ความร่วมมือระหว่างแพทย์ พยาบาลและห้องแล็บ...เป็นไปได้เสมอถ้าเราเปิดใจ
วันนี้ที่ห้องแล็บ Chem ของเราได้รับการเยี่ยมเยียนจากหัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ รศ.นพ.กรีฑา ธรรมคำภีร์ โดยที่ท่านได้แจ้งวัตถุประสงค์ให้เราฟังว่า ต้องการมาคุยกับแล็บโดยตรงถึงแนวทางที่จะพัฒนาระบบการสั่งตรวจการทดสอบต่างๆ ให้สามารถลดการสั่งแล็บที่ยังไม่จำเป็นในขั้นตอนการสั่งครั้งแรก แต่สามารถสั่งเพิ่มได้หากต้องการโดยไม่ต้องเจาะเลือดเพิ่มใหม่และให้ได้ผลแล็บในเวลาที่เร็วกว่าการเจาะมาใหม่
ถ้าฟังเผินๆเราชาวห้องแล็บก็คงจะตอบได้เกือบจะทันทีเลยว่า น่าจะยากกับการทำงานของเราแน่นอน เพราะหลอดเลือดมากมายอยู่แล้วในแต่ละวัน ให้เราต้องมาหาว่าเลือดของคนไข้รายนี้อยู่ตรงไหน มีพอที่จะทำการทดสอบเพิ่มเติมหรือไม่นั้น เป็นภาระเพิ่มจากงานที่มีอยู่เกินจะทำขึ้นไปอีก
โดยความเป็นจริงแล้ว ในปัจจุบันเราก็จะรับเพิ่มแล็บอยู่แล้วทุกครั้งที่มีการร้องขอ แต่สิ่งที่อ.หมอกรีฑาอยากมาคุยกับทางห้องแล็บก็คือ ระยะเวลาในการที่แพทย์จะได้รับผลแล็บ ในกรณีนี้นั้นจะลดลงจากที่เป็นอยู่เมื่อเจาะเลือดปกติได้หรือไม่ และกระบวนการสั่งควรจะเป็นอย่างไร โดยอาจารย์อยากจะเริ่มจากคนไข้ฉุกเฉิน ที่แพทย์อาจจะสั่งแล็บเกินจำเป็นไปตั้งแต่แรก เพียงเพราะไม่อยากจะต้องสั่งเพิ่มอีกในภายหลัง ซึ่งกรณีนี้จะทำให้เราใช้แล็บเกินกว่าความจำเป็น และเป็นการโหลดงานของห้องแล็บ (แต่จริงๆแล้ว พวกเราทำง่ายกว่า เพราะมาครั้งเดียวเลย แต่ที่เสียก็คือค่าใช้จ่ายในการตรวจ ซึ่งคนไข้ก็จะต้องเสียโดยไม่จำเป็น)
สิ่งที่น่าประทับใจก็คือ ลักษณะการ approach ของอาจารย์ และวิธีการที่อาจารย์ต้องการตั้งเป็นทีมงานเพื่อประชุมพูดคุยกัน เพื่อหาทางทำให้ทุกฝ่ายได้เสนอความคิดเห็นถึงแนวปฏิบัติที่ควรจะเป็น และอาจารย์เล่าปัญหาการสั่งแล็บของแพทย์ฝึกหัดให้พวกเราฟังอย่างค่อนข้างเปิดเผย ซึ่งทำให้รู้สึกว่าพวกเราทุกคนทุกฝ่ายในโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์เช่นนี้ ควรจะมีส่วนช่วยกันบ่มเพาะแพทย์ที่มีสามัญสำนึกในการใช้แล็บที่ถูกต้อง
น่าดีใจที่อาจารย์แพทย์ระดับหัวหน้าภาคของโรงพยาบาลเรา มียุทธวิธีในการทำงานแบบ empowerment ต้องการระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายมากขึ้น ไม่ใช่หวังผลจากการขอให้ฝ่ายบริการทำให้เพียงทางเดียว เป็นนิมิตรหมายอันดีว่า ผู้รับบริการของเราจะได้รับบริการจากคนทำงานที่มีความสุขกันทุกๆฝ่ายจริงๆค่ะ
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น