ประมาณต้นปี ๒๕๔๗ มีคุณพ่อของเด็กคนหนึ่งได้ขึ้นมาติดต่อ ขอจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว ว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ยอมรับว่าตัวเองก็มึนเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ทำงานมา ยังไม่เคยได้ยินอย่างเป็นทางการว่า ครอบครัวจัดการศึกษาให้แก่บุตรของตนเองได้แล้ว ตรงนี้เองเป็นจุดเริ่มต้น ที่ศึกษาเอกสารที่กี่ยวข้องอย่างจริงจัง และทำความเข้าใจโดยมีการสอบถามประเด็นที่ยังไม่เข้าใจต่าง ๆ กับผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ ของสำนักงานและบุคลากรของ สพฐ. ซึ่งได้รับคำตอบที่มองเห็นแนวทางการดำเนินงานขึ้นมาบ้าง ประจวบเหมาะกับขณะนั้น สพฐ. มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ว่า ครอบครัวจัดการศึกษาได้แล้ว ครอบครัวจำนวนหนึ่งจึงตื่นตัวกันมาก มีหลายครอบครัวสอบถาม ทั้งทางโทรศัพท์ และมาติดต่อด้วยตนเองเพื่อขอความชัดเจนการขออนุญาต จัดการศึกษา ได้ให้คำแนะนำไปว่า ก่อนที่จะตัดสินใจจัดการศึกษา อันดับแรก ขอให้ศึกษารายละเอียดของเอกสารการจัดการศึกษาโดยครอบครัวที่ลงในเว็บไซต์ กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สพท.กทม.๒ หรือมารับที่ สพท. กทม. ๒ เมื่อศึกษาข้อมูลแล้ว ยังมีความมุ่งมั่น และคิดว่า สามารถจัดการศึกษาได้ จึงค่อยมาคุยขั้นตอนการขออนุญาตจัดการศึกษา จากการพูดคุยกับครอบครัว ทราบว่า ครอบครัวที่มีความตั้งใจ และตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะจัดการศึกษานั้น มีเหตุผลประเด็นหลักและสำคัญคือ ไม่พอใจระบบการศึกษาที่จัดในสถานศึกษา และคิดว่าครอบครัวสามารถจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับศักยภาพและเต็มตามศักยภาพของลูกตนเองได้ดีกว่าโรงเรียน และมีบางครอบครัวที่ประสงค์จะจัดการศึกษา แต่ไม่มีพื้นฐาน เรื่องการศึกษาเลย คิดว่า การจัดการศึกษาโดยครอบครัว คือการนำเด็กออกจากโรงเรียน และส่งให้ไปเรียนกวดวิชาตามสถานที่ต่าง ๆ เท่านั้น ทำให้รู้สึกว่า การประสานความเข้าใจกับครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต่างคนต่างมีพื้นฐานและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน การเชื่อมโยงเพื่อให้มาสู่จุดที่เข้าใจและยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ต้องอาศัยการสื่อสารกันอย่างกัลยาณมิตร ด้วยคำพูดที่แสดงความจริงใจ อ่อนโยน ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง แสดงความเห็นใจและห่วงใย เหล่านี้ ทำให้สถานการณ์ที่ดูตึงเครียด ผ่อนคลาย ได้ด้วยดี ขณะนี้ มี ๔ ครอบครัว ที่ได้รับอนุญาตให้จัดการศึกษา และได้มองเห็นถึงความตั้งใจ เอาใจใส่ ความอดทน และความมุมานะในการทำงานของผู้รับผิดชอบเป็นอย่างมาก ที่ต้องเป็นผู้เชื่อมโยงให้มีการประสานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวกับศึกษานิเทศก์ และบุคลากรของ สพฐ. จึงได้รับความไว้วางใจจากครอบครัว เมื่อมีเรื่องที่ไม่เข้าใจหรือประเด็นปัญหา ก็จะโทรศัพท์มาสอบถาม หรือประสาน เพื่อขอความเห็นก่อน บางครั้งก็มาพบด้วยตนเอง ซึ่งสามารถมาพบได้ทุกเวลา ก่อเกิดเป็นมิตรภาพ ที่ดีต่อกันตราบจนทุกวันนี้
นางอรุณี เทพวรรณนักวิชาการศึกษา ๘ ว กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา