ในระดับของผู้อำนวยการโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเองก็มีการแบ่งออกเป็นชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป
กับชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน
ต่างก็พยายามสร้างพลังต่อรองเพื่อให้มีการจัดสรรทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นเงิน
คน ของ ให้เข้าหากลุ่มของตนเองมากที่สุด
ทั้งที่ต่างก็เป็นเครือข่ายบริการซึ่งกันและกัน
เห็นได้เด่นชัดจากรูปแบบการจัดสรรเงินโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
ที่มีการปรับไปปรับมาตามพลังของแต่ละฝ่าย
จะหักเงินเดือนรวมทั้งประเทศหรือหักเป็นอำเภอ (CUP) ถ้าหักทั้งประเทศโรงพยาบาลทั่วไปเสียเปรียบ
ส่วนโรงพยาบาลชุมชนได้เปรียบเพราะได้เงินไปเยอะ
แต่ถ้าหักรวมโรงพยาบาลชุมชนเสียเปรียบเพราะเงินส่วนหนึ่งต้องไปอุ้มเงินเดือนของโรงพยาบาลใหญ่
การคิดอัตราการส่งต่อผู้ป่วยนอกจะคิดตามที่จ่ายจริงหรือคิดแบบมีขีดจำกัด
การคิดค่าส่งต่อบริการผู้ป่วยในจะใช้ค่า
DRGมากน้อยแค่ไหน เป็นต้น เมื่ออยู่คนละชมรม
แล้วก็อยู่กันคนละขั้ว มองแต่เรื่องประโยชน์ของตนเอง
แล้วระบบเครือข่ายการส่งต่อมันจะราบรื่นได้อย่างไร เมื่อเร็วๆนี้
ผมได้คุยกับพี่กนกนารถ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดีเด่นหลายปี ได้เล่าให้ฟังว่า
ทางชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป
มีแนวคิดที่จะชวนทางโรงพยาบาลชุมชนมารวมกันเป็นชมรมเดียว
ผมเองเห็นด้วยอย่างยิ่ง และถ้าพี่(โรงพยาบาลใหญ่ๆ)
ชวนน้อง(โรงพยาบาลชุมชน)อย่างนี้
ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีมากเพราะจะทำให้เกิดการรวมตัวกันได้ง่าย
ถ้ามัวแยกกันอยู่ หากมีอะไรมาเป็นวิกฤตก็จะพลอยพังกันไปทั้งหมด
แต่ถ้ารวมกันจะมีพลังในการต่อรองได้มหาศาลและในอนาคตหากมีการปฏิรูประบบราชการก็จะกลายเป็นส่วนเดียวกัน
เครือข่ายกัน
การแก้ปัญหาแม่น้ำสองสาย ไม่ยากถ้าตั้งใจจะแก้
โดยที่ไม่จำเป็นต้องรวมกันก็ได้
หากให้ไหลคู่ขนานกันไปยังความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์กับเส้นทางที่ผ่านไปได้
โดยมีการกำหนดบทบาทของแต่ละส่วนให้ชัดเจน ให้ทำงานส่งเสริมกัน
ไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน ถ้าเป็นทางการบริหารเขาจะเรียกว่า
ให้ทำงานซ้ำเสริมกัน
(Redundancy) ไม่ใช่ซ้ำซ้อน
(Duplication)
ยกตัวอย่างเช่น
สปสช. ทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อบริการและทำให้คนไทยสามารถใช้สิทธิ
มีสิทธิในการเข้าถึงบริการได้
โดยไม่พยายามที่จะไปจัดบริการหรือจัดทำโครงการเอง ส่วนการจัดบริการ
การพัฒนาสถานบริการหรือการแก้ปัญหาทางด้านสุขภาพให้กระทรวงสาธารณสุขทำ
ในด้านการพัฒนาคุณภาพบริการให้ พรพ.ทำ
สำนักพัฒนาระบบบริการมีหน้าที่เป็นผู้ติดตาม นิเทศ
ดูแลให้หน่วยงานในสังกัดบริการกระทรวงสาธารณสุขมีการพัฒนาคุณภาพ
โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปจัดตั้งระบบคุณภาพเองหรือทำโครงการพัฒนาคุณภาพเอง
ในเรื่องการจัดระบบ การรับรองระบบให้ พรพ.เป็นผู้ทำ
ชมรมแพทย์ชนบท ทำในเรื่องที่เป็นปัญหาสังคม
ปัญหาที่ต้องใช้พลังเพื่อแก้ปัญหาในวงกว้าง
ขณะที่ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน
ทำในเรื่องที่เป็นการพัฒนาโรงพยาบาลชุมชน
พัฒนาสายอาชีพแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชน แก้ปัญหาของโรงพยาบาลชุมชน
เป็นต้น