ไฉน
นาย ประกาศิต ปอ ประกอบผล

ค่าน้ำนม


บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
บทเพลงหนึ่งกระหึ่มอยู่เสมอทุกปีของเดือนสิงหาคม คนส่วนใหญ่ได้ยินได้ฟังเป็นเพลงเก่าที่มีนักร้องหลายคนทั้งชายหญิงนำมาร้อง เช่นชาญ เย็นแข วงศ์จันทร์ ไพโรจน์เป็นต้น ในยุคต่อมาไม่ทราบว่ามีใครบ้าง คือบทเพลง ค่าน้ำนม เป็นบทเพลงที่อมตะเนื้อหาสาระดี เนื้อความว่า แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง  แม่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล …….บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย  ทำให้ต้องย้อนกลับไปทบทวนเนื้อหาของบทเพลงอีกครั้ง  เพราะการบวชนั้นเป็นประเพณีของคนไทยพุทธ ซึ่งถือเป็นการตอบแทนคุณอันทรงคุณค่าที่สุด แต่ อนิจจา  น้ำนมหยดเดียว บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น......ยังทดแทนได้ไม่หมดไม่สิ้น  การที่ปล่อยจุดไข่ปลาไว้หลังบวชเรียนพากเพียรจนสิ้นนั้น คือประเด็นที่ต้องคิดต่อไปว่า สิ้นอะไร สิ่งที่กล่าวนั้นก่อให้เกิดความคิดได้ ๒ ประเด็น คือ  ๑)  บวชเรียนพากเพียรพยายามปฏิบัติตามธรรมวินัยจนสิ้นชีวิต   หรือ ๒)  สิ้นกิเลส                ประเด็นแรก บวชเรียนพากเพียรปฏิบัติอยู่ในจริยาวัตรของสมณะอันมีพระธรรมวินัยเป็นรั้วกั้นกาย วาจา และจิตไม่ให้เสียหาย กระทั่งสิ้นชีวิตไปในร่มผ้ากาสาวพัตร์                ประเด็นที่สอง  สืบต่อจากประเด็นแรก เพียงยังไม่สิ้นชีวิต  แต่ปฏิบัติจนบรรลุธรรมสิ้นกิเลสก่อน คำกล่าวนี้ก่อให้เกิดคำถามต่อไปอีกว่า แม้ตนเองสิ้นกิเลสแล้วยังไม่สามารถตอบแทนค่าน้ำนมเพียงหนึ่งหยดได้อีกกระนั้นหรือ นี่แหละคือความยิ่งใหญ่แห่งน้ำนมแม่ ซึ่งกลั่นมาจากเลือดในอกอันมีดวงใจแห่งแม่อยู่ แล้วทำอย่างไรจึงจะตอบแทนได้หมดสิ้น?
หมายเลขบันทึก: 116581เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2007 13:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท