- ปริญญา เทวานฤมิตรกุล
วันนี้, ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมการสัมมนาวิชาการ หัวข้อ “อุดมศึกษากับการพัฒนาเยาวชนและสังคม” ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยเบื้องต้นในภาคเช้า อาจารย์ ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายนักศึกษาได้ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน –
งานสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เน้นรูปแบบที่ไม่ซ้ำซ้อน เป็นเวทีวิชาการที่เน้นให้วิทยากรได้สะท้อนองค์ความรู้และเปิดเวทีให้มีการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างวิทยากรกับผู้เข้าร่วมสัมมนา
ผมประทับใจค่อนข้างมากเกี่ยวกับพิธีเปิดที่มีขึ้นอย่างเรียบง่าย ครั้นได้เวลาที่นัดหมาย คือ 08.30 น. ก็ลั่นระฆังเปิดงานอย่างไม่ลังเล และนี่คือภาพสะท้อนวัฒนธรรมอันดีในเรื่องของการตรงต่อเวลา หรือ “วินัย” นั่นเอง
หลังพิธีเปิดเสร็จสิ้นลง, พลอากาศตรีนายแพทย์บุญเลิศ จุลเกียรติ ได้ขึ้นแสดงปาฐกถาในหัวข้อ “สร้างนักศึกษาอย่างไรให้เป็นพลังพัฒนาและแก้วิกฤตสังคม”
หลัก ๆ อันเป็นใจความสำคัญนั้น วิทยากรได้เน้นให้เห็นถึงเป้าประสงค์ของการสร้างนักศึกษา หรือบัณฑิตภายใต้กรอบแนวคิดอันสำคัญ คือ “ความรู้คู่ปัญญา” ...
ฟังดูก็ละม้ายคล้ายเคียง หรือแม้แต่เป็นสิ่งเดียวกันกับปรัชญาการผลิตบัณฑิตให้เป็น “คนเก่ง คนดี” หรือการเป็นคนที่มี “ความรู้คู่คุณธรรม” ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นวาทกรรมฮิตติดชาร์ตว่า “เก่ง ดี มีความสุข” นั่นเอง
นอกจากนั้น ยังปรากฏแนวคิด หรือมุมมองต่าง ๆ อีกหลายประการที่น่าสนใจ โดยเฉพาะประเด็นที่วิทยากรได้บอกกล่าวถึงคุณลักษณะทั่วไปที่ควรเพาะบ่มให้เกิดขึ้นและฝังลึกอยู่ในตัวตนของนิสิตนักศึกษา เช่น
๑. การรู้จักเอาตัวรอดโดยไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน
๒. การรู้จักแสวงหาความสุขโดยไม่ผิดทำนองคลองธรรม
๓. การมีวินัย
๔. การมีความอ่อนน้อมถ่อมตน
๕. การมีความกตัญญูกตเวที
๖. การไม่ถูกครอบงำโดยลัทธิวัตถุนิยม
นั่นคือประเด็นสำคัญ ๆ ที่ผมประมวลได้จากการนั่งฟังในห้องสัมมนา แต่หากพิจารณาโดยรวมแล้วก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า ทุกประเด็นล้วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับกรอบแนวคิด “เก่ง ดี มีความสุข” หรือแม้แต่ “ความรู้คู่ปัญญา” อันเป็นแนวคิดหลักที่วิทยากรได้ชูเด่นในการปาฐกถาในวันนี้
นอกจากนี้แล้ว, วิทยากรยังได้นำเสนอแนวคิดอันเป็นองค์ประกอบสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการบูรณาการสู่การเรียนรู้ของนิสิตนักศึกษา ซึ่งประกอบด้วย ๓ ส่วนสำคัญ คือ
๑. พอประมาณ (สายกลาง)
๒. มีเหตุผล (ความรู้)
๓. ภูมิคุ้มกัน (ปัญญา)
แน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดการเพาะบ่มข้างต้น หรือแม้แต่องค์ประกอบอันเป็นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงก็ล้วนเป็นกลไกอันสำคัญของการเสริมสร้างและพัฒนานิสิตนักศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้คือคุณลักษณะอันสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการผลิตบัณฑิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่า ห้วงเวลาอันจำกัดนั้น ทำให้ไม่สามารถเปิดประเด็นแลกเปลี่ยนได้ว่าแนวคิดเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดไปด้วยกระบวนการ หรือรูปแบบใดบ้าง ?
แล้วท่านละครับ, มีแนวคิด หรือแม้แต่กระบวนการใดบ้างที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของนิสิตนักศึกษาของตนเองให้เติบโตและงอกงามเป็นบุคคลที่พึงประสงค์ของสังคม ...
(ขอความกรุณาแนะนำและร่วมแลกเปลี่ยนด้วยนะครับ) –
๒๓ สิงหาคม ๒๕๕o
ธรรมศาสตร์, ท่าพระจันทร์
กรุงเทพฯ
เรียน ท่านพนัส
สวัสดีครับ อ. JJ
ขอบพระคุณมากนะครับที่แวะมาเติ่มพูนความรู้แก่ผม ชีวิตที่มีความสุข ก็น่าจะเป็นชีวิตที่พอเพียง นั่นเอง ..
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ อ.ติ๋ว
ขอบพระคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ และผมก็แวะไปทักทาย "จอร์ช กับ ซาร่า" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประทับใจมากครับ
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ อ.หมู
ช่วงนี้ผมกรำงานอย่างหนักหน่วงครับ ทั้งในหน่วยงานและนอกสถานที่ ...
กระนั้นก็ระลึกถึงเสมอนะครับ ...
ขอบคุณพี่หมูอย่างยิ่งที่นำพากำลังใจมาเยือนผมอยู่เป็นระยะ ๆ ..
สวัสดีครับ อ.ขจิต
ขอบพระคุณในความกรุณาที่นำพาข้อมูลมาแบ่งปันจนถึงบันทึก,
ช่วงนี้ผมลำบากเรื่องเวลาเหลือเกิน แต่สำหระบเฮฮาศาสตร์แล้วล่ะก็...ยังไงก็ต้องไม่พลาด ยิ่งคราวนี้ดูจะมีกลิ่นอายของความเป็นชุมชนและคติชนวิทยาให้สัมผัสเรียนรู้กันอย่างข้นเข็ม รวมถึงการอบอวลด้วยความรู้สึกดี ๆ ของชาวเฮฮาศาสตร์
สำคัญ, จะเป็นการเรียนรู้ที่มีความสุขเหมือนที่พ่อฯ บอกไว้ ...
....
ขอบพระคุณมาก ๆ นะครับ
สวัสดีครับ
น่าเสียดายมากครับ ...เสียดายที่ไม่อาจได้พบเจอกันในงานสัมมนา
ส่วนท่านประธานนั้นฯ ผมเคยพบเจอท่านในเวทีการสัมมนานิสิตนักศึกษาทั่วประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะการถูกเชื้อเชิญมาในฐานะอดีตแกนนำสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ...
ผมเองก็ชื่นชอบท่านมาก ..
ขอบพระคุณครับ