เพิ่งทราบครับว่าพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกนั้นอยุ่ที่อินเดีย เนื่องจากนายแพทย์ประพจน์ เภตรากาศจากกรมพัฒนาแพทย์แผนไทยเพื่อน นบส.53 ฝากให้ผมดูเรื่องพริกที่ชื่อว่า Naga Jolokia โดยบอกว่าเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกผมเลยได้รับความรู้ไปด้วย จึงนำมาบอกกล่าวกัน ดังนี้
พริกนี้ชื่อว่า Naga Jolokia หรืออีกชื่อหนึ่ง Bhut Jolokia แปลเป็นอังกฤษก็คือพริกปีศาจ Ghost Chili
พริกนี้ปลูกกันมากในรัฐอัสสัม นากาแลนด์และมานีปูร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบังคลาเทศ ในช่วงปี 1994 จนถึง 2006 นั้นGuinness World Records ประกาศให้ Red Savina เป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก โดยมีความเผ็ดอยู่ที่ 5 แสนแปดหมื่นหน่วยวัด สำหรับในปี 2007 นี้ ตำแหน่งพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกตกเป็นของ Naga Jolokia โดยมีความเผ็ดอยู่ที่ประมาณ 1 ล้าน สี่หมื่นกว่าหน่วยวัด ซึ่งถือว่าเผ็ดกว่าถึง 2 เท่าทีเดียว
พริก Naga Jolokia นี้ มีสีแดง ใครสนใจดูภาพ ไปดูที่นี่ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Naga_jolokia
รู้อย่างนี้แล้ว พริกของไทยจะส่งเข้าประกวดบ้างไหมครับ
สวัสดีครับ ท่านพลเดชครับ
สวัสดีครับ
ท่านพิษณุ ปัจจุบันเป็นอธิบดีกรมเอเชียใต้ครับ ขณะนี้อยู่กระทรวงการต่างประเทศครับ
เห็นว่าจะมีงานสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 4 นะครับ ลองสอบถามคุณหมอประพจน์ดูนะครับ
การส่งเสริมชาวบ้านปลูกพืชเเศรษฐกิจดีครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นพืชที่ตลาดต่างประเทศต้องการ ผมไมทราบว่าพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกราคาเท่าไหร่ แต่พริกของไทยที่ว่าเผ็ดที่สุดก็แพงดีนะครับ เอ แล้วเจ้า naga jolokia นี่จะแพงกว่าไหมนี่
ด้วยความปรารถนาดี
ปกติเป็นคนทานอาหารรสจัดอยู่แล้วค่ะ ....
ว่าแต่ "1 ล้าน สี่หมื่นกว่าหน่วยวัด" เนี่ยมันขนาดไหน
คะ ขนาดพริกขี้หนูสวน 1 ไร่ (ของไทย) ได้มั้ยคะ
เพราะเพิ่งทราบเรื่องหน่วยวัดความเผ็ดก็ครั้งนี้นี่แหละค่ะ
ถ้าจะกรุณา ...คุณพลเดช ช่วยให้ความรู้เพิ่มด้วยนะคะ
ขอบคุณมาล่วงหน้าค่ะ
พริกชนิดนี้มีอยู่ในชายแดนภาคใต้ของไทย นานมาแล้ว แต่ไม่ดังเพราะขาดนักวิทยาศาสตร์นำไปพิศูจน์ ที่บ้านของข้าพเจ้ามีอยู่ 1 ต้น กำลังเริ่มออกผลอ่อนได้ 2 ผล แล้ว กำลังคิดว่าจะส่งไปให้นักพฤกษศาสตร์พิศูจน์ แต่ก็เจอว่าฝรั่งพิศูจน์เสียก่อนแล้ว
ชาวบ้านป่าตั้งชื่อว่า พริกช้างร้อง ภาษามาเลย์พื้นเมืองเรียกว่า พริก "กาเหวาะ"
ลักษณะ ใบโตกว่าพริกทั่วไป กว้างประมาณ 8 ซ.ม. ยาว ประมาณ 15 ซ.ม. ผลกลม โต 2 ซ.ม. ยาว 6 ซ.ม. เรียวหัวเรียวท้าย ผิวขรุขระเป็นร่องรอยย่น ๆ (ดูที่ วิกีพีเดีย ได้เลย เหมือนกับเปี๊ยบ)
ความเผ็ดนั้น ชาวบ้านป่าแกงเนื้อวัวเลี้ยงแขกในงานแต่งงาน หนึ่งกะทะใบบัว ใช้เนื้อประมาณ 20 ก.ก. ใส่เพียงเม็ดเดียวก็เผ็ดเพียงพอแล้ว แต่เป็นความเผ็ดร้อนที่ไม่ประทับใจคือ........ไม่มีความหอมอย่างพริกขี้หนู จึงไม่เป็นที่นิยมของพ่อครัวแม่ครัว
เขาปลูกไว้โดยมีวัตถุประสงค์ 2 ลักษณะ คือ .......... 1. ปลูกเป็นประธาน กลางกลุ่มพริกขี้หนู เกสรตัวผู้ของพริกช้างร้องลอยไปผสมกับเกสรตัวเมียของพริกขี้หนู จะได้พริกขี้หนูที่เผ็ดสะใจ............2. ปลูกขอบไร่เพื่อปราบช้างป่าที่จะเข้าทำลายไร่ ช้างป่ากินพริกนี้เข้ารับรองว่าร้องลั่นก้องป่า วิ่งกระเจิดกระเจิง ปากพองไปหลายวัน หลาบจำไม่ย้อยกลับมาอีก
ใครสงสัยโทร.คุยกับข้าพเจ้าได้ที่ 323 -126
ดีจังครับ
กระทรวงเกษตรและหน่วยงานทางสมุนไพรไทยน่าจะสนใจนะครับ
เพราะหากเผ็ดกว่าพริกของอินเดียละก้อ ชิงตำแหน่งมาได้เลยครับ