วันนี้ผมบรรยายรายวิชาปรัชญาและศาสนาตามปกติ มีนักศึกษาคนหนึ่งถามถึงความแตกต่างอย่างแท้จริงระหว่างปรัชญากับศาสนา
ผมตอบเธอไปว่า ที่จริงแล้วปรัชญากับศาสนามีที่มาเหมือนกัน คือความอยากรู้อยากเห็นและความสงสัยต่อปรากฏการณ์ต่างๆ ทางธรรมชาติที่แวดล้อมรอบตัวมนุษย์อยู่ตั้งแต่ครั้งบรรพกาล ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร มีอะไรอยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ต่างๆ เหล่านั้นหรือไม่ ถ้ามีคืออะไร
นักปรัชญาพยายามหาเหตุผลมาอธิบายถึงปรากฏการณ์เหล่านั้นว่ามีที่มาจากอะไร และสรุปเป็นทฤษฎีตามความคิด ความเชื่อและความเข้าใจที่ตนเองหาเหตุผลมาประกอบได้
ส่วนนักศาสนา มุ่งไปสู่ความเชื่อความศรัทธาว่าปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นและให้คุณหรือโทษแก่มนุษย์ได้นั้น จะต้องมีที่มาหรือมีผู้คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งผู้ที่ชักใยจะต้องมีพลังอำนาจวิเศษ จึงสามารถเสกสรรปั้นแต่งปรากฏการณ์เหล่านี้ขึ้นมาได้ จึงเน้นหาวิธีเซ่นสรวงกราบไหว้บูชา เพื่อให้ผู้มีพลังวิเศษประทานแต่สิ่งที่เป็นคุณแก่ตัวเอง พวกของตัวเอง และศาสนิกของตัวเอง
ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างปรัชญาและศาสนานำมาสู่แนวคิดและวิธีคิดที่หลากหลาย จนกลายเป็นความคิดความเชื่อและแนวปฏิบัติต่อระบบความคิดความเชื่อเหล่านี้มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล
อารยธรรมของโลกเริ่มจากความอยากรู้และความสงสัยของมนุษย์นั่นเอง หาใช่สิ่งอื่นสิ่งใดไม่
ไม่มีความเห็น