KM ของ สมศ.

ควรใช้ model ทำ KM ร่วมกับสถาบันการศึกษา

KM ของ สมศ. 

สมศ. เคยมาหารือ สคส. เรื่องการทำ KM ภายในหน่วยงาน    เราให้คำแนะนำให้รู้จัก KM  และชวนมาร่วมกิจกรรมหลายกิจกรรม ซึ่งเชื่อว่าทำให้คณะทำงาน KM ของ สมศ. เข้าใจวิธีใช้ KM เข้าไปพัฒนาคุณภาพงาน    การเรียนรู้ของบุคลากร / การพัฒนาบุคลากร    และการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรเรียนรู้
เมื่อวันที่ ๒๙ ธค. ๔๘ พบ ศ. ดร. สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผอ. สมศ.     ท่านเล่าว่า สมศ. ได้เอาเจ้าหน้าที่ไป retreat และเล่าเรื่องความสำเร็จสู่กัน    ทำให้คนทำงานเกิดความสุข ความภูมิใจ เกิดพลัง     ผมได้เรียนเสนอว่าต้องจดบันทึก    และเอาความรู้จากความสำเร็จนั้นไปใช้ต่อ และหมุนเกลียวความรู้ต่อเนื่องเรื่อยไป     นั่นคือ สมศ. รู้จักใช้ KM ในด้าน ยุทธศาสตร์เชิงบวก    การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และต่อยอดความสำเร็จ   
วันนี้ ๖ มค. ๔๙ ผมมาร่วมประชุม UKM ที่มหาสารคาม    เรื่องราวจกการประชุมทำให้ผมมองเห็นยุทธศาสตร์การใช้ KM ที่เหมาะต่อ สมศ. อีกตัวหนึ่ง คือ ยุทธศาสตร์การเรียนรู้ร่วมกันกับสถาบันการศึกษา     ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องพื้นๆ แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องลึกมาก     ต้องมองให้ลึก จึงจะเห็นพลัง และความแปลกใหม่ของยุทธศาสตร์นี้    ดังผมจะวิเคราะห์เอามา ลปรร. กัน

• ความเสี่ยง หรือข้อด้อย ของคนในหน่วยตรวจสอบผู้อื่น / กำหนดกฎเกณฑ์กติกา     คือการไม่เรียนรู้    เพราะตกอยู่ในวัฒนธรรมอำนาจ     ต้องแสดงตนเป็นผู้มีความรู้    สมศ. ต้องระวังไม่ให้คนของตนตกลงไปในหลุมนี้
• วิธีทำงานที่ง่ายและสนุกกว่าคือทำไปเรียนรู้ไป    ไม่แสดงหรืออ้างตนเป็นผู้รู้   
• UKM ประชุมกันปีละ ๔ ครั้ง คือประชุมกันทุกๆ ๓ เดือน    สมศ. น่าจะส่งผู้แทนเข้าร่วม ลปรร. ด้วยทุกครั้ง หรืออย่างน้อยทุกครั้งที่หัวข้อการประชุมเป็นเรื่องคุณภาพการศึกษา  
• มีรายละเอียดของเรื่องที่ สมศ. จะเข้าไปร่วมผลักดันการเรียนรู้และพัฒนาได้ อีกมากมาย    บางส่วนผมได้เสนอไว้ใน AAR การประชุม UKM ครั้งที่ ๕
  วิจารณ์ พานิช
  ๗ มค. ๔๙