มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน
ว่าที่ร้อยตรี จิรศักดิ์ กรรเจียกพงษ์

แมกกาซีน + วีซีดี หวือ หวิว สยิว เซ็กซ์ ( ? )


เวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่ชายหนุ่มกวาดสายตาไปหยุดนิ่งอยู่ตรงภาพนางแบบสาวในท่วงท่าชวนสยิวบนแผงหนังสือ เขาถึงกับต้องตะลึงตาค้าง น้ำลายไหล ออกอาการสั่นระริกอย่างสุขล้น...
       
       พลิกหน้าต่อไปยังคงปรากฏให้เห็นเรือนร่างอันงามงอนของหญิงสาววัยแรกรุ่น สะโพกโค้ง ร่องเอวลึก ทรวงอกขาวผ่อง ท่อนแขนได้รูป ผิวพรรณนวลเนียน และที่สำคัญบนเนื้อตัวของเธอมีเพียงชุดชั้นในสีขาวตัวบางจิ๋วปกคลุมเนินเนื้อส่วนสำคัญไว้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ถึงแม้ว่าภาพเด็กๆ สาวๆ วัยละอ่อนเหล่านั้นจะไม่ถึงกับเปลือยหมดเสียทีเดียว แต่ก็วาบหวิวได้ใจจนสามารถเข้าถึงวัตถุประสงค์ของผู้จัดทำในการนำเสนอภาพเหล่านี้ ได้เป็นอย่างดี
       

       ซึ่งปัจจุบันตามท้องตลาดนิตยสารบ้านเรากำลังก่อกำเนิดเทรนด์ใหม่ในการสร้างสื่อผสมผสานระหว่างวีซีดีกับนิตยสารเข้าด้วยกัน และเวลานี้นิตยสารดังกล่าวได้มีการว่างจำหน่ายให้เห็นกันอย่างโจ่งครึ่ม เกลื่อนตลาด ซึ่งภายในหีบห่อจะประกอบไปด้วยแมกกาซีนอัลบั้มภาพที่มาพร้อมกับวีซีดีในรูปแบบมูฟวี่เบื้องหลังการถ่ายภาพนิ่งพร้อมบทสัมภาษณ์นางแบบแนวยั่วยวนความยาวประมาณ 50 นาที แถมฟรีมาด้วย
       
       และไม่ว่าจะเป็น MEMO, ING, NEED ฯลฯ รวมไปถึงนิตยสารที่มีนายแบบหุ่นล่ำบึกมายืนโพสแบบนุ่งน้อยห่มน้อยอย่าง M2M ทั้งหมดสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 90 บาทขึ้นไป โดยทุกเล่มล้วนเป็นนิตยสารรายเดือนที่มีหัวหนังสือ และกำหนดระยะเวลาการจัดจำหน่ายชัดเจน แต่ทำไมยังไม่มีใครใคร่เข้าไปควบคุมดูแล กลับปล่อยให้เกิดช่องว่างจนเด็กสาวตัวน้อยๆ ออกมาสวมชุดบิกินีเริงร่าขึ้นปกกันอย่างไม่สะทกสะท้าน
       
       FOR MEN MAGAZINE ON VCD.
       
       ต้องยอมรับว่าหญิงสาววัยอิ่มเอิบที่บรรจุอยู่ในนิตยสารทำให้บรรยากาศที่ร้อนระอุนั้นกลับแจ่มใส ซาบซ่านมากขึ้น แต่หากมองอีกมุมหนึ่งจะพบว่าอัลบั้มภาพที่พ่วงมาพร้อมกับวิดีโอซีดีดังกล่าวนั้น เสมือนเป็นการผสานพลังกันสร้างภาพที่เร่งเร้ากามารมณ์ของยอดชายได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
       
       ชวลิต เจริญสุข บรรณาธิการนิตยสารพ่วงวิซีดีที่มีชื่อว่า ING เล่าให้ฟังว่า ING ‘I and girl’ motion magazine for men มีจุดเริ่มต้นมาจากความคิดที่ว่า คนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาเยอะๆ เลยหันมาทำเป็นอัลบั้มภาพ แล้วนำเสนอเบื้องหลังการทำงานลงในวีซีดีผู้บริโภคให้ได้ชมกัน เพราะวีซีดีถือเป็นจุดดึงดูดความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อได้ดี มากกว่าการดูภาพนิ่งธรรมดาๆ
       
       “ทางเราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมักชอบดูและอยากรู้ในสิ่งต่างๆ ที่เป็นเบื้องหลังมากกว่า คอนเซ็ปต์ของนิตยสารแถมวีซีดีที่เรากำลังทำกันอยู่นี้ จึงออกมาเป็นการภาพถ่ายแฟชั่นวัยรุ่นกึ่งเซ็กซี่ กึ่งน่ารักสดใสปนๆ กันไปอยู่ในนั้น ไม่ได้โป๊จ๋าหรือแฟชั่นจ๋าซะทีเดียว เพราะเนื่องจากกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ คือ กลุ่มเด็กมหาวิทยาลัย และกลุ่มวัยทำงานตอนต้น คนมีอายุคงไม่ซื้อนิตยสารเราอ่านแน่ๆ เพราะมันวาบหวิวเพียงแค่นิดๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีบางคนมองพร้อมตั้งคำถามว่า มันโป๊เยอะไปหรือเปล่า?” ซึ่งทางเราเองคิดว่าไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเราทำกันอยู่ในกรอบของกระทรวงวัฒนธรรมที่เขาตั้งไว้ คือเรามีการไปสืบๆ มาจากพวกนิตยสารโป๊เปลือยที่กำลังถูกจับตามองอย่างหนักทุกวันนี้ว่าเขามีกรอบการถ่ายแบบไหนกัน
       
       “ทางด้านผลตอบรับจากผู้บริโภคสำหรับหนังสือประเภทนี้ เราคิดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ แต่นั่นก็ยังไม่ถึงที่ความต้องการที่เราได้คาดไว้แต่ต้น แต่ถือว่าดีในระดับหนึ่ง จากความนิยมดังกล่าว มีผลทำให้ทุกวันนี้สื่อที่เป็นนิตยสารแถมซีดี เริ่มมีคู่แข่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” บรรณาธิการ ING เล่าให้ฟัง
       
       เมื่อถูกมองว่า การทำสื่อในลักษณะเช่นนี้ต้องการเอาเด็กมาเป็นจุดขาย เอาเยาวชนมาเป็นเครื่องมือทางการค้าเพื่อดึงดูดทางเพศ ชวลิตพร้อมจะให้คำอธิบายกับทุกคนว่า
       
       “นางแบบที่มาร่วมงานกับเราส่วนใหญ่จะมาจากโมเดลลิ่งส่งมา หรือบางครั้งก็มีเด็กวัยรุ่นเห็นว่าภาพถ่ายไม่เซ็กซี่ ไม่โป๊ อยู่ในเกณฑ์ที่พวกเขารับได้ เด็กๆ เหล่านั้นก็จะมีการขอเข้ามาถ่ายกันเองบ้าง คงเป็นเพราะเห็นว่าสวยงาม และน่ารัก แนวใสๆ แบบญี่ปุ่น มากกว่าสื่อไปทางเซ็กซ์ หรือลามก”
       
       MOUTH TO MOUTH.
       

       “มีสาวๆวัยรุ่นอยากเข้ามาถ่ายด้วยเยอะมาก เมื่อเป็นความคิดของเด็กๆสาวๆ ทางเราก็ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเอาทุกคนมาถ่าย ทางเราก็ต้องมีการแคสติ้งกันก่อนด้วย เพื่อเป็นการสกรีนเด็ก ไม่ใช่ใครอยากถ่ายก็จะได้ถ่าย ไม่ใช่ว่าเอามาถ่ายแล้วหนังสือขายไม่ได้จะเอามาถ่ายทำไม
       
       “เด็กๆ หรือนางแบบที่เข้ามาส่วนหนึ่งเห็นหน้าตาหนังสือเราเลยอยากถ่ายก็มี บางคนก็แนะนำต่อๆ กันมา อย่างเล่มล่าสุดนี้เพื่อนถ่ายก็จะไปชวนเพื่อนอีกคนมาถ่าย ซึ่งจะมีนางแบบไม่ซ้ำหน้าแน่นอน และทางเรายังมีการเซ็นสัญญายินยอมก่อนถ่ายอยู่แล้ว ในสัญญาก็จะมีระบุไว้ว่าจะถ่ายลงวีซีดีและภาพนิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่นิตยสารของเราจะถ่ายทำกันนอกสถานที่ทั้งหมด
       
       “ตอนนี้ส่วนตัวคิดว่าหนังสือ ING ที่ทำอยู่ถือว่าวาบหวิวน้อยมาก ความจริงอยากทำให้วาบหวิวมากกว่านี้อีกนิดหน่อย แต่นั่นก็หมายความว่า ต้องเปลี่ยนนางแบบให้โตกว่านี้นิด ซึ่งตอนนี้อายุของนางแบบเราก็เริ่มมีการอยู่ที่18 ปีขึ้นไป แต่ส่วนใหญ่ที่มาถ่ายตอนนี้จะอายุประมาณ 20 ปีไปแล้วทั้งนั้น แต่ถ้าจะปรับให้วาบหวิว หรือเซ็กซี่ขึ้นคนถ่ายก็ต้องอายุมากขึ้น และแทนที่กลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย ก็อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นคนวัยทำงาน ในอนาคตถ้าวาบหวิวมากกว่านี้ได้ เราก็จะไม่พยายามให้เกินเลยมาตรฐานของกระทรวงวัฒนธรรมแน่นอน” ชวลิตเล่าให้ฟัง
       
       VCD. NOT FOR SALE
       
       ทางด้าน สุรยุทธ วิไลลักษณ์ บรรณาธิการนิตยสารแถมวีซีดีที่มีชื่อว่า ‘MEMO’ ซึ่งหากจะพูดว่าเขาคือ เจ้าแรกที่ผลิตแมกกาซีนแถมวีซีดีที่นำสาวๆ มานำเสนอความคิกขุโนแนะก็คงไม่ผิด
       
       “MEMO เราเน้นขายตลาดที่อยู่ในวงการหนังสือ แต่ก็ยังไม่ทิ้งการทำสื่อที่เป็นมัลติมีเดียภาพเคลื่อนไหวรองรับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบงานประเภทนี้ด้วย หนังสือแบบนี้จะพูดว่า อยากอ่านก็คงไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้มีเนื้อหาอะไรสักเท่าไหร่เลย มีแต่รูปภาพอย่างเดียว
       
       “เราไม่ได้มีการจำกัดหรือแบ่งแยกประเภทผู้อ่าน เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ไม่ได้โชว์ของต้องห้ามให้เห็นแม้เพียงเล็กน้อย เป็นบิกินีแบบสปอร์ต หรือเสื้อสายเดี่ยว ทุกวันนี้จะมีคำหนึ่งที่ทุกคนมักพูดกันติดปากคือ “สวยใส เซ็กซี่ สไตล์ MEMO” โดยจะเป็นที่รู้กันว่าต้องเป็นเด็กน่ารัก สดใส บ้องแบ๊ว และน่าเอ็นดู เรื่องการโป๊ เปลือยตามมาที่หลัง เรามีลิมิตโดยเน้นเสมอว่าจะไม่ได้ทำแมกกาซีนปลุกใจเสือป่าแน่นอน
       

       “ที่มีนางแบบเด็กๆ หันมาทำงานแบบนี้กันเยอะอาจจะเป็นเพราะว่า ข้อแรกเรื่องของรายได้พิเศษ ตามมาก็เป็นเรื่องของการสะสมประสบการณ์ และผลงานของตนเอง เพื่อโอกาสในการจ้างงานครั้งต่อๆ ไป เพราะเด็กๆ เหล่านี้มีช่องทางที่จะได้งานโฆษณา งานละครเข้ามาด้วย
       
       “ในวีซีดีกับหนังสือต่างกันนิดหน่อย คือเป็นภาพนิ่งกะภาพเคลื่อนไหว แต่เซตเสื้อผ้าก็เป็นเซตเดียวกันหมด หลักการของหนังสือเราคือตั้งใจขายหนังสือภาพ ส่วนซีดีถือเป็นของแถมเท่านั้น เราไม่ได้บอกว่าเราขายซีดีและหนังสือ เพราะเราบอกไว้เลยว่าฟรีซีดี เป็นของแถมเอาใจลูกค้าจริงๆ
       
       “ถ้าให้เปรียบเทียบผมรู้สึกว่าเบื้องหลังการถ่ายภาพนิ่งที่เราทำลงในซีดีแถมให้กับผู้บริโภคยังไม่หวือหวาเท่ากับภาพยนตร์ หรือละครที่มีฉากเลิฟซีนเลยด้วยซ้ำ” สุรยุทธแสดงทรรศนะส่วนตัว
       
       หากจะพูดตามความจริงเรื่องวีซีดีที่เป็นของแถมไปในนิตยสารนั้นไม่ได้ผ่านขั้นตอนการเซ็นเซอร์แต่อย่างไร ชวลิตให้พูดเพียงสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “กำลังทำเรื่องอยู่”
       

       “หนังสือเราไม่ได้จำกัดผู้ซื้อนะ เพราะอย่างที่บอกเราคิดว่ามันไม่โป๊ ไม่ใช่อนาจาร บางครั้งเล่มที่ดูโป๊ก็คงเป็นเพราะสีหน้า ท่าทางของนางแบบมากกว่าที่ส่อไปทางยั่วยวน และเราไม่ได้มองว่าหนังสือเราทำอะไรให้สังคม หรือเหมาะสมกับการอยู่ในสังคมมากน้อยแค่ไหน แต่เรามองว่าผู้ชายที่ซื้อหนังสือเราชอบมองที่สรีระของผู้หญิง ดูเพื่อความบันเทิงมากกว่า มองว่าสวยดี แต่จะบอกว่าหนังสือของเราทำให้สังคมดีขึ้น ยอมรับว่ามันไม่ใช่เลย” บรรณาธิการ ING เล่าให้ฟังอย่างตรงไปตรงมา
       
       นอกจากนี้บรรณาธิการ MEMO เสริมอีกด้วยว่า “เราไม่ได้แหกกฎการกระทำใดๆ ที่มากไปกว่านิตยสารเล่มอื่นๆ เลย แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไปข้างหน้าทำให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสรับรู้มากกว่าภาพนิ่งธรรมดาๆ ถ้าเกิดอนาคตข้างหน้ากระดาษที่เปิดออกมาสามารถเห็นภาพเคลื่อนไหวได้ ทุกคนก็ต้องมีการปรับปรุงให้เท่าทันเทคโนโลยี แต่ในปัจจุบันนี้ความสะดวกสบายที่เราสามารถมอบให้กับผู้บริโภคได้ คือซีดีที่เข้ามาทำหน้าที่เล่าเรื่องแทน เราจึงตัดสินใจใช้เข้ามาเป็นตัวเสริม”
       

       INSIDE MAGAZINE ON VCD.
       
       พ.ต.ต. สุทธิพงศ์ แจ้งอริยวงศ์ รองผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้ให้ข้อมูลว่า หนังสือที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่อง มีระยะเวลาการจัดจำหน่าย และมีหัวหนังสือเดียวกันอย่างชัดเจน จะต้องมีการตรวจสอบและขออนุญาตจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาลก่อน หากไม่ผ่านในกรณีนี้จะถือว่า มีความผิดในเรื่องของพระราชบัญญัติการพิมพ์อย่างแน่นอน
       
       “ซึ่งปัจจุบันนิตยสาร แถมวิดีโอซีดีที่ขายกันอยู่ในบ้านเราทุกวันนี้ส่วนใหญ่มักจะไม่ผ่านการตรวจสอบจากทางสันติบาล โดยหนังสือหรือนิตยสารรูปแบบนี้อาจจะอยู่ในกลุ่มที่เราเรียกว่า เสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรม ขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม ลักษณะที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย อาจเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากเล่มไหนเข้าข่ายดังที่กล่าวมานี้ก็จะมีการนำเรื่องมาร่วมกันพิจารณาโดยผ่านคณะกรรมการเป็นผู้ตัดสินให้จัดพิมพ์ต่อไปดีหรือไม่ อย่างไร
       
       “หากพิจารณาแล้วว่าขัดต่อศีลธรรมอันดี ขั้นตอนแรกอาจมีการจับคุม และตรวจยึด ในกรณีที่ไม่ได้มาผ่านให้ทางสันติบาลตรวจสอบก่อน ซึ่งทุกวันนี้บทลงโทษในบ้านเรามันก็ยังน้อยมากปรับเพียงแค่ 400 บาท กฎหมายพระราชบัญญัติการพิมพ์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2484 แล้ว ซึ่งตอนนี้กำลังมีการแก้ไขใหม่กำลังจะเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติอยู่เร็วๆ นี้ โดยอาจจะกำหนดโทษเพิ่มขึ้นสำหรับการพิมพ์หนังสือแล้วไม่ได้มาให้ทางสันติบาลตรวจสอบก่อนจัดจำหน่าย
       
       “ถ้ายิ่งเป็นสื่อที่ลามกอนาจารด้วยจะเข้าข่ายตามประมวลกฎหมายอาญาทันที แต่ถ้ายังไม่เข้าข่ายลามกเป็นเพียงแค่วับๆ แวมๆ ดูแล้วขัดต่อศีลธรรมก็จะเป็นอีกมาตรการหนึ่ง ซึ่งหนังสือที่เป็นแมกกาซีนแถมฟรีวีซีดีที่พูดถึงกันอยู่นี้ ผมเชื่อว่าผู้ผลิตเขาไม่กล้าที่จะทำออกแบบให้ดูลามกอนาจารไปเต็มที่เลย อาจจะมีแบบหลบๆ ซ่อนๆ แต่ดูแล้วมันก็ยังไม่เหมาะสมกับสังคมบ้านเราอยู่ โดยอาจจะมีหนังสือเตือนเป็นครั้งคราว วีซีดีที่เป็นของแถมก็เช่นกันต้องมีการขออนุญาต มีการตรวจสอบชัดเจนว่าเนื้อหาถูกต้องและสมควรเผยแพร่หรือไม่” พ.ต.ต. สุทธิพงศ์ กล่าว
       
       เนื่องด้วยกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเรตติ้งของหนังสือในบ้านเรายังไม่ถือกำเนิด สิ่งที่น่าลำบากใจในเวลานี้คือ จะเอาอะไรมากำหนดว่ามาตรฐานความลามกอนาจาร เส้นแบ่งระหว่างคำว่าเหมาะสม กับไม่เหมาะสม อยู่ที่ตรงไหน คงต้องมีการเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนทางผู้ผลิตถึงจะยอมรับการกระทำที่ไม่สมควรของเขา
       
       และสืบเนื่องจากเรื่องจากกระบวนการจัดจำหน่ายที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เราก็ต้องย้อนกลับมามองกระบวนการผลิต ในส่วนที่จะล่อลวงเด็ก และเยาวชน เข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็นแบบถ่ายภาพวาบหวิวดังกล่าวจุดนี้ก็ควรมีมาตรการในการตรวจสอบด้วยเช่นกัน
       

       ทางด้าน พ.ต.ต. ปัญญา ปิ่นสุข ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) เปิดเผยว่า ในส่วนงานของ ปดส. ดูแลเรื่องการกระทำความผิดต่อเด็ก สตรี และเยาวชน ซึ่งที่ผ่านมาทาง ปดส. มองว่าสื่อจำพวกนี้อาจจะมีอันตรายต่อเด็กและเยาวชนวัยรุ่นที่อาจตกเป็นเหยื่อ ไม่ว่าจะในกรณีผู้บริโภค หรือการถูกหลอกลวงเข้าไปถ่ายแบบ
       
       “หากจะมีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ผลิตนิตยสารประเภทนี้ พวกเขาคงมีความผิดในโทษฐานการเผยแพร่สื่อ หรือวัสดุลามกอนาจาร ซึ่งทั้งนี้ก็จะเข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย แต่ในกรณีที่เป็นอยู่นี้ นิตยสารที่เป็นอัลบั้มภาพ แถมวีซีดีเบื้องหลังการถ่ายทำ เราต้องมาร่วมดูกันว่าการที่ผู้ผลิตสื่อออกมานั้นเข้าข่ายลามกอนาจารมากน้อย แค่ไหน
       
       “ในประมวลกฎหมายจะมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า แค่ไหนถึงเรียกว่าการลามกอนาจาร แต่เนื่องจากผู้ผลิตเองก็มีกลยุทธ์ กลวิธีหลีกเลี่ยง หรือเบี่ยงเบนไปเป็นอย่างอื่น เช่น อาจจะมีการว่างานนี้ถือเป็นงานศิลปะ เวลาเผยแพร่ภาพออกไปการปิดบังแค่หน้าอกก็เป็นการหลีกเลี่ยงรูปแบบหนึ่ง ซึ่งกรณีนี้หากมีการพิจารณาถึงเจตนาในการสร้างงานว่าเป็นงานศิลปะ มันก็ถือว่าไม่เข้าข่ายลามกอนาจาร ทำให้การจับกุม เล่นงานนั้นยากลำบากมาก
       
       “และในกรณีเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไปพัวพัน หรือร่วมการถ่ายทำด้วยอย่างแรกคือต้องได้รับการยินยอมจากทางผู้ปกครอง ส่วนตัวเด็กเองไม่สามารถไปยินยอมรับจ้างงานเองได้เป็นการส่วนตัว” พล.ต.ต.ปัญญา เล่าให้ฟัง
       
       COVER MODEL
       
       หทัยวัลย์ ประทุมพงษ์ หรือ โตเกียว วัย 24 ปี นางแบบสาววัยใส เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงสูง หน้าตาบ้องแบ๊ว ผมสีทองสไตล์ญี่ปุ่น เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เธอได้มีโอกาสถ่ายแฟชั่นคอสเพลแบบญี่ปุ่นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยลองการถ่ายแบบในชุดบิกินีเลยสักครั้ง และเมื่อเห็นผลงานจึงตัดสินใจถ่าย เพราะเธอคิดว่าเป็นงานศิลปะที่ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
       
       “หากได้ทีมงานที่ดีจะรู้ว่าการถ่ายลักษณะนี้มันไม่ใช่อนาจาร ภาพที่ออกมาไม่รุนแรง ตั้งแต่ทำงานมาหลายที่ก็จะรู้ว่าแต่ละทีมงานนั้นมีข้อแตกต่างกันทั้งการให้เกียรติ การดูแล ความพิถีพิถันในการถ่ายทำ บางเล่มใช้เวลาเป็นวันๆ ต้องไปถ่ายต่างจังหวัด พูดจาดี แต่บางเล่มก็แค่ชั่วโมงเดียวหาถ่ายเอาตามโรงแรม พูดจาก็หยาบคาย ทำให้เราต้องรู้จักวางตัวเป็นสำคัญ
       
       “ส่วนตัวเวลานี้ก็มีการกำหนดการถ่ายแบบของตนเองไว้ว่า จะไม่ให้โป๊เกินไปกว่าชุดว่ายน้ำ หรือบิกินี เวลาไปทำงานก็จะตั้งใจพรีเซ็นต์ตนเองออกมาให้เต็มที่ โดยคาดหวังไว้ว่าต้องออกมาเน้นที่ความน่ารักสดใส อยากให้งานออกมาดี ดูมีศิลปะ และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด” โตเกียวกล่าว
       
       นอกจากนี้โตเกียวยังฝากถึงเด็กที่อายุเพียง 14-15 อย่าเพิ่งรีบสำหรับงานในลักษณะแบบนี้ เพราะอย่างน้อยควรให้ความเคารพครอบครัว โรงเรียน เพราะแน่นอนว่าถ้าเด็กมัธยมมาถ่ายแนวนี้ทางโรงเรียนอาจจะไม่อนุญาต เพราะผู้ใหญ่มักจะเป็นห่วงและมองในทางลบ
       
       Don’t create but not destroy
       

       ในส่วนของ มนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ได้เคยให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าวว่า หากพิจารณาดูจากวีซีดีจะเห็นได้ชัดถึงจุดประสงค์ของผู้จัดทำว่า ต้องการเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือทางการค้าเพื่อดึงดูดทางเพศ ซึ่งอันตรายมาก หากปล่อยไว้นานวัน สังคมจะมองว่าเด็กคือ วัตถุทางเพศ
       
       “สังคมปัจจุบันสร้างกับดักไว้ให้เยาวชนเยอะมาก อย่างเช่นเรื่องการเป็นดารานางแบบก็คือกับดัก เขาไม่คำนึงว่า หลังจากนี้จะมีผลอะไรตามมา คิดเพียงว่าประสบความสำเร็จแล้วทำงานได้เงิน แต่ที่จริงมันไม่ใช่มัน จะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป ซึ่งตรงนี้จะไปโทษเด็กก็คงไม่ได้ ต้องโทษคนที่สร้างกับดักตรงนี้ขึ้นมา
       
       “ปัจจุบันสื่อแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกัน สื่อประเภทแรก คือ สื่อที่สร้างสรรค์ ประเภทที่สอง คือ สื่อที่ไม่สร้างสรรค์และไม่ทำลาย ส่วนสื่อประเภทสุดท้าย คือ สื่อที่ไม่สร้างสรรค์และยังทำลาย ซึ่งตรงนี้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนดูแลจะต้องมาจัดระบบการควบคุมเสียใหม่
       

        "ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า หนังสือดีๆ มีราคาแพงมาก ตรงกันข้าม หนังสือที่ไม่มีคุณค่า ไม่มีสาระอะไร ราคาถูกมาก ตรงนี้เจ้าหน้าที่จะต้องให้ความสำคัญ อย่าให้เรื่องมันเกิดก่อนแล้วค่อยมาแก้ไข มาช่วยกันปลุกจิตสำนึกให้กับเด็กๆ และเยาวชนกันใหม่ดีกว่า" ครูยุ่น กล่าว
        
       เราต้องช่วยกันปลุกจิตสำนึกให้กับเยาวชน รวมถึงสื่อมวลชนให้เข้าใจว่า อะไรควรนำเสนอ เพื่อช่วยให้สังคมดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ขณะเดียวกันก็ช่วยกันประณามสื่อที่เห็นแก่ได้ เอาเด็กและเยาวชนมาเป็นเครื่องมือ!!!
       
       เพราะเวลานี้สื่อมวลชนบางแขนงไม่คำนึงถึงการสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์ให้สังคม แต่กลับเห็นแก่รายได้และผลประโยชน์เข้าตัวเอง จนไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังว่า ทำให้สังคมเสื่อมทรามลงแค่ไหน ?
       

       ************
       เรื่อง : นาตยา บุบผามาศ
ที่มา : http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000098963 <hr />

หมายเลขบันทึก: 125295เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2007 15:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2014 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท