หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเกษตรประณีต 1 ไร่ มาแล้วในระยะเวลาหนึ่ง ก็พบว่ารูปแบบการทำเกษตรประณีต ของพี่น้องเกษตรกรนั้น มีรูปแบบและวิธีการทำที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละคนว่ามีความเหมาะสมแตกต่างกันออกไปอย่างไร แต่จากการศึกษาพบว่าพี่น้องเกษตรกรมีจุดร่วมที่คล้ายคลึงกันหลายประการ...คือ
ประการที่ 1 เน้นการปลูกพืชผักสวนครัวที่ใช้ในการบริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก ได้แก่ หอม กระเทียม ขิง ข่า ตระไคร้ พริก มะเขือ มะเขือเทศ ชะพลู เป็นต้น โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการลดรายจ่ายในครัวเรือน
ประการที่ 2 เน้นการปลูกพืชพี่เลี้ยง พืชพี่เลี้ยงในที่นี้ก็คือกล้วย เนื่องจากกล้วยเป็นพืชที่เก็บความชื้นได้ดี ดังนั้นพืชหลักที่ปลูกร่วมกับกล้วยก็จะได้รับน้ำและความชื้นจากกล้วยไปในตัว ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูฝน หรือฤดูแล้งก็ตาม หากเป็นช่วงฤดูแล้งก็จะทำให้พืชที่ปลูกแซม หรือปลูกคู่ได้รับน้ำ หรือความชื้นไปด้วย และในขณะเดียวกันต้นกล้วย เป็นพืชที่มีประโยชน์นานัปการ ตั้งแต่ราก ลำต้น จนกระทั่งถึงใบ
ประการที่ 3 เน้นการปลูกไม้ติดแผ่นดิน (ไม้ยืนต้น) สมาชิกเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในเรื่องของการทำเกษตรมาแล้วอย่างโชกโชน อีกทั้งได้รับการปลูกฝัง และแนวคิดในการทำเกษตรยั่งยืน มาแล้วระดับหนึ่ง ดังนั้นกลุ่มคนเรานี้จึงมองเห็นความสำคัญของโทษภัยของสารเคมีที่เกิดขึ้นกับระบบนิเวศน์ และได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก จึงให้ความสำคัญในการที่จะออมต้นไม้เพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศน์ และเพื่อประโยชน์ของลูกหลานในอนาคต
ประการที่ 4 เน้นกรบวนการจัดการเรื่องการปรับปรุงคุณภาพของดิน พี่น้องเกษตรกรที่ทุกคนที่ผมมีโอกาสได้ไปพูดคุยด้วยนั้น บอกว่า ดินเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตพืชรองจากน้ำ หากดินดี (ความอุดมสมบูรณ์) ปลูกอะไรก็ได้กิน นั่นก็หมายความว่าทุกคนเห็นความสำคัญของการปรับปรุงดิน เพื่อที่จะให้ได้มีธาตุอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงได้มีการเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ควาย เป็ด ไก่ เป็นต้น เพื่อที่จะเป็นแหล่งผลิตปุ๋ยคอกสำหรับเติมเต็มความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพื่อให้เหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืชต่อไป นอกจากการผลิตปุ๋ยคอกแล้วยังได้ให้ความสำคัญของการผลิตปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด และน้ำหมักชนิดต่างๆ เพื่อช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างของดินอันจะส่งผลถึงการงอกงามของต้นพืชที่ปลูก แต่สำหรับวิธีการปฏิบัตินั้นก็จะแตกต่างกันออกไปตามบริบทของแต่ละคน ซึ่งจะได้เล่าเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนในโอกาสต่อไป
ประการที่ 5 เน้นกระบวนการการจัดการเรื่องน้ำ ร้อยทั้งร้อยของสมาชิกเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านที่ทำเกษตรประณีต พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันครับว่า “ในการทำการเกษตรนั้น น้ำ คือหัวใจสำคัญของการผลิต” ดังนั้นพี่น้องเกษตรกรจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการดำเนินการ นั่นก็หมายความว่าพี่น้องที่จะทำเกษตรกรรมแบบประณีตได้นั้นจะต้องมีน้ำและแหล่งน้ำที่พอเพียงต่อการผลิต และจากการศึกษาในเบื้องต้นก็พบว่าพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ทำเกษตรประณีต 1 ไร่ กว่า 76 ราย อาศัยน้ำจาก 6 แหล่งด้วยกันซึ่งประกอบด้วย น้ำบ่อที่ตนเองขุด น้ำบาดาล น้ำคลองชลประทาน ลำห้วย อ่างเก็บน้ำธรรมชาติ และน้ำประปา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็พบว่าน้ำบ่อที่ตนเองขุดเก็บน้ำไว้ใช้เองนั้นเป็นปริมาณที่พี่น้องเกษตรกรเลือกใช้มากที่สุด และในขณะเดียวกันยังพบว่าพี่น้องเกษตรกรจะให้ความสำคัญถึงประสิทธิภาพการใช้น้ำด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในการวิเคราะห์จุดร่วมของพี่น้องเกษตรกรที่ทำเกษตรกรรมแบบประณีตในฉบับนี้นั้นเป็นประเด็นที่ค่อนข้างกว้าง แต่สำหรับในรายละเอียดของการจัดการนั้นเราคงต้องเข้าไปเรียนรู้ต่อไป อีกทั้งการดำเนินกิจกรรม KM ธรรมชาติ ที่เราจะต้องพิสูจน์ ต้องเรียนรู้ เพื่อให้เกิดทักษะ (Skills) กับตัวเรา อันจะเป็นผลที่จะอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ต่อไป
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
3 สิงหาคม 50น่าจะมองเข้าประเด็นของ
เกษตรประณีตสามารถตั้งคำถามได้เป็นร้อย และแต่ละคำถามก็จะมีบริบทของการทำงานที่ต่างๆกัน
ขอให้พยายามเข้าใจประเด็นของตัวเอง และทำงานที่ focus กว่านี้
ภาพ blur อย่างนี้ ทำให้เสียเวลามาก
ขอบพระคุณมากครับอาจารย์ ดร.แสวง รวยสูงเนิน
ด้วยความเคารพ
อุทัย อันพิมพ์
สวัสดี ครับ พอดีผมกำลังสนใจ เกี่ยวกับเกษตรประณีต พอดี search มาเจอ blog คุณเข้าแล้ว สนใจ ถ้าไม่รบกวน ผมอยากจะขอ คำแนะนำ หน่อยครับ tel. 081-445-0102 e-mail: [email protected] (โป้)