แรดจริงจริง - บางสิ่งในประวัติศาสตร์

เรื่องราวในรอยต่อแห่งการเรียนรู้ของประวัติศาสตร์ ภาพพิมพ์ไม้ แกะสลักภาพของแรด ภาพแรกในแผ่นดินยุโรป ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นก้าวย่างสำคัญในโลกแห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ Rhinoceros - Albrecht Dürer - 1515

Rhinoceros - Albrecht Dürer - 1515 ด้านบนของภาพได้จารึกเป็นภาษาเยอรมัน ระบุเรื่องราวของธรรมชาติ สีสัน ตัวตนความเป็นอยู่ ของสัตว์ประหลาดชนิดนี้ โดยมีการระบุว่า อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ได้ซื้อมาจากอินเดีย สู่ปอร์ตุเกสRhinoceros - 1515 ภายใต้โลกแห่งความรู้ และความเข้าใจ ภาพที่ปรากฎกลายเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าของมนุษยชาติ ที่ว่ากันว่า เมื่อพ้นมือศิลปินเยอรมันจากแคว้นนูเรมเบิร์คแล้ว ภาพนี้ได้เดินทางอยู่ในปอร์ตุเกส เพื่อส่งต่อไปยังโรม ก่อนจะได้มีการถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่องค์พระสันตปาปาแห่งกรุงวาติกัน นครรัฐอันยิ่งใหญ่ซึ่งกำลังถูกท้าทาย จากโลกแห่งการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ซึ่งยังมีบทบาทนำแผ่นดิน และนำโลกเบื้องหน้า ด้วยบทบาทการบัญชาแห่ง องค์สันตปาปา ลีโอ ที่สิบ - pope Leo X. กำลังเริ่มต้นเรียนรู้ ความลี้ลับในตำนานเล่าขานของนักเดินทาง ว่ายังมีความมหัศจรรย์ใด ซ่อนเร้นอยู่ในโลกใบนี้ โลกแห่งประจักษ์พยาน กลายเป็นคำตอบหนึ่งในขั้นตอนการเรียนรู้ของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ การทบทวน ค้นหา และสร้างกระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นบนแผ่นดินยุโรป ภาพของแผ่นดินแดนไกลมากมายกลายร่างจากตำนานนิยายปรัมปราสู่การรับรู้ถ่ายทอด ตัวตนของผู้คน และสิงสาราสัตว์อันแปลกประหลาดจากแดนไกล คือเครื่องบรรณาการอันยิ่งใหญ่ เท่าเทียมกับทรัพย์สมบัติซึ่งขุดได้จากแผ่นดิน ตำนานความเชื่อ การค้นหา การตอบคำถาม การสร้างโจทย์และพิสูจน์ความจริง ว่าสิ่งใดมีอยู่ และสิ่งใดไม่ปรากฎ ล้วนเป็นหนึ่งในตำนานอันยิ่งใหญ่เสมอ Albrecht Durer ก็เป็นหนึ่งในตำนานอันยิ่งใหญ่นี้เช่นเดียวกัน ในบทบาทของศิลปินผู้จารึกภาพแห่งประวัติศาสตร์ บางภาพกล่าวกันว่า เป็นก้าวย่างแรกแห่งการเรียนรู้ของโลกยุโรป จนกระทั่งกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของแขนงวิชาวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา กายวิภาคของสัตว์ หนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ คือภาพพิมพ์ไม้ที่ชื่อว่า Rhinoceros ซึ่งเป็นภาพของแรดเอเชีย ในปี คริสตศักราช 1515 สายพันธุ์อินเดีย ซึ่งกล่าวกันว่า เขาได้แกะพิมพ์ไม้ และพิมพ์ภาพของสัตว์ประหลาดมีเขาเดียว ซึ่งแม้อาจจะผิดพลาดที่ปรากฎเขาบริเวณต้นคอด้านบนก็ตาม ภาพดังกล่าวถูกเล่าขานจนกลายเป็นตำนาน บ้างก็ว่าเป็นการแกะพิมพ์ไม้ขึ้นมา จากภาพบันทึกของนักเดินทางชาวอาหรับ บ้างก็เขียนแต่งเติมตำนานว่า ศิลปินท่านนี้ได้เดินทางไกลสู่เปอร์เซีย และก้าวย่างไปเห็นภาพของสัตว์ประหลาดนามว่า แรด ตำนานความยิ่งใหญ่ในฐานะศิลปินแห่งนูเรมเบิร์ค ผู้ยิ่งใหญ่ในยุคเรอเนสซองค์ของเขา ไม่ได้มาเพราะชื่อเสียง และการเล่าขาน แต่ว่ากันว่าผลงานอันมากมายของเขา ได้ไขปริศนาในใจผู้คนอย่างมากมาย เปิดภาพของเรื่องเล่าจากแดนไกล อธิบายาคำอ้างอิงจากตำนานสิ้นโลกในพระคัมภีร์ และที่สำคัญนอกจากความเป็นศิลปินนักวาดภาพ แกะภาพพิมพ์ เขายังเป็นนักคณิตศาสตร์ ในท่ามกลางก้าวย่างแห่งประวัติศาสตร์ของยุคฟื้นฟูวิทยาการและองค์ความรู้ ความเป็นนักคณิตศาสตร์ ที่ได้รับการยอมรับในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงทำให้เราเข้าใจตัวตนบางอย่าง ในการเรียนรู้จากงานศิลปะ การผสมผสานเรื่องเล่าของพระคัมภีร์ ตำนานแห่งอัศวิน แผ่นดินลี้ลับ สัตว์ประหลาดอันน่าสะพึงกลัว แต่ตัวตนของ Albrecht Durer กลับเป็นสิ่งที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ที่มากมายกว่า ซึ่งอยู่ในเบื้องลึกของมนุษยชาติ เปล่งประกายถึงความเร่าร้อนในการค้นหาเรียนรู้ จากนักปราชญ์ นักคิดของยุโรปสมัยดังกล่าว สิ่งเหล่านี้ คือภาพสะท้อนอันยิ่งใหญ่ ในยุคสมัยดังกล่าว และก้าวย่างที่สำคัญในประวัติศาสตร์โลก สิ่งเหล่านี้ คือ ภาพสะท้อนของสิ่งมีชีวิต ซึ่งเร่าร้อนต่อการท้าทาย และการค้นหา มากที่สุด เท่าที่โลกนี้เคยปรากฎสิ่งมีชีวิตขึ้นมาก ข้อมูล - อ้างอิง Durer - Rhino Rhinoceros [edit] Beschreibung Rhinoceros, drawing by Albrecht Durer 1515. The rhinoceros shown here was brought to Lisbon (Portugal). It was a present of Sultans Muzafar for the portuguese viceroy, who eventually passed it on to Dom Manuel. Initially, the animal was kept at the Torre de Belem. By december 1515 the rhinoceros was send to rome, as a present for pope Leo X. Unfortunately, the ship sank, including the precious animal. The text at the top of drawing says (translated from 16th century german to english): "In the year 1515 anno Domini one has brought Emanuel, the big and mighty king of portugal, such an animal from india to portugal. It is called Rhinozeros. It is illustrated here with all its likeness.
It is colored like a speckled turtle. And it is covered by thick shells. And it has the size of an elephant, but short legs and it is well-fortified. It has a sharp, strong horn on the nose. Which is whetted, if it find stones somewhere. 
This animal is an deadly enemy of the elephant. The elephant is afraid of it, because if they meet, the rhinozeros runs through the forelegs of the elephant and disembowel the belly and kills him. The elephant is not able to protect himself at all, since the rhinozeros is so well armed, the elephant cannot do anything. It is being said, the rhinozeros is quick, brave, and sly." http://commons.wikimedia.org/wiki/Image:D%C3%BCrer-rhino.jpg In 1515, he created a woodcut of a Rhinoceros which had arrived in Lisbon, from a written description and brief sketch, without ever seeing the animal depicted. Despite being relatively inaccurate (the animal belonged to a now extinct Indian species), the image has such force that it remains one of his best-known, and was still being used in some German school science text-books early last century.^[2Giulia Bartrum, "Albrecht Dürer and his Legacy", British Museum Press, 2002, ISBN 0714126330 Albrecht DürerFrom Wikipedia, the free encyclopedia(Redirected from Albrecht Durer)Jump to: navigation, search <table border="0" cellspacing="5" cellpadding="0" width="352" class="MsoNormalTable" style="width: 264pt"><tbody>

Albrecht Dürer
Self-Portrait (1500) by Albrecht Dürer, oil on board, Alte Pinakothek, Munich Birth name Albrecht Dürer Born May 21, 1471
Nuremberg, Germany Died April 6, 1528 (aged 56)
Nuremberg, Germany Nationality

German Field Printmaking, Painting Famous works Knight, Death, and the Devil (1513) Saint Jerome in his Study (1514) Melencolia I (1514) Dürer's Rhinoceros

</tbody></table> Albrecht Dürer (pronounced /'al.bʀɛçt 'dy.ʀɐ/) (May 21, 1471 – April 6, 1528) ^[1] was a German painter and mathematician. Along with Rembrandt and Goya, Dürer is considered one of the greatest creators of old master prints. He was born and died in Nuremberg, Germany and is best known for his prints, often executed in series, including the Apocalypse (1498) and his two series on the passion of Christ, the Great Passion (1498–1510) and the Little Passion (1510–1511). Dürer's best known individual engravings include Knight, Death, and the Devil (1513), Saint Jerome in his Study (1514) and Melencolia I (1514), which has been the subject of the extensive analysis and speculation. His most iconic images are his woodcuts of the Four Horsemen of the Apocalypse (1497–1498) from the Apocalypse series, the "Rhinoceros", and numerous self-portraits in oils. Dürer probably did not cut his own woodblocks but employed a skilled carver who followed his drawings faithfully.^[2] He painted a number of religious works in oils and made many brilliant watercolours and drawings, which through modern reproductions are now perhaps his best known works. His prints established his reputation across Europe when he was still in his twenties, and he has been conventionally regarded as the greatest artist of the Renaissance in Northern Europe ever since. His work reflected the apocalyptic spirit of his time, when famine, plague, and social and religious upheaval were common. He was sympathetic to the reform work of Luther who at his death wrote to a friend, "Affection bids us mourn for one who was the best."