ครับ จากการฟังบรรยายกับ ผศ.ดร.อรีศรี งามวิทยาพงษ์ อาจารย์จากสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผมฟังท่าพูดเรื่องราวการทบทวนวรรณกรรมครับ ท่านว่า "ครูเชื่อว่าพวกเราทุกคนล้วนอยากสร้างสรรค์สิ่งดีงามทั้งนั้น ง่ายๆคะ แค่ทำการทบทวนวรรณกรรมที่ดี ย่อมพัฒนาต่อยอดไปเป็นงานวิจัยที่ดีได้แน่นอน ตรงนี้ก็ช่วยประเทศชาติได้แล้วค่ะ"
แล้วท่านก็พูดอะไรอีกมากมาย สุดท้าย ผมก็ถามตัวเองว่า "ทุกวันนี้เราทำงานรับใช้ใครอยู่"
ผมไม่รู้เหมือนกันนะครับ มันดูจะเป็นการรับใช้ที่พันกันเป็นเกลียวที่ซับซ้อนมาก รับใช้หลายอย่าง แล้ว เป็นไปได้ไหมที่เราไม่ทำงานเพื่อรับใช้ใครเลย งั้นเราก็คงต้องไม่มีงานทำซิ หรือไม่มีกิน ไม่มีความสุขให้เสพ
ผมคิดนะครับว่า ถ้าเรายังเป็นอิสระไม่ได้จากการรับใช้เรื่อยไป ร่ำไป ตรงนี้ เราก็คงจะเป็น "ทาส" ไปตลอดเลยครับ เราเราจะเบิกบานได้ยังไงในสภาวะแบบนั้น
คงมีเจ้านายสักคนที่เราจะรับใช้เขาได้ "รับใช้ธรรมะ" ละมั้งครับ เราก็แค่คนรับใช้ หรือ เราเป็นถึงคนรับใช้ รับใช้แบบไหนมันจะคุ้มค่าที่สุด รับใช้อย่างไรถึงจะดีที่สุด ตัวเองคิดคำถามเอง ยังตอบยากเลยครับ
อยากเปลี่ยนคำว่า 'รับใช้' เป็นว่า... เราจะ 'ทำประโยชน์' อะไรให้กับโลกใบนี้ได้บ้าง...มากกว่า
เพราะการพูดว่ารับใช้นั่นรับใช้นี่ มันเหมือนเรามองว่าสิ่งต่างๆ นั้นเป็น 'ภาระ' ที่เราจะต้องชำระสะสางไปให้พ้น (ซึ่งเราก็รู้ว่ามันไม่พ้น) และยิ่งจะทำให้บ่าของเราต้องแบกรับความรู้สึกหนักอึ้งมากขึ้นไปอีก
ท่านพุทธทาสบอกไว้ว่า คนเราเกิดมาเพื่อหน้าที่
เพราะมีหน้าที่ มีการทำประโยชน์ เราจึงยังมีชีวิต
หากมีชีวิตโดยไม่ทำประโยชน์อะไร ก็คงไม่ต่างกับร่างที่ไร้ลมหายใจ
ครับ ขอขอบคุณมากเลยนะครับ คุณ
เหอๆ
พี่นาเองแหละจ้ะ (ทำเหมือนคนอื่นคนไกลเลยเนอะ)