จารุวัจน์ شافعى
ผศ.ดร. จารุวัจน์ ชาฟีอีย์ สองเมือง

แลกเปลี่ยนเรียนรู้งานวิชาการคณะ


เมื่อวานได้นัดหมายคณาจารย์ของคณะฯ มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อค้นหาแนวทางในการพัฒนางานวิชาการของคณะฯ  จริงๆ เริ่มต้นก็มีความผิดพลาดนิดหน่อยจากตัวผมเอง (ฮิฮิ) ที่ไม่รู้จะเรียกชื่องานนี้ว่าอะไรดี เลยแจ้งให้ทีมงานเรียกการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นี้ว่า การประชุม km ทำให้อาจารย์หลายท่านคาดหวังว่าจะมาคุยกันเรื่อง km (สุดท้ายก็ไม่ใช่)

อาจเป็นโดยนิสัยผมก็ได้ ที่ต้องการให้การเริ่มงานของคณะนั่นเกิดจากความเข้าใจ และมีส่วนร่วมจากความตระหนักอย่างแท้จริง ผมจึงเชิญอาจารย์มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งก่อนเข้าประชุมมีอาจารย์บางท่าน มาถามด้วยความเป็นห่วงว่า อาจารย์จะเดินงาน km ของคณะอย่างไร ผมตอบอย่างลูกซื่อๆ ครับว่า "ผมจะไม่สร้างโมเดลใดๆ ก่อนจนกว่าทุกคนจะเห็นถึงความสำคัญร่วมกัน" 

 จริงๆ โมเดล ผมมีแล้วครับ เพียงแต่ผมไม่ต้องการนำเสนอในที่ประชุม เพราะกลัวว่า แทนที่จะได้คุยกันในประเด็นสาระ ก็ต้องมาคุยกันเรื่องโมเดล แล้วก็ต้องมาถกเถียงกันเรื่องนี้ตามฐานความคิดที่อาจารย์แต่ละท่านมี ผมเลยขอเก็บกระบวนการไว้เป็นส่วนตัวก่อน แล้วอาจารย์จะได้เห็นมันเมื่อ อาจารย์ส่วนใหญ่ของคณะตื่นตัวเกี่ยวกับการจัดการความรู้ในองค์การ

ดังนั้นในการประชุมครั้งแรกนี้ ผมจึงต้องการสร้างวิชั่นร่วมกันในทิศทางการก้าวเดินของคณะทางด้านงานวิชาการ ซึ่งในเบื้องต้นของการประชุม ท่านคณบดีก็ได้แสดงวิชั่นของท่านออกมา ตามด้วยแนวคิดของผม ซึ่งก็สอดคล้องต้องกัน ซึ่งโจทย์ของผมคือ ทำอย่างไรให้อาจารย์ได้รับทราบวิชั่นของผม และผมได้รับทราบวิชั่นของอาจารย์ แล้วเราจะได้สร้างทางร่วมกันของวิชั่นนั่นให้เป็นขององค์การของเรา

 

"สู่ความเป็นเลิศทางงานวิชาการ เพื่อการพัฒนาคนและสังคม จากการพัฒนาองค์ความรู้ด้วยรากฐานแห่งศาสนาและการบูรณาการ " 

 

ซึ่งการประชุมครั้งนี้ผมได้ในจุดที่ผมต้องการแล้วครับ นอกจากนั้นที่ได้เพิ่มเติมมาคือ จากคำถามที่ว่า ทำอย่างไรให้เกิดกลไกเพื่อการพัฒนางานวิชาการ ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่ที่มาจากอาจารย์คือ ต้องการให้เกิดเครื่องมือเพื่อการควบคุม และติดตามการปฏิบัติงานของอาจารย์ 

ซึ่งประเด็นนี้ผมไม่ค่อยเท่าไรครับ เพราะผมอยากให้มันเกิดจากตัวของอาจารย์เอง และคณะทำหน้าที่ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อเท่านั้น

แต่ตอนนี้ผมได้คำตอบอย่างหนึ่งคือ เครื่องที่ไม่เชิงของการควบคุม บังคับอาจารย์ แต่เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นน่าจะเป็นสัญญาใจระหว่างกัน เดิมผมคิดถึง แบบประเมินที่ให้อาจารย์ได้ทำ แต่ส่วนใหญ่แบบประเมินดังกล่าวไม่กระตุ้นให้อาจารย์เห็นภาพของงานทั้งหมด ผมจึงคิดว่า จะต้องเป็นสัญญาใจคล้ายๆ กับ tor คิดว่าน่าจะทำให้การตื่นตัวของอาจารย์มีมากขึ้น

 สุดท้ายก็ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในครั้งนี้

หมายเลขบันทึก: 119425เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2007 09:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ผมลืมสนิทเลยว่ามีประชุมวิชาการที่คณะ..

ตอนหนังสือเวียนมา ผมก็เซ็นรับทราบและโน๊ตไปว่า ไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะติดประชุมกรรมการบริหาร แต่ไปๆมาๆ การประชุมถูกยกเลิก ขับรถมาส่ง คณบดีคณะศิลปฯ หน้าตึกคณะ ลืมสนิทว่าที่นี้ก็มีประชุม

เสียดายครับอาจารย์ ผมก็อยากทราบวิสัยทัศน์หรือแนวคิดของพวกเราเหมือนกัน

ที่แรก ลัปโหลดไม่ได้ เน็ทหลุด พออับโหลดครั้งที่สอง กลับโพล่ให้เห็นทั้งสอง เลยเขียนมาเป็นสามเลย นะ

อาจารย์ช่วยลบด้วย นะ

ผมลบให้แล้วครับ ผมก็เจออาการนี้มาครั้งหนึ่งแล้วครับ

เสียดายมากครับ ผมไม่ทราบเลย ความจริงงานแบบนี้ ประชุมแบบนี้ผมอยากเข้าร่วมมาก อาจเป็นเพราะผมไม่ได้อยู่วันเชิญหนังสือ พลาดจนได้อีก ความจริงโทรศัพท์ก็ยังใช้ได้อยู่ ...ไม่เป็นไร  โอกาสหน้าคงมีอีกใช่ไหมครับ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท