จู พเนจร


วันนั้นเราคุยกันในหลาย ๆ เรื่องที่เป็นคนละเรื่อง คนละแนว วิถีการเดินของชีวิตก็แตกต่างกัน แต่เหมือนพุ่งเป้าเดียวกันสักอย่าง ผมยังนึกไม่ออกจนทุกวันว่าคืออะไร

     วันหนึ่งในช่วงปักษ์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ผมกำลังนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งครึ่งหน้าเพื่อนเปิดเป็นร้านรับทำงานด้านเอกสาร สิ่งพิมพ์ คุณจู พเนจร (ทราบทีหลัง) เดินเข้ามาทักทายเพื่อสอบถามราคาการสั่งทำหนังสือสักเล่มหนึ่ง คล้าย ๆ จะสำเนาหนังสือตัวเองออกมาเพิ่มเป็นหลาย ๆ เล่ม การสนทนาไม่เป็นที่ตกลงกันในขณะนั้นว่าจะรับทำหรือสั่งทำ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้แสดงออกไปคือ เราจริงใจที่จะบอกว่าไม่ค่อยพร้อมในการรับทำทั้งหมด และกลัวว่าจะไม่ออกดีนักหากขืนทำ และได้แนะนำว่าน่าจะไปโรงพิมพ์ ส่วนคุณจู พเนจรก็ยังไม่ตัดสินใจ และให้เหตุผลถึงความไม่เหมาะสมว่าหนังสือที่ว่าไม่น่าจะพิมพ์ที่โรงพิมพ์ นั่นคือประเด็นที่ผมได้พบกับคุณจู พเนจร ครั้งแรกและครั้งเดียว

     ในวันนั้นเราได้คุยในเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นแนวทางของตนเองของแต่ละคน และคำถามว่า “คนชายขอบ” คืออะไร ทำไมต้องเป็น “คนชายขอบ” ส่วนผมยังไม่ทราบว่าชายผู้นี้ เป็นคุณจู พเนจร ในตอนนั้น ก็ไม่ได้สอบถามเรื่องชื่อนี้ รู้แต่เพียงชายผู้นี้ก็เป็นคนที่มีอุดมการณ์ มีความสุขกับชีวิตและความฝัน ท่องไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เขียนงานออกมาเป็นบทกวี บทความ เรื่องเล่าตาม นำเสนอแบบง่าย ๆ ไม่ผูกติดกับเงินตราค่างวด ผมว่าวันนั้นเราคุยกันในหลาย ๆ เรื่องที่เป็นคนละเรื่อง คนละแนว วิถีการเดินของชีวิตก็แตกต่างกัน แต่เหมือนพุ่งเป้าเดียวกันสักอย่าง ผมยังนึกไม่ออกจนทุกวันว่าคืออะไร

     วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 บุรุษไปรษณีย์ก็ได้นำซองเอกสารมาฝากไว้ให้ผมที่ร้าน ซึ่งเป็น “กวีรจนา สวนโมกข์สมัยใหม่” โดย จูพเนจร หนังสือทำมือแบบง่าย ๆ เน้นสาระด้านในที่อัดแน่น พร้อมทั้งกระดาษบาง ๆ บันทึกถ้อยคำสำนวนถึงผมดังนี้

          แด่ใหญ่และคนชายขอบ ครับ
                    สวนโมกข์สมัยใหม่
                 คือภาพในการพบเห็น
                 ดีร้ายไม่ใคร่เป็น
                 เพียงเยือกเย็นสงบงาม
                 แม้นน้อยด้อยคุณค่า
                 อภิษราไม่อร่าม
                 เช่นไรใดก็ตาม
                 มอบในนามความคำนึง
                        รัก ระลึกถึง              
                         จู พเนจร

     ปีใหม่ปีนี้เป็นปี 2549 แล้ว เกือบ 2 ปีแล้วที่ผมเฝ้าติดตามงานของคุณจูที่ถูกถ่ายทอดออกมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะที่ สงขลาทูเดย์ดอทคอม เช่น แม่ลูกอ่อน(ความอยู่รอด การทำร้าย และฆาตกรรม) เป็นต้น ท่านลองติดตามงานของชายผู้มีนามว่า “จู พเนจร” ดู วันหนึ่งผมหวังว่ารางวัลซีไรท์ อาจจะอยู่ในอ้อมกอดเขา ทั้ง ๆ ที่เขาอาจจะไม่ไฝ่หาเลยก็ได้ อันนี้ผมนึกเอาเอง

     “กวีรจนา สวนโมกข์สมัยใหม่” ที่ผมได้รับ ผมยังไม่มีโอกาสแม้จะได้ขอบคุณผู้ให้ จนมาถึงปีนี้ผมจึงได้ส่ง ส.ค.ส. ที่เป็นทั้งคำขอบคุณ และอำนวรพร ไปที่ สำนักพิมพ์เพื่อนเกลอ เลขที่ 75/161 ซอย 4 นิพัทธ์สงเคราะห์ 4 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 โทร.0-7436-7720 ซึ่งเป็นสถานที่พิมพ์ และขอความกรุณาส่งต่อให้คุณจู พเนจร ต่อ ซึ่งน่าจะได้ผลคือถึงมือจริง

     จะถึงหรือไม่อย่างไร ก็ขอใช้เวทีนี้ฝากบอกถึงคุณจู พเนจร ด้วยว่า (นึกเอาว่าน่าจะได้เข้ามาเจอสักครั้ง) “ยังมีอุดมการณ์จรรโลงคนชายขอบให้ก้าวขึ้นมายืนอยู่บนเวทีอย่างสง่างาม” เช่นเดิม อย่างที่คุณได้สรุปไว้ในปกหลังด้านในหนังสือที่ส่งมาให้ ซึ่งคงได้จากเมื่อคราวสนทนากันครานั้น และก็ขอให้คุณจู พเนจร มีสุขภาพดี มีความสุข มีพลังในการไฝ่หาไปจนเจอเป้าหมายที่วางไว้เช่นกัน

หมายเลขบันทึก: 11404เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2006 12:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
ไม่มีความคิดเห็นใดๆ

สวัสดีครับ ใหญ่

ขอบคุณมากสำหรับข้อเขียนที่เขียนถึงผมครับ

ใหญ่คงสบายดีนะครับ

ตอนนี้ไม่ทราบว่าริมชายขอบยังอยู่ที่เดิมหรือไม่อย่างไรบ้าง

(ตกลงได้ไปเรียนต่อที่อาหรับไหมครับผม)

เคยเห็นกันอยู่แวบๆ ที่โน่นที่นี่ แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ไม่ได้ทักได้ทาย

นานนับหลายปีผ่าน

ถึงได้แวะมาเยี่ยมเยียนกันครับ

ตอนนี้ผมทำออฟฟิศกันอยู่แถวๆหลังญว.ครับ

มีโอกาสคงได้เจอะเจอกันนะครับ

จู พเนจร ครับ

คุณจู...ครับ

     ผมก็อยู่ไม่ไกลนะครับ แล้วจะแวะไปเยี่ยมบ้างนะ ว่าแต่ผมจะหาเจอยังไงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท