ปล่อยปลากลางดึก : ไม่รู้บุญ หรือบาป (เช้านี้ ผมเห็นคนกำลังทอดแหอยู่ตรงนั้น)


ผมรู้สึกเห็นใจ "ปากท้อง" ของชายผู้นั้นเหลือเกิน

ยังพอจำกันได้ใช่ไหมครับ ?

 

คืนที่ผ่านมาผมถือกะละมังใบเล็กอันมีปลาดุกแสนเศร้าสองตัวนอนแช่อยู่อย่างหงอยเหงาฝ่าคืนมืดที่ฝนโปรยสายไปปล่อยที่คลองน้ำใกล้ ๆ กับที่พัก ... และเวลานั้นก็ประมาณสี่ทุ่มเศษ

 

ครั้นมาถึงคืนนี้,  (เวลาอันใกล้เคียงกัน)  ผมก็บังเอิญนึกถึงภาพชีวิตตอนเช้าของวันนี้ซึ่งผมเพิ่งพานพบเจอในบริเวณที่ผมปล่อยปลาไปเมื่อคืนนั่นเอง

 

กล่าวคือ ... ขณะที่ผมสตาร์ทเครื่องเตรียมความพร้อมที่จะขับรถออกไปยังที่ทำงาน   ฝนยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง  และดูเหมือนว่าโอกาสที่พระอาทิตย์จะโผล่หน้ามายิ้มทักทายในเช้านี้ก็แทบจะไม่มีให้เห็นอีกแล้วก็ว่าได้  ...

 

ผมนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนผมเพิ่งนำปลาดุกมาปล่อยไว้ ณ ที่ตรงนี้,  และกำลังจะชี้ให้เจ้าจุกแดนไทแสนซนคนเก่งของผมได้ดูว่า "ที่ตรงนี้แหละที่ผมนำปลามาปล่อย.."   

 

แต่แล้วภาพที่ปรากฏอยู่ตรงนั้นกลับทำให้ผมหยุดชะงักลงอย่างกระทันหัน...

ชายในวัยเลยกลางคนท่านหนึ่งกำลังทอดแหลงสู่ท้องน้ำอย่างเอาจริงเอาจัง โดยไม่สะท้านสะทกต่อความเหน็บหนาวของสายฝน....   และชายผู้นั้นผมเองก็เข้าใจว่า  น่าจะเป็นคนงานก่อสร้างที่กำลังรับจ้างเป็นกรรมกรอยู่ในมหาวิทยาลัยนั่นเอง

.....

ฝนยังโปรยสายอยู่อย่างหนาตา   ฟ้ายังไม่เปิด  และดูไร้วี่แววที่จะได้สัมผัสแดดอุ่น ๆ  และสายลมอันเย็นสบาย ...

 

ผมรู้สึกเห็นใจ "ปากท้อง"  ของชายผู้นั้นเหลือเกิน   แต่เสี้ยวหนึ่งอันลึกเร้นของหัวใจผมก็พร่ำพ้อออกมาอย่างแผ่วเบาว่า  ... "ปลาดุกสองตัวนั้น  อยู่ตรงไหนนะ ..."

 

 

หมายเลขบันทึก: 117823เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2007 22:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

เรียน ท่านแผ่นดิน

  • ปล่อยแล้ว
  • ต้อง
  • ปล่อยวาง
  • ทำใจ ครับ

สวัสดีค่ะ

  • เป็นบุญมากกว่าค่ะ  ในเมื่อชายผู้นั้นไม่มีอะไรจะกินเป็นมื้ออาหารสำหรับประทังชีวิตเขานี่คะ
  • ยังดีกว่า  ถ้าเขาไม่ได้ปลาไป  แล้วเขาไปทำอย่างอื่นที่ขัดต่อศีลธรรมแต่เพื่อความอยู่รอดและความอิ่มท้องของเขาและครอบครัวล่ะคะ  จะมิแย่กว่านี้เหรอคะ
  • ทำดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ 

สวัสดีครับ ..
เรื่องนี้ คลาสิคเหลือเกินครับ
ทำให้ สับสนกับ ความเห็นเช่นกัน
และผมก็คิดซะว่าเป็นธรรมชาติ ครับ เขาผู้นั้นประทังชีวิต มิได้เจตนาเบียดเบียน

สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน

  ถ้าเหตุการณ์อย่างที่คุณเล่ามา แล้วทำให้เกิดความรู้สึกแย่มากกว่าดี ลองเจริญพรหมวิหารสี่ดูซิคะ

1.ความเมตตา คุณเห็นปลากำลังถูกขังและน่าจะถูกฆ่าในไม่ช้านี้ แล้วคุณเกิดความสงสารขึ้นมา นั่นคุณเกิดเมตตาจิต

2.คุณลุกขึ้นมา แล้วใช้กำลังใจสูงส่ง ตัดความสมเหตุ สมผลแห่งการมีเมตตา แล้วนำปลาไปปล่อย คุณเกิดความกรุณาคือได้ทำความเมตตาให้เป็นผล

3.คุณมีมุทิตา ต่อสัตว์ที่คุณปล่อยไป จะมากขนาดไหน ก็ขนาดคุณเก็บความรู้สึกมาเล่าจนหลายคนพลอยอนุโมทนากับคุณ

4.ความอุเบกขา อาจเป็นความยากที่จะทำให้เกิด ในเดี๋ยวนี้ เพราะเราถูกสอนให้จิต มีความยึดมั่นกับสรรพสิ่ง มานาน จนป็นเหตุแห่งทุกข์ แต่หากเราฝึกบ่อยๆเข้า ความรู้สึกผูกพันต่างๆ ก็จะค่อยๆคลายลง และหมดไปในที่สุด ให้คิดว่าทุกชีวิตมีกรรมเป็นของตน ไม่มีใครจะแก้ไข ให้ได้ เพราะกรรมติดตัวมาแล้ว เมื่อคิดวางเฉย (อุเบกขา) จิตคุณ ก็จะกลับมาร่าเริงกว่าปกติ เพราะยินดีในบุญของตัวเองไปอีกนาน ขออนุโมทนาบุญกับคุณอีกครั้ง

  • สวัสดีครับ ท่าน อ.JJ
    P
    JJ
  • ขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่งนะครับที่นำพาความคิดมาสะกิดเตือนให้มีสติและปล่อยวาง

 

  • ปล่อยแล้ว
  • ต้อง
  • ปล่อยวาง

 

  • สวัสดีครับ
    P
  • ขอบคุณมากครับที่ช่วยบอกเตือนในสิ่งดีงามที่เกิดจากการกระทำ
  • โดยเฉพาะประเด็นของคำว่า "ทำดีที่สุดแล้ว"
  • และเช่นกันคือสภาพปัญหาปากท้องคือกลไก  หรือตัวแบบอันสำคัญของการกำหนดวิถีชีวิตของผู้คน  หากใครที่มีภูมิต้านทานที่ไม่มาก ก็อาจจะต้องประพฤติตนในทางที่ไม่เหมาะไม่ควรก็เป็นได้
  • กระนั้น,  ถ้าสังคมมีความอาทร  แบ่งปันและดูแลกันมากขึ้น  ปัญหาเหล่านี้ก็คงเบาบางลงอยู่บ้างกระมังครับ
  • ....
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับ  คุณนิรันดร์
    P
  • ทุกครั้งที่เขียนบันทึก  ผมจะพยายามเสมอที่จะเสนอเรื่องนั้น ๆ ในสองมุมมอง ...
  • และนี่คือ บทสรุปที่เกิดจาการแลกเปลี่ยนที่ผมมีความสุขมาก เขาผู้นั้นประทังชีวิต มิได้เจตนาเบียดเบียน
  • ขอบคุณบทสรุปนี้มากครับ,  คุณนิรันดร์

สวัสดีครับ

P

ขอบพระคุณมากนะครับที่กรุณาแนะนำวิถีปฏิบัติและการจัดระเบียบวิธีการคิดเพื่อให้ตนเองเข้าใจโลกและชีวิตอย่างไม่รู้สึกเป็นทุกข์

ตอนนี้ผมกำลังศึกษาเรื่อง "สติ"  จากหนังสือ  "เดิน ..วิถีแห่งสติ"  ที่เขียนโดยท่านอาจารย์ ติช นัท ฮันห์ ... อ่านแล้วได้ประโยชน์ในทางความคิดมากเลยทีเดียว  คงเหลือแต่ด้านการปฏิบัติเท่านั้นแหละครับที่ยังต้องเริ่มต้นเสียที

สวัสดีค่ะ

 ดีจังเลยค่ะ ที่ตอนนี้สมาชิกเราหันมาสนใจสติ เรื่องในตัวเองมากขึ้น พูดเหมือนง่าย แต่ค่อนข้างยาก แต่ต้องลงมือปฎิบัติ พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเราไว้ ถ้าเราศรัทธากฎแห่งการทำดีได้ดี คุณก็จะได้ผลตามกฎนั้นทุกประการ

สวัสดีครับ 

P

ผมขอบพระคุณอย่างยิ่งเลยนะครับที่วกกลับมาต่อยอดความคิดกันอีกครั้ง

ผมมองว่าปัญหาหลักของการสร้างคุณภาพชีวิตทั้งในทางโลกและทางธรรมก็คือการขาดความมุ่งมั่นในหลักแห่งการ "ปฏิบัติ"  อย่างจริงจัง

บ่อยครั้งที่เราพยายามค้นหาคำตอบของคนอื่นอยู่อย่างไม่รู้หน่าย  จนลืมที่จะกลับมาค้นหาตัวตนของตนเอง   กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็พลัดหลงไปไกลจากจุดเริ่มต้นอย่างมหาศาล

ระยะหลังผมอ่านหนังสือปรัชญาจากโลกตะวันออกค่อนข้างมาก  หากแต่อ่านผ่านวรรณกรรมในรูปของบทกวี,  ความเรียงอันเป็นปรัชญา  โดยเฉพาะ วิถีแห่งเต๋า .,  กวีนิพนธ์ของเรียวกัน,  ขุนเขายะเยือกของฮั่น ชาน  หรือแม้แต่ลมฤดูใบไม้ร่วงของหลี่ไป๋ (กวีพเนจรของจีน) ...

หนังสือเหล่านี้  ช่วยให้ผมสงบเย็นขึ้น ... และรู้สึกตนในการที่จะควบคุมตนเองมากกว่าที่เป็นมา  ตอนนี้ก็สนใจที่จะอ่านหนังสือพระพุทธศาสนาของไทยบ้างแล้ว ...

ส่วนการปฏิบัติอย่างจริงจังนั้น  ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องปักใจเริ่มต้นในเร็ววันนี้ ..

...

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน

  เราเป็นกัลยาณมิตรกันนี่คะ อยากบอกว่า คนที่จะทำสมาธิได้ง่าย ก็คือคนที่เป็นสัมมาทิฎฐิ หรือคิดดีตลอด เช่นคุณนั่นแหละ ใจจะนุ่มนวล เวลาเราจะหยุดใจ หรือบริกรรม ให้อารมณ์เป็นหนึ่ง ก็จะมีเรื่องดีๆ มาให้เลือก แต่สำคัญตรงที่ใช้สติอยู่กับเรื่องนั้นให้ต่อเนื่องอย่าให้มีช่องว่างคิดอย่างอื่นเลย แล้วคุณแผ่นดินจะพบความอัศจรรย์ แห่งจิตเอง คืนนี้ลองดูซิคะ

สวัสดีครับ

P

ขอบคุณในคำแนะนำที่เต็มไปด้วปยระโยชน์  ไว้เมื่อผมเริ่มสัมผัส หรือปฏิบัติจริงอย่างเต็มภาคภูมิ  คงได้มีโอกาสได้เขียนบันทึกในทำนองนี้บ้าง

ขอบคุณอีกครั้ง ครับ

สวัสดีค่ะคุณพนัส

กรณีนี้ ดีที่สุดคือ ปล่อยวาง อย่าไปคิดย้อนอีกเลยค่ะ

พี่เคยใส่บาตร แล้วเห็นมีการเวียนเทียนกัน

ไม่สบายใจและคิดหงุดหงิด เป็นอันว่าไม่ได้บุญกัน

พระท่านให้ตัดไป ไม่ต้องไปตามย้อนดูอีกค่ะ ใจเราจะได้ผ่องใสค่ะ

สวัสดีครับ พี่ศศินันท์ ///.. อันที่จริงผมเป็นคนที่ "ให้แล้วก็ให้เลย" เฉกเช่นการให้ทานก็ไม่ลังเลที่จะหยั่งคิดว่า ผู้รับจำเป็นจริงหรือไม่ /// ... แต่ก็ขอบพระคุณมากนะครับ ที่แวะมาย้ำเตือนให้ผมปล่อยวางในสิ่งที่ "ปล่อยไป" ../// ขอบพระคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท