ความจริงบทความชิ้นนี้ผมเคยนำลงตีพิมพ์ในวารสารศิลปกรรมศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ ในงาน ม.อ.วิชาการ ๔๘ วันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้รู้จัก GotoKnow จึงได้นำมาเผยแพร่ที่นี่อีกครั้งหนึ่ง ขอเชิญทัศนา
บทความเรื่องการหาวของหนุมาน
“หาวเป็นดาวเป็นเดือน” วลีนี้มีที่มาจากการแสดงโขน และเป็นวลีที่คนไทยรู้จักกันดีว่าหมายถึง หนุมานทหารเอกของพระราม ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ และถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของหนุมานซึ่งกำเนิดจากเทพอาวุธและกำลังของพระอิศวร
หนุมานมีของวิเศษประจำกายคือ กุณฑล ขนเพชร เขี้ยวแก้ว รวมทั้งความสามารถพิเศษคือหาวเป็นดาวและเดือนได้ (จะสังเกตเห็นได้ว่าศีรษะโขนของหนุมาน ในปากช่างจะประดิษฐ์ให้มี รูปดาวล้อมเดือนเล็กๆ ประดับอยู่) การหาวนี้เป็นสิ่งสำคัญที่หนุมานใช้พิสูจน์ ดีเอ็นเอ ของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งนิติวิทยาศาสตร์ อย่างในปัจจุบัน
การที่ผู้เขียนกล่าวเช่นนี้ เป็นเพราะทุกครั้งที่หนุมานแผลงฤทธิ์ หรือแสดงอิทธิฤทธิ์นั้น ใช้เพื่อการพิสูจน์ให้รู้ว่าตนเป็นหนุมานตัวจริง และในบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ฉบับรัชกาลที่ ๑ นั้นพบว่าตลอดเรื่องรามเกียรติ์ หนุมานได้แสดงอิทธิฤทธิ์โดยการหาวเป็นดาวเป็นเดือนทั้งหมด ๕ ตอน ดังนี้
๑. ตอนกำเนิดหนุมาน เมื่อครบกำหนดคลอด 90 วัน หนุมานกระโดดออกมาจากปากนางสวาหะผู้เป็นมารดาแล้วแผลงฤทธิ์ตามบทพระราชนิพนธ์
“บัดนั้น วายุบุตรวุฒิไกรดังไกรสร
ครั้นออกจากครรภ์มารดร ก็เหาะขึ้นอัมพรด้วยฤทธาฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
ลอยอยู่ตรงพักตร์พระชนนี รัศมีโชติช่วงในเวหา
มีกุณฑลขนเพชรอลงการ์ เขี้ยวแก้วแววฟ้ามาลัย
หาวเป็นดาวเดือนรวีวร แปดกรสี่หน้าสูงใหญ่
สำแดงแผลงฤทธิ์เกรียงไกร แล้วลงมาไหว้พระมารดา
ทั้งองค์พระพายเรืองเดช สำคัญว่าบิตุเรศนาถา
ก็เข้าอิงแอบแนบกายา วานรชื่นชมยินดี ฯ”
๒. ตอนหนุมานเกี้ยวนางบุษมาลี เมื่อพระรามใช้ให้หนุมานองคต และชมพูพานไปสืบมรรคา หรือสืบดูเส้นทางการยกทัพไปกรุงลงกา พร้อมทั้งนำแหวนและสไบไปมอบให้นางสีดาและทูลนางสีดาว่าพระรามกำลังยกทัพมาช่วย
ระหว่างการเดินทางหนุมานได้พบกันนางบุษมาลีซึ่งเป็นนางฟ้าที่ถูกพระอินทร์สาปให้ลงมาอยู่ในเมืองบายนแต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลาสามหมื่นปี จนกว่าจะพบทหารพระนารายณ์จึงจะพ้นคำสาป หนุมานจึงต้องแผลงฤทธิ์เพื่อให้นางบุษมาลีเชื่อว่าตนคือ หนุมานทหารพระนารายณ์จริงและหนุมานก็ได้นางบุษมาลีเป็นเมียในที่สุด ในบทพระราชนิพนธ์ได้กล่าวถึงตอนหนุมานแผลงฤทธิ์หาวเป็นดาวเป็นเดือนเพื่อพิสูจน์ตัวดังนี้
“เมื่อนั้น คำแหงหนุมานทหารกล้า
ยิ้มแล้วจึ่งตอบพจนา อนิจจามิใคร่จะบอกกัน
หาไม่ป่านนี้จะพ้นทุกข์ เสวยสุขภิรมย์เกษมสันต์
จะช่วยวนิดาวิลาวัณย์ แต่จะถึงใจกันด้วยอันใด
ว่าพลางทางทำสัพยอก เย้าหยอกจุมพิตพิสมัย
เจ้าคอยดูเถิดอรไท ว่าแล้วโผนไปด้วยฤทธา ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด
ลอยอยู่ตรงช่องบัญชร กลับเป็นแปดกรสี่หน้า
อันเดือนดาวแลดวงสุริยา ออกมาจากโอษฐ์ชัชวาล ฯ”
๓. ตอนหนุมานพบมัจฉานุ ในศึกไมยราพ เมื่อนางสุพรรณมัจฉาตกเป็นเมียของหนุมานแล้วนางได้คลอดบุตรออกมาตั้งชื่อว่ามัจฉานุมีรูปร่างลักษณะเหมือนหนุมานทุกประการเพียงแต่มีหางเป็นหางปลาเหมือนแม่
นางสุพรรณมัจฉากลัวทศกัณฐ์รู้ว่าตนมีบุตรกับศัตรูจำต้องทิ้งมัจฉานุไว้ที่ชายหาดและได้สั่งความไว้ว่าหากพบหนุมานทหารพระรามผู้มีกุณฑล ขนเพชร เขี้ยวแก้วและสามารถหาวเป็นดาวเดือนได้ให้เข้าไปกราบไหว้เพราะคือพ่อของมัจฉานุ
“…………………… .…………………
เจ้าจงจำคำมารดา สืบไปแก้วตาอย่าลืมความ
อันบิตุเรศบังเกิดเกล้า ของเจ้านั้นเชี่ยวชาญสนาม
เป็นยอดทหารของพระราม นามกรชื่อศรีหนุมาน
มีมาลัยกุณฑลขนแก้ว เขี้ยวเพชรพรายแพร้วฉายฉาน
หาวเป็นดาวเดือนชัชวาล เหาะทะยานไปได้ในอัมพร
แม้นพลจงเข้าอภิวาทน์ กราบบาทด้วยใจสโมสร
สั่งพลางโศกาอาวรณ์ บังอรเพียงสิ้นสมประดี ฯ”
เมื่อหนุมานหักด่านไมยราพ จนไปพบมัจฉานุซึ่งไมยราพเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรมนั้น เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองเป็นพ่อของมัจฉานุ หนุมานจึงแผลงฤทธิ์ เป็นสี่หน้าแปดกร หาวเป็นดาวเดือนและตะวัน ตามบทพระราชนิพนธ์ดังนี้
“บัดนั้น วายุบุตรผู้ปรีชาหาญ
ฟังมัจฉานุกุมาร ว่าขานกินแหนงแคลงใจ
รับขวัญแล้วกล่าวพจนารถ สุดสวาทของพ่ออย่าสงสัย
ว่าพลางก็เหาะขึ้นไป อยู่ในอากาศด้วยฤทธา ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
“หาวเป็นดาวเดือนทินกร เขจรสว่างเวหา
เสร็จแล้วก็กลับลงมา ยังพื้นพสุธาทันที ฯ”
๔.หนุมานเกี้ยวนางวานรินในศึกวิรุญจำบัง นางวานรินเป็นนางฟ้าทำหน้าที่เฝ้าดวงประทีปในห้องของพระอิศวร อยู่มาวันหนึ่งพระอิศวรเป็นเจ้า นั่งสนทนากับบรรดาฤษีและเทวดาอยู่เป็นเวลานาน นางวานรินจึงออกไปพูดคุยกับเพื่อนนางฟ้าจนเพลินทำให้ดวงประทีปของพระอิศวรดับลง พระอิศวรจึงสาปให้ลงมาเฝ้าเขาอังกาศแต่ผู้เดียวไม่สามารถพูดคุยกับเพื่อนนางฟ้าได้อีก
นางวานรินทร์ต้องรอจนกระทั่งพระนารายณ์ใช้ให้หนุมานมาตามหาวิรุญจำบัง แล้วนางบอกที่ซ้อนของวิรุญจำบังให้กับหนุมาน นางจึงจะพ้นคำสาป
ครั้นเมื่อหนุมานออกติดตามหาวิรุญจำบัง จนไปพบปราสาทของนางวานรินทร์จึงปลอมเป็นมานพหนุ่ม เข้าไปพุดคุยไต่ถามนางถึงที่ซ้อนของวิรุญจำบัง นางวานรินทร์ไม่เชื่อว่ามานพหนุ่มคือ หนุมาน จึงมีเหตุให้พิสูจน์กันขึ้น
“.................................. ......................................
ซึ่งอวดว่าเป็นทหาร องค์พระอวตารนาถา
ทั้งกุณฑลขนเพชรมาลา เขี้ยวแก้วรจนาที่ไหนมี
เป็นแต่มนุษย์ใช่วานร ฤทธิรอนไม่รุ่งเรืองศรี
ไม่หาวเป็นดาวเดือนรูจี นี่จะว่าหนุมานประการใด
จะไปล้างวิรุญจำบัง ข้าฟังไม่กลั้นยิ้มได้
เจ้ายอดทหารชาญชัย น่ากลัวฤทธิไกรอย่าเจรจาฯ
ฯ ๑๒ ฯ คำ “......................................... ...................................... น้องเอ๋ยอย่าเพ่อเย้ยเยาะก่อน พี่กลัวแต่จะวอนไปสวรรค์
เหมือนบุษมาลีวิไลวรรณ ที่ในเมืองมายันธานี
ว่าพลางยอกรอภิวาท พระสยมภูวนาถเรืองศรี
สำรวมใจร่ายเวทอันฤทธี ขุนกระบี่กลับกลายกายา ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ ตระ
บัดเดี๋ยวก็เป็นวานร มีเขี้ยวแก้วอรชรซ้ายขวา
กุณฑลขนเพชรมาลา หาวเป็นดาราเดือนตะวัน ฯ”
๕. อสุรผัดตามหาพ่อ อสุรผัดเป็นลูกของหนุมานที่เกิดกับนางเบญกาย หลังจากเสร็จศึกทศกัณฐ์ พิเภกได้ครองกรุงลงกา หนุมานออกบวชเป็นฤษีที่เขาแก้วมณฑปแล้วนั้น
ท้าวจักรวรรดิ์เพื่อนของทศกัณฐ์ยกทัพมายึดเมืองลงกาคืนให้กับทศพิน ลูกคนสุดท้องของทศกัณฐ์ และจับพิเภกขังไว้ นางเบญกายจึงบอกให้อสุรผัดไปแจ้งข่าวแก่บิดาให้มาช่วยเหลือ
“เมื่อนั้น นวลนางเบญกายดวงสมร
สวมสอดกอดลูกด้วยอาวรณ์ บังอรพลางแจ้งกิจจา
อันพ่อเจ้าผู้ปรีชาชาญ เป็นหลานพญาไวยวงศา
ผ่านกรุงขีดขินนครา พงศ์พระสุริยาเลิศไกร
โอรสพระพายฤทธิรอน นามกรหนุมานทหารใหญ่
ผิวผ่องขนเพชรอำไพ เขี้ยวแก้วมาลัยกุณฑล
หาวเป็นเดือนดาวออกจากโอษฐ์ ช่วงโชติจำรัสโพยมหน
ลาพระจักรกฤษณ์ฤทธิรณ ไปสร้างพรตบวชตนเป็นโยคี
อยู่ยังเขาแก้วมณฑป เจ้าไปก็จะพบฤาษี
บอกแล้วอวยพรสวัสดี อย่ามีอันตรายภัยพาล ฯ”
อสุรผัดเมื่อเดินทางมาถึงเขาแก้วมณฑปพบหนุมานที่แปลงเป็นดาบส อ้างว่าเป็นบิดาตนจึงไม่เชื่อ หนุมานจึงต้องแผลงฤทธิ์หาวเป็นดาวเดือนอีกครั้ง
“เมื่อนั้น หนุมานดาบสพรตกล้า
ฟังอสุรผัดแจ้งกิจจา ตบมือสรวลร่าแล้วร้องไป
คอยดูเถิดนะลูกรับ จักเหมือนคำแม่หรือหาไม่
ว่าแล้วสำแดงฤทธิไกร ถีบทะยานขึ้นไปยังอัมพร ฯ
เป็นกระบี่สี่พักตร์แปดหัตถ์ เขี้ยวแก้วจำรัสประภัสสร
กุณฑลมาลัยอลงกรณ์ ขนเพชรอรชรรูจี
ดาวเดือนดวงตะวันช่วงโชติ ออกมาจากโอษฐ์กระบี่ศรี
ส่องสว่างพ่างพื้นปัถพี แล้วลงมายังที่บรรพตา ฯ”
จากการหาวของหนุมานทั้ง ๕ ตอน นั้นสังเกตได้ว่านอกจากเดือนและดาวแล้ว ยังมีพระอาทิตย์ออกมาอีกด้วย
แต่ในการแสดงโขนนั้น นิยมให้หนุมานหาวเพียงดาวและเดือนออกมาเท่านั้น ไม่มีพระอาทิตย์ปรากฎออกมาด้วย
ความในข้อนี้ผู้เขียนได้สอบถามจาก อาจารย์ธีรภัทร ทองนิ่ม เจ้าของตำแหน่งแฟนพันธ์แท้รามเกียรติ์ ได้ความว่า การที่เขียนบทโขนเช่นนั้น เป็นเพราะคำว่าดาวเดือนเป็นคำคล้องจอง เหมาะกับการเขียนบทพากย์ บทเจรจา ได้ง่าย อีกทั้งในเวลาแสดงโขนในตอนนี้ มักจะฉายเป็นภาพดาวล้อมเดือนซึ่งดูสวยงามและจัดองค์ประกอบได้สวยกว่าการที่มีพระจันทร์และพระอาทิตย์คู่กัน
ในการแสดงโขน ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีในสมัยที่ผู้เขียนศึกษาอยู่นั้น มีอยู่ครั้งหนึ่ง ได้จัดการแสดง ชุด ศึกไมยราพ ซึ่งจะต้องมีตอนหนุมานรบมัจฉานุ จึงได้มีการทำดาวและเดือนจำลองขึ้น โดยใช้กลองไม้สีขาว เจาะรูใหญ่ตรงกลางให้ความหมายแทนดวงเดือน และรูเล็กๆ รอบรูใหญ่ให้ความหมายแทนดวงดาว แล้วนำกระดาษว่าวสีขาวปิดด้านใน และใช้โคมไฟที่ยืมมาจากนักศึกษาที่ร่วมแสดง ใส่ด้านหลัง
เวลาแสดงเมื่อถึงตอนหนุมานแสดงอิทธิฤทธิ์ให้มัจฉานุดูเพื่อพิสูจน์ตัวเอง โดยใช้เพลงรัว ไฟเวทีจะหรี่ลง และเปิดไฟแฟลต กล่อง ดาวเดือนซึ่งห้อยอยู่บนราวเหล็กเหนือเวทีก็จะสว่างขึ้น เป็นรูปดาวล้อมเดือนสวยงามมาก ในขณะเดียวกันหนุมานจะไปพิงตัวกับต้นไม้ปลอมและมีมือยื่นออกมาจากต้นไม้ กลายเป็นหนุมาน ๔ กร หาวเป็นดาวเป็นเดือน อย่างสมบูรณ์แบบ ถือว่าเป็นตอนที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดตอนหนึ่ง เพราะได้มีส่วนร่วมในการสร้าง ดาวและเดือนในครั้งนั้นด้วย
เอกสารอ้างอิง
กองวรณกรรมและประวัติศาสตร์, กรมศิลปากร. ๒๕๔๐. บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑ เล่ม ๑–๔. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
กรมศิลปากร. ๒๕๒๘. บทโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุด หนุมานชาญสมร. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
เยี่ยมครับอาจารย์ ลุงปั๋นจะเข้ามาอ่านข้อมูล อาจารย์ช่วยเพิ่มคำหลักว่า ศิลปะ หน่อยครับ
ขอบคุณคับลุงปั๋น (อ.ศักราช) ที่เข้ามาเยี่ยมชมและให้กำลังใจ ผมได้เพิ่มคำหลักศิลปะ ตามที่ลุงปั๋น แนะนำแล้วนะคับ
ขอบคุณคับ
ผมชอบเว็บนี้มากเพราะผมคือแฟนพันแท้รามเกียรอยากไห้รายการแฟนพันแท้จัดแข่งขันเรื่องรามเกียรรับรองผมจะสมัคร
ผมชอบรามเกียรติ์มาก
สนใจมาตังแต่เด็กและติดตามมาตลอดไม่รู้ว่ารายการแฟนพันแท้เค้าจามีเรื่องแฟนพันธ์แท้รามเกียรรึเปล่าถ้ามีผมคงต้องลงสมัครแน่
ต้องส่งใบสมัครไปครับ ถ้าทางรายการเห็นว่ามีคนสมัครแข่งเยอะ ก็จะมีการคัดตัวผู้เข้าแข่งต่อไป
รบกวนสอบถามเรื่องย่อ
หนุมาน ตอนสืบมรรคา ถึงตอนหนุมานหักสวน
คือว่าจะพาลูก ๆ ไปดูที่ อุทยาน ร.2 วันเสาร์ที่ 5/2/54 แต่เท่าที่อ่านกันแม่ลูก
ไม่ว่าจะเป็นรามเกียรติ์การ์ตูน 2 เล่ม และ print ตอนต่าง ๆ จากเน็ท
ไม่มีตอนเฉพาะที่เค้าจะแสดง สงสัยว่าต้องแทรกอยู่ในตอนไหนแน่ ๆ เลยใช่ไม๊คะ
รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
ต้องขออภัย..คุณแม่น้องไผ่ นะครับ ผมไม่ค่อยได้เข้ามา update ข้อมูลเท่าไหร่ พอดียุ่งกับเรื่องเรียนต่อ..นะครับ
การแสดงโขน..ที่อุทยาน ร.2 จะใช้บทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ของรัชกาลที่ 2 เป็นหลัก ครับ
ส่วนเนื้อหาตอนที่แสดงนั้น ผู้จัดทำบทมักจะตัดตอนมาจาก..บทพระราชนิพนธ์ และตั้งชื่อตอนตามเนื้อเรื่องที่จะแสดง แต่บางครั้งอาจจะไม่ตรงกับชื่อตอนในหนังสือ
ส่วนตอนที่จัดแสดง "ชุดหนุมาน ตอน สืบมรรคา ถึงตอนหนุมานหักสวน" ที่คุณแม่น้องไผ่ ได้ไปชมนั้น น่าจะพัฒนามาจาก โขนชุดหนุมานชาญสมร..ที่ครูเสรี หวังในธรรม ท่าเคยจัดทำไว้ โดยตัดตอนมาเฉพาะ ตั้งแต่ที่นางสีดาถูกทศกัณฐ์จับตัวไป แล้วพระรามมาพบหนุมาน..แล้วหนุมานได้ตามไปสืบหานางสีดา..เรียกว่าตอน "สืบมรรคา" จนกระทั้งไปพบว่านางสีดาอยู่ในสวนของเมืองลงกา และได้เข้าไปขัดขวางการผู้คอ ของนางสีดา..และแจ้งข่าวว่าพระรามกำลังตามมาช่วย..ก่อนหนุมานกลับตั้งใจจะอาละวาดให้ทศกัณฐ์ เกรงกลัวยอมมอบนางสีดาคืนพระรามแต่โดยดี จึงได้ปลอมเป็นลิงป่าเข้าไปหักสวนขวัญของทศกัณฐ์ เรียกว่าตอน "หนุมานหักสวน" แต่บางครั้งอาจจะยาวไปถึงตอนหนุมานเผากรุงลงกา..ก็จะเรียกว่า "หนุมานเผาลงกา" แล้วแต่ผู้จัดว่าต้องการจัดตอนแสดงถึงไหนนะครับ
ถ้าต้องการอ่านจากในบทพระราชนิพนธ์..ก็ควรเริ่มอ่านจากตอนที่ พระรามพบหนุมาน จนถึง หนุมานเผากรุงลงกา ครับ น่าจะได้เนื้อหาครบถ้วน..
ปล.ผมอาจจะเล่าข้ามๆ ไปบ้าง หากมีข้อสงสัยประการใดก็ทิ้งข้อความไว้ได้ครับ จะพยายามเข้ามา update ให้บ่อยขึ้นนะครับ
ได้รับความรู้มากมาย ภูมิใจ กับบทกลอน อาจารย์ใหญ่ สุนทรภู่ กวีเอก ที่ยังมีคนรู้ได้ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้ศึกษา ความเป็นไทยชาติเราครับ