆ ๆ  หุ่นน่ะ ตุ๊ต๊ะค่ะ  รูปเนี่ยราว 2 ปี ได้แล้วมั้ง คุณ
- มือหนักค่ะ   เวลาใครมาแตะเนื้อต้องตัว  มือไปก่อนเลย  ผั๊วะ!!  เพื่อนบ่นอุบ..มือเธอหนักมากกกกกกก
- มีคนเคยบอกว่าต้อมโรแมนติก  อืมมม อันนี้คุณต้องมาพิสูจน์เสียล่ะมั้ง  โรแมนติกคืออารมณ์หวานไหว  ชอบทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ารัก ๆ ด้วยหัวใจให้ใคร ๆ ชอบมองฟ้า  ดูดาว  ฟังเพลงหวาน ๆ แอบฟังเสียงสายลมกระซิบกระซาบ ล่ะก็คงใช่มั้งคะ
- เส้นวาสนา ท่าจะไม่มีเสียแล้วกระมั้ง  ลำบ๊ากก - ลำบาก

ต้อมว่า..คนในเน็ต หรือนอกเน็ต  ก็คือคน ๆ เดียวกัน  และในตัวของคน ๆ หนึ่งอาจจะมีหลายภาค  หลายอารมณ์  หลายความรู้สึก  อันนี้ต้อมไม่เคยถือนำมาเป็นสาระสำคัญ   ขอแค่..จริงใจ ก็พอค่ะ   เคยบอกกับพี่ ๆ หลายคนไปว่า " ต้อมไม่สนหรอกว่าพี่จะรวยแค่ไหน  เรียนจบมาจากประเทศอะไร  เป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตขนาดไหน  ดำรงตำแหน่งอะไร  แต่ต้อมคบพี่เพราะเป็นพี่  ไม่ใช่สิ่งที่ครอบปิดตัวพี่ไว้ ...."   บอกไป  หลายคนอึ้ง   อิอิ  ทำพูดดีไปงั้น  แต่จริง ๆ หนูกลัวไฮโซ  55

มิตรภาพดี ๆ มีอยู่ในทุกที่ค่ะ  ^_^

สวัสดีค่ะคุณต้อม พี่มันพวกโลว์เทค และพิมพ์ภาษาไทยก็ช้า เลยไม่เคยใช้เว็บบอร์ด มาเขียนสื่อสารกับคนที่ไม่รู้จักตัว แต่สื่อสารอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องเป็นราวก็ในG2Kนี่แหละค่ะเป็นครั้งแรก พบแต่คนน่ารักๆทั้งนั้น และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย พี่ว่าที่นี่เขาคัดตัวคนด้วยความดีของผู้ที่มาก่อน ทำให้พวกไร้คุณธรรม มีเจตนาแอบแฝงไม่อยากมาเสวนาในวงนี้เพาะผิดที่

เข้ามาเขียนแล้วสบายใจ คือได้เขียนเล่าเป็นบันทึกของตัวเอง ดังนั้นแม้นไม่มีคนอ่านก็ไม่เป็นไร แต่ส่วนใหญ่จะมีคนอ่าน แสดงความเห็นทำให้เพลิดเพลินดี ได้ความคิดหลากหลาย ได้ทั้งกัลยาณมิตร และความรู้

เอาไว้ไปเชียงใหม่จะขอพบตัวเป็นๆคุณต้อมบ้าง การพบคงไม่น่าระทึกขวัญหรอกนะคะ ก็เราพอเห็นรูปกันแล้วนะ

 

   สวัสดีค่ะคุณต้อม

  • อ่านบันทึกของคุรต้อมแล้วแทบไม่เชื่อนะค่ะว่าจะเนี๊ยม....ขนาดนั้น     น่าจะแนว..คุยเก่ง...ขี้อ้อน...น่ารัก..ประมาณนั้น
  • ใครๆจะเลือกวิธีใดในการนำเสนอตัวเองแบบใดก็ตาม....หญ้าบัวถือว่าเขามีเหตุผลส่วนตัวค่ะ...ไม่ว่ากัน
  • หญ้าบัวสมัครสมาชิกครั้งแรกแบบไม่รู้เรื่องค่ะ...อาจารย์ beeman  แนะนำโดยบังเอิญ  ก็ใส่ข้อมูลจริงทั้งหมดเลยค่ะ....(เปิดเผยมาก..ถึง..มากที่สุด )     แบบไม่สันทัดเรื่อง IT ว่างั้นเถอะ....(เอ๊ะ...แล้วใครถามเนี่ย...)
  • บ๊าย..

  • สวัสดีค่ะ  พี่นุช ..

ณ ตอนนั้นที่เข้าไปตรงนั้น  จุดที่เริ่มต้นเล่นบอร์ดนั้น  เป็นเพราะต้อมเหงา   ความเหงาเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้อมเข้าไปดูคนอื่นพูดคุยกันผ่านทางเวบบอร์ด  และจากการที่เฝ้าดู  บางกระทู้ก็น่าสนใจจนเราอดที่จะอยู่ดาย  มองดูแต่เพียงเท่านั้นไม่ไหว   ขอตอบไปบ้าง  แสดงความคิดของเราว่าเรารู้สึกแบบนี้นะ    และพอเริ่มตอบ..อ๊าววว มีคนตอบกลับมาด้วย   เออ  ดีแฮะ  เลยชักจะสนุก  แรก ๆ ใครๆ ก็ดูน่ารักไปหมด   แต่พอได้เรียนรู้กันมากขึ้นก็ต้องเจอกับผู้คนหลากหลาย และเรื่องราวมากมาย   

เมื่อได้เรียนรู้ก็เข้าใจผู้คนมากขึ้น   ไม่ว่าจะในโลกไซเบอร์หรือโลกความจริงก็ย่อมมีทั้งคนดี  คนเลว   หลาย ๆ ครั้งต้อมเจอเรื่องหนักมาก   ก็ได้แต่ทำใจ และคิดเสียว่า คนที่คิดไม่ดี  พูดไม่ดี  ทำไม่ดี     สักวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้จะย้อนกลับไปหาเขาตามกระแสกฏแห่งกรรม

แต่หลาย ๆ ครั้ง ต้อมก็ได้เจอปิยมิตรจากในโลกไซเบอร์    ที่ให้ทั้งความรู้  ให้ทั้งกำลังใจ   สิ่งเหล่านี้เป็นคล้ายน้ำทิพย์ชะโลมใจนะคะ

และถ้ามีโอกาสได้เจอพี่นุชบ้าง   คงนับว่าเป็นโอกาสอันดีของต้อม    ที่จะได้เจอผู้หญิงเก่ง - สวย - รวยความคิด ดี ๆ อีกคน    ขอบคุณค่ะ

วันนี้วันศุกร์ .. ขอให้พี่นุชสุขใจนะคะ  ^_^

  • ครูหญ้าบัว ที่น่ารัก..

ก็เนี๊ยม..ขนาดที่ครูนึกไม่ถึงน่ะค่ะ  ^_^   คล้าย ๆ มีสองบุคลิกในตัวเอง  ภาคเหงา เศร้า กับ ภาคโอ๊ววว ลั๊นน ลา  ขี้อ้อน พี่ ๆ   อะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ    ต้อมคุยผ่านตัวหนังสือแบบเริงร่านี่ได้นะคะ   แต่ถ้าตัวเป็น ๆ ล่ะ  ทำให้พี่ ๆ หลายคนบอกเหมือนกันว่า " ทำไมน้องโซเรียบร้อยจังเลย  ดู๊ - ดู "   อ่าววว  ก็นี่ล่ะ หนูน่ะ  และถึงจะอยู่ในภาคไหนก็เป็นตัวตนของต้อมนี่นา  เนอะ เนอะ  

ต้อมคิดเสมอว่า  ต้อมรู้จักพี่ ๆ เท่าที่พี่ ๆ อยากจะให้รู้จัก   ไม่ละลาบละล้วง  ไม่ถาม  ไม่สนใจรู้ ในสิ่งที่เขาไม่อยากให้รู้  พี่ที่แสนรักคนปัจจุบัน  ต้อมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชื่ออะไร  ทำงานอะไร    พี่ ๆบางคน " นี่.. ต้อมไม่สนใจจะถามพี่บ้างเลยหรือคะ? "   แฮ่ะ ๆ ๆ   ไม่ค่ะ   อยากเล่าก็เล่า  ให้ถาม  หนูม๊ะอาววววววว  ไม่ใช่ไม่สนใจ  แฮ่ะ ๆ ๆ เพราะถึงพี่ ๆ จะบอกมา  หนูก็จำไม่ได้อยู่ดี  ขี้ลืม ๆ  อิอิ  และที่สำคัญ..ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวค่ะ   รวมทั้งตัวต้อมเองด้วย

ต้อมค่อนข้าง protect ตัวเองมาก ๆ  แต่เมื่อเราไว้วางใจใครสักคน  เราจะหลงลืมที่จะดูแลตัวเอง  และเมื่อเจอกับวิกฤต   ก็รู้สึกแย่มากค่ะ   แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังต้องมีเรื่องราวเหล่านี้รบกวนจิตใจอยู่เรื่อย ๆ  ประสบการณ์โดยตรงจะสอนให้เราดูแลตัวเอง  ปกป้องตัวเองค่ะ ครู    เรียนรู้แบบรู้ลึก - รู้จริง  อิอิ

คิดถึงครูจัง!!   คิดถึง  คิดถึง   ^_^  

  • เห็นคุณต้อมแว็บๆ...ในโลกไซเบอร์อิอิ
  • แวะมาหลายรอบแล้วแต่ยังไม่เห็นมีบันทึกใหม่
  • รอบนี้เอาดอกไม้ที่บ้านมาฝากอีกแล้ว
  • วันก่อนให้ดูแต่ใบ..ฮ่าๆ..(วันหน้าจะเปิดสวนแห่งความรักของฉัน...แบ่งปันคนอื่นๆคะ...ตอนนี้สวนรกยังไม่ให้ดู)
  • ชอบมากคะ...หอมด้วยนะคะ...ยกให้คุณต้อมทั้งช่อเลย
  • อิอิ..มันเป็นช่อของมันอยู่แล้ว...
  • ชื่อ นางแย้ม คะ...คุณต้อมจะได้ยิ้มแย้มตามนะคะ
  • Flower007
  • คุณ naree ..

ตั้งใจเขียนเรื่องใหม่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ  แต่หาหนังสือเล่มที่ว่าไม่เจอ  แบบว่า..บ้านต้อมอยู่ชนบทไปนิ๊ดดด   

อ่าววว ๆ  เจอกันในโลกไซเบอร์แล้วแว๊บ ๆ ก็ไม่ทักกัน   เลยวิ่งผ่านสวนทางกันไป - มา  ว๊า!!  ขอบคุณสำหรับดอกนางแย้มที่แสนหอม นะคะ  ^_^  

วันนี้..งานคุณไม่วุ่นวายหรือคะ?  อ๋อ  ให้เป็นวันศุกร์ที่สุขใจนะคะ

เมื่อวานตอบยังไม่เสร็จ น้องก็ โทรมาเลยไม่ได้บันทึกตอบเข้าไปค่ะ  จะยังไงก็ตามถือว่า  การเข้าไปโลดแล่นในโลกไซเบอร์  นั้นอยู่ที่ว่าเราควรใช้วิจารณญานในการตัดสินใจเลือกคบ  พูดคุย  หรือจะนัดเจอ  เพราะคนเรา  แค่หน้าตาไม่ใช่ตัวตัดสินว่าดี หรือไม่  ต่อเมื่อได้สัมผัสหรือพูดคุยกัน การแสดงความเห็น  ในแง่มุมต่างๆ  ก็พอจะทำให้เราได้ทำความรู้จักตัวตนในเบื้องต้น  และต้องใช้เวลามากกว่าจะรู้ว่าเค้าคิดอย่างไรกับเรา  บางครั้งกว่าจะรู้ว่าเป็นอย่างไร ก็ทำให้เราเสียความรู้สึกไปได้เหมือนกันนะคะ  การมองคนในแง่บวก ก็ดี  อย่างน้อยทำให้เราสบายใจกว่า  มองแต่ในแง่ลบ จะทำให้เราไม่ใคร่จะต้องการคบหากับใคร ก็เหมือนการปิดกั้นตัวเราเกินไป  แต่ดีอย่างหนึ่งคือทำให้เราได้ประสบการณ์การเรียนรู้ผู้คน  ทันคน  และมองคนได้กว้างขึ้น  แต่การได้ประสบการณ์บางครั้งก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด  เสียใจบ้าง   ก็ต้องยอมรับมันนะคะ  ส่งกำลังใจให้เข้มแข็งนะคะ

  • สวัสดีค่ะ
  • โลกของไซเบอร์...ก็มีหลากหลายรูปแบบ ครบทุกรสชาติเลยล่ะ...เราต้องเลือก และแยกแยะให้ออกว่า อะไรควร หรือไม่ควรอย่างไร จริงไหมค่ะ...
  • ปัจจุบันนี้...ค่อนข้างเป็นห่วงวัยรุ่นสมัยนี้มากเลย เพราะมีหลายคนมากที่...ใช้โลกไซเบอร์ไปในทางที่ผิดค่อนข้างมาก...
  •  พี่นะ...ถ้าว่าไปถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน ก็สัมผัสกับโลกไซเบอร์นี้มานานประมาณสัก 3 - 4 ปี  ได้มั่ง มีทั้งเพื่อนที่คุยกันแบบไม่เคยเห็นหน้า ฟังแต่เสียงมานานเกือบ 3 ปี ก็ว่าได้ ประเภทที่เจอตัวจริงเสียงจริงมาแล้วก็มี อิอิ...แต่ก็ค่อนข้างเลือกที่จะคบเหมือนกัน...ไม่คบสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก กลัวจะมีปัญหาตามมาภายหลัง 
  • แต่ในความวุ่นวาย สับสน ของโลกไซเบอร์ใบนี้...ก็ยังมีอะไร ๆ อีกหลายอย่างที่เป็นส่วนดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ หรือสาระความรู้ ที่ให้กับเรา ๆ ท่าน ๆ....โดยเฉพาะมิตรภาพ และน้ำใจของคนชาวโกทูโนในนี้...จริงไหมค่ะน้องต้อม 

สวัสดีครับคุณต้อมผู้มีโลกส่วนตัวสูง

              จะว่าไปผมก็คิดแบบคุณต้อมในตอนแรกนะครับ  แต่ต่างกันที่ทุกวันนี้ความคิดเช่นนั้นผมก็ยังไม่เปลี่ยนนัก  ผมยังคอนเซอเวทีฟ กับเรื่องเทคโนทั้งหลายอยู่  นะ

               ผมไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นและรู้โดยผ่านทางการสื่อสารแบบไม่มองหน้าไม่มองตาแบบนี้  และก็ไม่อยากให้ใคร ๆ เชื่อในสิ่งที่ผมสื่อเหมือนกัน

               แต่มันก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะเปิดออกไปสู่การเชื่อ และรับรู้สึกด้วยวิธีสื่อสารสัมพันธ์แบบมนุษย์ดั้งเดิม

               แต่สำหรับที่นี่ผมยอมรับว่ามีความรู้สึกที่แตกต่างจากสังคมเนตอื่น ๆ อยู่ชัดเจน  แต่ผมก็ยังไม่ตีความรูปแบบของความสัมพันธ์แบบมนุษย์ดั้งเดิม  จนกว่าจะเปิดออกไปสู่การพบปะคบหากัน

              ผมสรุปในความเห็นส่วนตัวผมนะครับว่าโดยรวมแล้วไซเบอร์ไม่ได้ดีหรือไม่ดี  มันก็คือสิ่งประดิษฐ์รูปแบบหนึ่งของมนุษย์ที่มีใหม่อยู่ตลอดเวลา  เพียงแต่มันทำให้รูปแบบความสัมพันธ์  การสื่อสาร การเปิดรับมิตรภาพ ความรัก ความปรารถนาดี ความเห็นอกเห็นใจ ฯลฯ  อื่น ๆ อีกมากมายของมนุษย์เรา ต่างไปออกไป  และไม่รู้ว่ามันจะดีหรือไม่ดีกันแน่ในระยะเวลาที่ยาวออกไป ..............................

               ครับ  ผมค่อนข้างคอนเซอเวทีฟ ( ขอย้ำเหมือนกันครับ )

               ขอบคุณครับ

           

  • พี่นิศาชล คะ..

ขอบคุณค่ะ สำหรับกำลังใจที่มีให้มาโดยตลอดระยะเวลาเกือบปี   

ค่ะ  ประสบการณ์..บางครั้งอาจจะต้องแลกด้วยความเจ็บปวด  น้ำตา บ้าง  แต่นั่นจะทำให้ต้อมรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น    หากไม่มีประสบการณ์ตรงนี้  ต้อมก็ยังจะไม่รู้  ยังจะมองโลกสดสวย และน่ารักไปหมด   

 

 

อืมมม  (( ยังงอนนนนนนนอยู่ ))   พิมพ์แค่นี้ล่ะ  ฮึ!! 

  • สวัสดีค่ะ  คุณ Sirintip..

ค่ะ  โลกไซเบอร์มีหลายรูปแบบ หลายรสชาติจริง ๆ ซึ่งเราต้องรู้จักแยกแยะ ว่า ควรหรือไม่ควร  อะไรดีหรือไม่ดี  

เห็นเด็กสมัยนี้ใช้อินเตอร์เน็ตในทางที่ไม่ถูก ก็ทำให้รู้สึกเป็นห่วง

ตัวต้อมเองก็ผ่านการเจอะเจอผู้คนหลากหลาย ได้ประสบการณ์เยอะเหมือนกันค่ะ   ทั้ง ๆ ที่คิดว่าเซฟตัวเองดีแล้ว  แต่ก็มีปัญหาตามมาอีกเรื่อยไป   นึกเบื่อหน่ายเหมือนกัน

และท้ายที่สุด.. G2K เป็นที่ ๆ ต้อมเลือก  และก็เห็นว่าที่นี่ทุกคนมีวุฒิภาวะที่ดีค่ะ   ดีใจที่ได้ค้นพบ G2K

  • ฮือๆๆหาบันทึกพี่นิศาชลไม่พบ
  • ฮือๆๆๆๆ
  •  สวัสดีค่ะ  คุณ mr. สุมิตรชัย คำเขาแดง ..

ต้อมเองก็หัวโบราณนะคะ  แต่บางที - บางครั้ง - บางเรื่อง ต้อมก็เปิดใจ  เพื่อการเรียนรู้  อิอิ   เมื่อก่อนไม่เชื่อสัมพันธภาพในดลกไซเบอร์เลย  ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่   คงเพราะเจอมาเยอะ  เรื่องร้าย ๆ   แต่ก็.. ถือเป็นบทเรียนค่ะ  เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ต้อมได้เรียนรู้โลกและผู้คนมากกว่าเดิม

เมื่อก่อนจะเซฟตัวเองมาก ๆ  คือการคุยด้วยตัวหนังสือมันน่ากลัวนะ  เราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร  เป็นอย่างไร    แต่ด้วยความที่เจอกลุ่มพี่ ๆ กลุ่มแรกที่น่ารักก็เลยทำให้ย่ามใจ   ทำความรู้จักกับผู้คนอื่น ๆ อีก   และทั้ง ๆ ที่ต้อมเซฟตัวเองมากก็ยังพลาดเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ ที่มาทักทายและแลกเปลี่ยนความรู้กัน  ^_^

  • ท่านพี่ขจิต โจ บา เอ..

ก็ใครบอกว่าพี่นิศาชลใช้ชื่อ นิศาชลเขียน blog ล่ะ  ฮึ!

อิอิ

ป.ล.  ตอนนี้ ต้อมกำลังง่วงมาก  ตาปรือแล้วน๊า  งานยังไม่เสร็จ  ฮือ ๆ ๆ ต้องปั่น ๆ ๆ

  • ธุ ลุงเอกค่ะ..

ลุงเอกสบายดีนะคะ ^^    ต้อมเป็นนาง(สาว)อาย  อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท