แปลก "กับอาการแพ้ยา"


"แพ้ยาพาราเซตามอล"

อาการจากการแพ้ยาพาราเซตามอล  ที่เกิดกับผมนะครับ  คือ  เมื่อเป็นไข้และได้ทานยาที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอล  เมื่อใดที่ทานก็ตามจะปวดตาอย่างแรง  และตาแดงด้วยครับ  ขอรบกวนพี่ ๆ ผู้รู้  หรือคุณหมอช่วยแนะนำด้วยว่าจะแก้ไขหรือปฏิบัติตนเช่นไร

ปัจจุบันเมื่อเป็นไข้ก็ทานฟ้าทลายโจรอย่างเดียวครับ

แต่จริง ๆ มันก็เป็นธรรมดาของสังขาร ไข้เกิดขึ้นเอง เดี๋ยวก็จักสลายไปตามกาลเวลา แต่ยังไงเมื่อยังคงสังขารอยู่เช่นนี้คงจะต้องรักษาไป เพื่อจักได้ใช้ประโยชน์จากขันธ์ทำประโยชน์ให้ตนและสังคมต่อไปครับ

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่และเปลี่ยนและแนะนำ

 วิมานเทพ

หมายเลขบันทึก: 113405เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2007 10:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 07:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

 

แนะนำ ครับ -

ทำบุญตักบาตร, อุทิศส่วนกุศลให้เจ้าเวรนายกรรม  ซึ่งหมายถึง โรคภัย นั่นเอง

...

มาให้กำลังใจ ครับ

เป็นธรรมดาของคนที่แก่แล้วนะ ผู้เฒ่า .. น่าเห็นใจจริงๆ อิอิ

ลองปรึกษาคุณพยาบาลดูนะก๊ะ เพราะน้อยคนที่จะแพ้ยาพารา  ออกกำลังกาย และทานน้ำสะอาดให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ อยู่ในที่อากาศถ่ายเทดี อารมณ์ดี แผ่เมตตา พักกายพักใจ จ้า

อุ๊ยไม่อยากเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนแล้ว อายุปูนนี้คงรู้เรื่องดีอยู่ล่ะ

บ๊ายบาย แวะมาทักทาย รักษาสุขภาพ และขอให้สุขภาพดียิ่งขึ้นๆนะ

ไอดิน

 

กำลังสงสัยว่า "คนอะไรแพ้ยาพารา" แต่ก็มีจริงๆค่ะ

ในกรณีที่แพ้ยาพารา ยังมียาในกลุ่มของแอสไพริน ที่สามารถกินเพื่อแก้ปวดลดไข้ได้ แต่มีข้อควรระวังคืออาการไซ้ท้อง ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการกินยาหลังอาหารทันที หรือดื่มน้ำตามมากๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว แอสไพรินจะไม่ทำอันตรายต่อกระเพาะอาหาร ถ้ากินยาในระยะสั้น และกินยาในขนาดต่ำๆ

ยาที่ใช้แทนยาพาราได้แก่

1. แอสไพริน (Aspirin) ขนาดยา 325 มิลลิกรัม หรือ 500 มิลลิกรัม
2. ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ขนาดยา 200,400 หรือ 600 มิลลิกรัม
3. คีโตโพรเฟน (Ketoprofen) ขนาดยา 12.5 มิลลิกรัม
4. นาพรอกเซน (Naproxen sodium) ขนาดยา 220 มิลลิกรัม

ในการแก้ปวดลดไข้ สามารถใช้ยาทั้ง 4 ชนิดทดแทนกันได้ โดยมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน แต่มีราคาแตกต่างกัน โดยแอสไพรินมีราคาถูกที่สุด และในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาเป็นเวลานาน ควรใช้แอสไพริน ชนิด enteric-coated ซึ่งไม่แตกตัวในกระเพาะอาหาร ลดอาการไซ้ท้องได้

ข้อควรระวังของการใช้ยาในกลุ่มของแอสไพริน
1. ห้ามดื่มเหล้า เพราะจะทำให้ฤทธิ์ในการไซ้ท้องเพิ่มขึ้น จนอาจมีเลือดออกในกระเพาะอาหารได้
2. กินยาหลังอาหารทันที หรือ ดื่มน้ำตามมากๆ อย่างน้อย 1 แก้วใหญ่ และไม่ควรกินยาในขณะท้องว่าง
3. ห้ามใช้เพื่อลดไข้ ในกรณีที่เป็นไข้เลือดออก หรือไข้หวัดใหญ่ อีสุกอีใส และไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อป้องกันการเกิด Reye's syndrome ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
4. ห้ามใช้ยาในหญิงมีครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด เพราะอาจทำให้ตกเลือดได้
5. ให้หยุดยาทันทีเมื่อเกิดอาการมึนงง ผมร่วง หรือมีเสียงดังในหู

เอกสารอ้างอิง :
Reynolds, J. Martindale The Extra Pharmacopoeia 29th Edition. London: The Pharmaceutical Press (1989): 32-33
Silveman, H. The Pill Book 8th Edition. New York: Bantam Books (May 1998): 1195-1202
Wolfe, F., Sasich, L. Worst Pills, Best Pills. New York: Pocket Books (February 1999): 275-277, 338-340

ดิฉันก็แพ้คะพารามีอาการไอและเจ็บคอเสบคอขึ้นมาทันที่และยังทำให้เป็นไข้หนักขึ้นไปอีกคะ

ลูกชายทานยาพาราก็ปวดตาและก็บวมแล้วก็เป็นผื่นตามตัว

ผมก็แพ้ครับ หมอเคยบอกว่า ก็ไม่แปลก แต่มีน้อยคนมาก ที่จะแพ้ยาตัวนี้ แพ้แล้วมีอาการ คันตา บวม ตาลืมไม่ขึ้น ผื่นขึ้นทั้งตัว เหมือนจะมีไข้หนักกว่าเดิม ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ ก็เลยกินซ้าเพื่อความแน่ใจ 3 ครั้ง แล้วก็ลองเปลี่ยนยา สรุปว่า ทุกตัวที่มีพารา แพ้หมด 55 ลองจนรู้เลยล่ะ ปัจจุบัน ถ้าเป็นไม่มาก ก็จะรอให้หายเอง แต่ถ้าอาการหนัก ก็กิน Ibruprofen 400 mg เหมือนยาพวกนี้จะแรงกว่า พารา

ปล. ไปหาหมอทุกครั้ง อย่าลืมบอก ว่าแพ้ยาพารา นะครับ จุ๊บๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท