หน้าแรก
สมาชิก
นาย จิรพงศ์ สุขติ
สมุด
นโยบายและแผน
แผนและนโยบายด้านก...
นาย จิรพงศ์ สุขติ
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
แผนและนโยบายด้านการศึกษา
แผนยุทธศาสตร์พัฒนาการศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ความสำคัญ
แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการศึกษาในพื้นที่
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้
(
ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
)
เป็นแผนที่นำไปสู่การปฏิบัติ ด้วยหวังว่าจะพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมีส่วนช่วยแก้ปัญหาความ
ไม่สงบใน
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างถูกจุด
ความเป็นมา
ปัจจุบันในพื้นที่
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการจัดการศึกษาทั้งการศึกษาในระบบ และการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาที่จัดมีตั้งแต่ก่อนประถมศึกษาถึงระดับอุดมศึกษา และมีการจัดการศึกษาทั้งประเภทสามัญและอาชีวศึกษา โดยมีสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(
สพฐ
.) 921
แห่ง ศูนย์การศึกษาพิเศษ
1
แห่ง โรงเรียนเอกชนสามัญ และอาชีวศึกษา
52
แห่ง โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
125
แห่ง ปอเนาะ
232
แห่ง วิทยาลัยอาชีวศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(
สอศ
.) 15
แห่ง สถานศึกษาในสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน
(
กศน
.) 33
แห่ง สถาบันอุดมศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
(
สกอ
.) 4
แห่ง นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
10
แห่ง โรงเรียนเทศบาล
33
แห่ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์ในวัด
441
แห่ง และศูนย์อบรมศาสนาอิสลามและจริยธรรมประจำมัสยิด
(
ตาดีกา
) 791
แห่ง
ปัญหาการจัดการศึกษาใน
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีปัญหาสำคัญคือ การจัดการศึกษายังไม่ทั่วถึง และไม่สอดคล้องกับความต้องการและวิถีชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น และคุณภาพการศึกษาก็ยังอยู่ในระดับต่ำ อันเนื่องมาจากการขาดเอกภาพในการบริหารจัดการศึกษา และขาดการประสานงานในแนวราบระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดการศึกษาที่อยู่ในระดับพื้นที่ ขาดแคลนครู และครูขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน รวมทั้งไม่สามารถระดมทรัพยากรมาใช้เพื่อการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น เพื่อให้การบริหารและการจัดการศึกษาในพื้นที่
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาการศึกษาเร่งด่วนและในระยะยาว จึงควรมีการจัดรูปแบบการบริหารและการจัดการศึกษาในลักษณะพิเศษ ที่สอดคล้องกับบริบททางสังคมและวัฒนธรรม
แนวทางดำเนินการ
การบริหารจัดการการศึกษาทุกรูปแบบ ทุกระดับ
/
ประเภทการศึกษาใน
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้
1.
เสนอนโยบายและแผนพัฒนาการศึกษาที่บูรณาการการศึกษากับ ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการกีฬา ที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด
2.
ศึกษาวิจัยและส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาการศึกษา
3.
เสนอแนะและให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไป การบริหารงานบุคคล การให้สิทธิประโยชน์พิเศษ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพสังคม และวัฒนธรรม
4.
เสนอแนะและให้ความเห็นชอบการจัดตั้งและการจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานการศึกษาและหน่วยงานอื่นๆ ที่จัดการศึกษา
5.
กำกับ ติดตาม ประเมินผล และเร่งรัดการดำเนินงานของหน่วยงานการศึกษาทั้งภายในและนอก ศธ
.
ให้เป็นไปตามนโยบายและแผน และรายงานผล รวมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
6.
ประสานเชื่อมโยงการดำเนินงานกับหน่วยงานต่างๆ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐเอกชน และประชาชน
7.
แต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานหรือบุคคลใดเพื่อกระทำการใดๆ อันเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน และ
8.
ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ปลัด ศธ
.
เลขาธิการ สกศ
.
เลขาธิการ กพฐ
.
เลขาธิการ กอ
.
เลขาธิการ กอศ
.
รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ส่วนรูปแบบการบริหารการศึกษาเฉพาะกิจในพื้นที่
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องมีหลักการ เช่น ความเป็นเอกภาพเชิงนโยบาย แต่หลากหลายทางปฏิบัติ ไม่ใช่ต่างหน่วยงานต่างทำ ต้องมีการกระจายอำนาจและความเป็นอิสระแก่หน่วยงานที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการศึกษาในระดับพื้นที่ ได้มีอำนาจตัดสินใจและมีอิสระคล่องตัวในการบริหารและจัดการศึกษา เพื่อให้สามารถจัดการศึกษาได้สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
นอกจากนี้ ต้องยึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงาน
/
องค์กร
/
ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนในท้องถิ่นได้ร่วมรับรู้ ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมดำเนินการ ร่วมติดตามตรวจสอบการดำเนินงานบริหารและจัดการศึกษา และต้องถือความเสมอภาค โดยคำนึงถึงโอกาสเข้ารับบริการการศึกษาที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ทั้งที่เป็นผู้เรียนชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ฯลฯ
ยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษา
“
เร่งพัฒนาการศึกษาใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีคุณภาพ
ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ
”
แผนงานหลักในการพัฒนา
๔ ด้าน ดังนี้
๑
.
พัฒนาสถานศึกษาให้มีมาตรฐานทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
๒
.
ให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ
๓
.
ครูมีศักยภาพและปริมาณเพียงพอ
๔
.
พัฒนาโรงเรียนสอนศาสนา หรือโรงเรียนปอเนาะ ให้มีคุณภาพ
แนวทางการพัฒนาการศึกษาใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
๑
.
การพัฒนาสถานศึกษา
ปัจจุบัน ศธ
.
มีโรงเรียนใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๙๒๕ โรง ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนขนาดเล็กในระดับประถมศึกษา ศธ
.
จะเข้าไปตรวจสอบความพร้อมให้ครบทั้ง กระบวนการ โดยมอบให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนจัดทำรายละเอียดความต้องการเสนอมาเป็นรายโรงเรียน ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณในการพัฒนาประมาณโรงเรียนละ ๑๕๐
,
๐๐๐
-
๒๐๐
,
๐๐๐ บาท เพื่อให้นำไปปรับปรุง ซ่อมแซมสถานที่ อาคารเรียน อาคารประกอบต่าง ๆ รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งจะดำเนินการพร้อมกันในช่วงปิดภาคเรียนปี ๒๕๔๗ โดยให้ สอศ
.
ร่วมเป็นเจ้าภาพในการปรับปรุง หากมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานก็จะจ้างคนในพื้นที่นั้น ๆ
๒
.
การพัฒนาผู้เรียน
จะจัดสร้างสนามเด็กเล่นพร้อมอุปกรณ์ให้ทุกโรงเรียนใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามสภาพพื้นที่ของแต่ละโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความสุขในการเรียนหนังสือ นอกจากนี้ จะมีการส่งเสริมกิจกรรมด้านกีฬาและดนตรี โดยทุกโรงเรียนจะได้รับการจัดสรรเครื่องดนตรี อุปกรณ์กีฬา ตามสภาพความจำเป็นของแต่ละโรงเรียน ในโรงเรียนที่ยากจนนักเรียนจะได้รับชุดกีฬาทุกคน
ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(ICT)
แก่นักเรียน
ในช่วงปิดภาคเรียนปี ๒๕๔๗ จะให้นักเรียนในภาคใต้ประมาณ ๓
,
๐๐๐ คน จากโรงเรียนรัฐ เอกชน และปอเนาะ เข้ามาทำงานในลักษณะจ้างทำงาน หรือเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยในจังหวัดนั้น ๆ ใช้ระยะเวลา ๑ เดือน โดยให้ออกแบบวิธีการเรียนการสอนของเด็กๆ เช่น การทำ
e – Book , e – Learning
จัดทำสื่อการเรียนประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เป็นต้น และมีค่าตอบแทนให้นักเรียนด้วย ผลงานของนักเรียนจะเน้นทางด้าน
ICT
อาจมีการประกวดและรวมกลุ่มกัน กลุ่มละ ๓ คน ซึ่งจะได้ผลงานจำนวน ๑
,
๐๐๐ ชุด นำไปคัดเลือกเพื่อเผยแพร่ และใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนต่อไป ซึ่งถือเป็นแนวคิดใหม่ในการดำเนินการของ ศธ
.
ที่เปิดโอกาสทางการเรียนรู้ให้แก่เด็ก และให้ภาคใต้เป็นจุดเริ่มของกิจกรรมดังกล่าวที่มีประโยชน์นี้ อันจะส่งผลให้เด็กได้รับทั้งความรู้และเงินด้วย
๓
.
การพัฒนาครูผู้สอน
จำนวนครูใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประมาณ ๓
,
๐๐๐ อัตรา ขณะนี้ได้รับอนุมัติแล้วจำนวน ๒
,
๔๐๐ อัตรา ในช่วงปิดภาคเรียนปี ๒๕๔๗ นี้จะเปิดรับสมัครครู ทั้งการบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู และครูอัตราจ้าง เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีครูครบตามเกณฑ์ ในขณะเดียวกัน จะมีการฝึกอบรมพัฒนาครูประจำการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(ICT)
แก่ครูผู้สอน
จะมีการคัดเลือกครูด้าน
ICT
ทั่วประเทศในโรงเรียนขนาดเล็กประมาณ ๒
,
๐๐๐ คน
ซึ่งรวมถึงครูใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้
ไปเข้ารับการอบรม เช่น ครูที่อยู่ภาคอีสานอาจจะข้ามมาอบรมทางภาคใต้ ครูภาคใต้ไปอบรมในทางเหนือ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้ครูได้รู้จัก คุ้นเคย เรียนรู้ร่วมกันทางด้าน
ICT
ในจำนวนนี้จะคัดเลือกครูจำนวนประมาณ ๓๐๐ คน ไปฝึกอบรมทางด้าน
ICT
โดยใช้เวลาประมาณ ๒ สัปดาห์ ที่ประเทศสิงคโปร์ด้วย
ด้านคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันประเทศไทยมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียนการสอนประมาณ ๑๔๐
,
๐๐๐ เครื่อง แต่ความต้องการในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษามีมากขึ้น ได้มีการกำหนดเป้าหมายว่าภายใน ๒
-
๓ ปีนี้ จะผลักดันให้อัตราส่วนของเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อจำนวน นักเรียนของไทยอยู่ในระดับใกล้เคียงกันในอัตราส่วน ๑
:
๕ ซึ่งจะมีการระดมทั้งจากภาครัฐ เอกชน ในการจัดสรรงบประมาณ และขอรับบริจาค โดย ศธ
.
จะร่วมกับกระทรวง
ICT
ในการดำเนินการ อย่างเป็นระบบต่อไป ซึ่งแนวทางการพัฒนาทุกด้านจะให้ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจุดเริ่มของการพัฒนาด้วย
๔
.
การพัฒนาโรงเรียนปอเนาะ
ศธ
.
จะเร่งพัฒนาโรงเรียนสอนศาสนาหรือโรงเรียนปอเนาะให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น โดยจะมีการออกระเบียบใหม่ ตามพระราชบัญญัติการศึกษาเอกชน มาตรา ๑๕
(
๑
)
เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาโรงเรียนปอเนาะให้เหมาะสม รัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุน ตลอดจนร่วมพัฒนาครู หลักสูตร อุปกรณ์การเรียนการสอน และคอมพิวเตอร์ ส่วนทางด้านหลักสูตรการเรียนสอนของโรงเรียนปอเนาะนั้น อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ซึ่ง รมว
.
ศธ
.
จะได้หารือร่วมกับผู้แทน โรงเรียนปอเนาะต่อไป
เงื่อนไขความสำเร็จในการดำเนินงาน
จัดให้มีรูปแบบการบริหารการศึกษาเฉพาะกิจ
(
ชั่วคราว
)
โดยจัดให้มีหน่วยงานเฉพาะกิจรับผิดชอบบริหารจัดการการศึกษาในทุกรูปแบบ ทุกระดับและประเภทการศึกษา อาจใช้ชื่อว่า
"
สำนักงานการศึกษา
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้
" (
สศต
.)
เป็นหน่วยงานขึ้นตรงต่อรัฐมนตรี ศธ
.
โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ
.
แต่งตั้งข้าราชการตั้งแต่ระดับ
10
ขึ้นไปเป็นผู้บริหารสำนักงาน และได้รับมอบอำนาจในการบริหารการจัดการศึกษาใน
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากรัฐมนตรีว่าการ ศธ
.
ปลัดกระทรวง เลขาธิการสภาการศึกษา
(
สกศ
.)
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(
กพฐ
.)
เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
(
กอ
.)
และเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(
กอศ
.)
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นาย จิรพงศ์ สุขติ
ใน
นโยบายและแผน
คำสำคัญ (Tags):
#นโยบายและแผนของรัฐบาล
หมายเลขบันทึก: 120418
เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2007 13:50 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 11:55 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นาย จิรพงศ์ สุขติ
สมุด
นโยบายและแผน
แผนและนโยบายด้านก...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท