เขตการค้า AFTA (ASEAN Free Trade Area)
ประเทศสมาชิกของสมาคมประชาชาติเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of
South East Asia Nation : ASEAN) หรือ อาเซียนดั้งเดิมมีด้วยกัน 6
ประเทศ อันได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย
สิงคโปร์ และไทย ได้ประกาศจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียนขึ้น หรือ AFTA
ในเดือน มกราคม พ.ศ. 2535 โดยความริเริ่มของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
ซึ่งต่อมาได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีก 4 ประเทศ คือ เวียดนามในปี พ.ศ.
2538 ลาวและพม่าในปี พ.ศ. 2540 และกัมพูชาในปี พ.ศ. 2542
วัตถุประสงค์ของ AFTA
❈ เพื่อให้การค้าภายในอาเซียนเป็นไปโดยเสรี
โดยปราศจากการกีดกันที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรและใช้อัตราภาษีศุลกากรต่ำที่สุด
❈ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในภูมิภาคอาเซียน
❈ เพื่อเสริมสร้างสถานะในการแข่งขันของอาเซียน
❈ เพื่อรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าของโลกที่จะเสรียิ่งขึ้น
หลักการของ AFTA
✤ ลดภาษีศุลกากรระหว่างกันลงเหลือร้อยละ 0-5 ในเวลา 15 ปี
✤ ยกเลิกมาตรการจำกัดปริมาณของสินค้า
ทันทีที่สินค้านั้นได้รับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษีจากสมาชิกอื่น
✤ ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษีอื่นๆ
✤กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิด (Rules of Origins)
✤ หลักการต่างตอบแทน (Reciprocity)
เงื่อนไขการได้รับสิทธิประโยชน์จากอาฟต้า
จะเป็นสินค้าที่อยู่ในแผนการลดภาษีของทั้งประเทศผู้ส่งออกและนำเข้า
โดยการลดภาษีเป็นไปตามหลักการต่างตอบแทนคือสินค้าของประเทศหนึ่งจะได้รับการลดภาษีในอีกประเทศหนึ่ง
เมื่อต่างก็ลดภาษีลงเหลืออัตรา 20% หรือต่ำกว่า
ก็สามารถได้รับการลดภาษีในอีกประเทศหนึ่งซึ่งยังลดภาษีสินค้านั้นลงไม่ถึง
20% หรือต่ำกว่าเช่นกัน
แต่จะไม่ได้รับการลดภาษีสินค้านั้นในประเทศที่ลดภาษีสินค้านั้นลงเหลือ
20% หรือต่ำกว่า
รวมไปถึงเป็นสินค้าการผลิตในอาเซียนประเทศใดประเทศหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งประเทศ
รวมกันคิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 40% ของมูลค่าสินค้า
ปัญหาและอุปสรรคของความร่วมมือทางเศรษฐกิจของเขตการค้าเสรีอาเซียน
AFTA
ผลกระทบของการเปิดเสรีทำให้หลายประเทศเกรงว่าจะทำให้เสียเปรียบกับต่างประเทศทางการค้าและการลงทุน
แต่สิ่งที่ควรพิจารณาถึงผลกระทบของการเปิดเสรีคือเป็นการแบ่งปันผลประโยชน์ของคนในชาติระหว่างคนจนและคนรวยให้มีความเสมอภาคมากขึ้น
ซึ่งในการเปิดเสรีนี้จะมีส่วนช่วยทำให้สินค้าของคนจนภายในประเทศส่งออกได้มากขึ้น
และช่วยลดการป้องกันอุตสาหกรรมของคนรวยภายในประเทศให้ลดลง
อย่างไรก็ตามอุปรรคของความร่วมมือทางเศรษฐกิจยังมีอยู่ดังต่อไปนี้
✿
ความแตกต่างในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของแต่ละประเทศสมาชิกส่งผลให้เกิดความร่วมมือไม่เต็มที่
✿ สภาพภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกัน
ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
ทำให้การพึงพาซึ่งกันและกันอยู่ในระดับต่ำ
✿ ประเทศสมาชิกภายในกลุ่มอาเซียนพยายามที่จะแข่งขันกันในทุกๆ
อุตสาหกรรมทำให้ไม่ได้ใช้ความชำนาญเฉพาะอย่างที่ตัวเองถนัด
แต่ถ้ามีการเปิดเสรีจะมีผลทำให้โครงสร้างเปิดและทำในเฉพาะอุตสาหกรรมที่เราถนัด
ซึ่งจะทำให้เกิดขบวนการเรียนรู้และพัฒนาซึ่งเป็นผลที่ดีต่ออุตสาหกรรมที่ตนเองมีความได้เปรียบมากที่สุด
✿ จากในอดีตที่อาเซียนมีเศรษฐกิจที่ดี เติบโตเร็ว
และมีอำนาจในการซื้อสูง
แต่อาเซียนไม่ได้ใช้อำนาจที่มีในการต่อรองเกี่ยวกับเปิดเสรีกับประเทศสหรัฐอเมริกาทำให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนได้สูญเสียโอกาสที่ดีไป
ในขณะเดียวกันประเทศอาเซียนในเวทีของกลุ่ม APEC
ก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลประโยชน์ในการเจรจาทางการค้าเนื่องจากเกรงว่าประเทศพัฒนาจะเอาเปรียบจึงทำให้เสียโอกาสในการเปิดเสรี
นอกจากนั้นหากเปิดเสรีก็จะต้องเป็นไปตามความสมัครใจ
จึงต้องมีการปรับปรุงการสร้างอำนาจการต่อรองของ ASEAN
ผลกระทบของการจัดตั้งกลุ่ม AFTA
✡ ช่วยเสริมสร้างสถานะการแข่งขัน การนำเข้าวัตถุดิบในราคาต้นทุนต่ำ
การขยายตลาดการผลิตสินค้าที่แต่ละประเทศมีความเชี่ยวชาญและได้เปรียบด้านต้นทุน
ตลอดจนการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ได้รับการลงทุนจากต่างประเทศจะทำให้อาเซียนสามารถผลิตสินค้าได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำ
ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างสถานะการแข่งขันการส่งออกของอาเซียนในเวทีการค้าระหว่างประเทศ
✡ การลงทุน การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน
ทำให้ตลาดอาเซียนกลายเป็นตลาดใหญ่มีประชากรเกือบ 500 ล้านคน
ซึ่งจะเป็นจุดดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและก่อให้เกิดมีการจ้างงานการถ่ายทอดเทคโนโลยี
ซึ่งจะมีผลนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจมาสู่ภูมิภาค
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน อันได้แก่ ลาว เวียดนาม
และพม่า
ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรตามธรรมชาติ
แรงงานมีราคาที่ไม่สูง การเข้ารวมตัวกับอาเซียนของทั้งสามประเทศ
จึงเท่ากับเป็นการสร้างศักยภาพในการขยายตัวทางการค้าและการลงทุนให้กับอาเซียนด้วย
✡ การขยายการค้า
ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนกำหนดให้ลดอุปสรรคทางการค้า
ทั้งทางด้านภาษีและที่มิใช่ภาษีระหว่างประเทศสมาชิก
ซึ่งจะส่งผลให้มีการขยายการค้าภายในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งสินค้าสำเร็จรูป สินค้าขั้นกลางและวัตถุดิบ
✡ การเสริมสร้างอำนาจการต่อรอง
การจัดตั้งเขตการค้าอาเซียนเป็นการแสดงเจตนารมณ์การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียน
ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือภายในกลุ่มแล้วยังเป็นการเสริมสร้างอำนาจต่อรองในเวทีการเจรจาการค้าระหว่างประเทศด้วย
การส่งออกและการใช้ข้อตกลง AFTA
เพื่อความได้เปรียบเชิงแข่งขันระหว่างประเทศ
ผู้ผลิตในประเทศไทยมักจะไม่สนใจและไม่ให้ความสำคัญเรื่องกฎเกณฑ์และกติกาการค้านอกเสียจากจะเป็นเรื่องใกล้ตัวจริงๆ
เช่นโควต้าส่งออก โควต้านำเข้า
ผู้ผลิตที่เรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการต่างๆเพื่อปกป้องตนเองนั้นมักจะไม่ได้ตระหนักว่ารัฐบาลต้องปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มการค้าระหว่างประเทศอย่างไร
และมิได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะได้สินค้าคุณภาพดีในราคาต่ำกว่าหากสินค้านั้นไม่ผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาดมากเกินไป
ผู้ผลิตไทยจึงควรใช้ข้อตกลง AFTA
เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ
เพราะประเทศอื่นๆต้องลดอัตราอากรนำเข้าสินค้าที่นำเข้าจากประเทศไทยเช่นกัน
ทั้งนี้ผู้ผลิตไทยควรใช้ข้อตกลง AFTA
ให้เป็นประโยชน์ต่อการขายสินค้าในประเทศและส่งออกดังนี้
✮นำเข้าวัตถุดิบจากประเทศในกลุ่ม ASEAN
เพื่อผลิตหรือแปรรูปแล้วขายในประเทศเพราะอัตราอากรนำเข้าของวัตถุดิบหรือสินค้าบางประเทศจะมีอากรนำเข้าต่ำ
(0-5%)
✮ตรวจสอบว่าสินค้าที่เราผลิตจัดเข้าประเภทพิกัดอัตราศุลกากรใด
พิกัดดังกล่าวอยู่ในกรอบลดอัตราอากรขาเข้าของประเทศใดในกลุ่ม ASEAN
หากวิเคราะห์แล้วพบว่าต้นทุนสินค้าของเราต่ำกว่าสินค้าประเภทเดียวกัน
ที่ผลิตขายอยู่ในกลุ่ม ASEAN
เราน่าจะส่งสินค้าของเราเข้าไปขายยังประเทศนั้น
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูงในด้านราคานั้น
ผลกระทบจากข้อตกลง AFTA
ต่อผู้ผลิตไทยมีไม่มากเท่ากับผลกระทบจากสินค้านำเข้าจากจีนเนื่องจากจีนมีโครงสร้างต้นทุนที่ได้เปรียบไทยมาก
แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบจากประเทศเวียดนามภายใต้ข้อตกลง AFTA
ก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันเนื่องจากเวียดนามมีโครงสร้างต้นทุนที่เอื้ออำนวยกว่าไทย
ดังนั้นผู้ผลิตไทยเองควรมีการปรับโครงสร้างการผลิต
โดยควรพิจารณาถึงการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีค่าแรงงานถูกกว่าไทยเช่นประเทศลาวและเวียดนามเอง
ทั้งนี้ประโยชน์ที่ได้ยังประกอบไปด้วยโอกาสที่เพิ่มขึ้นในการส่งออกไปยังประเทศฝรั่งเศสและประเทศอื่นในกลุ่ม
EU เนื่องจาก EU ได้ให้สิทธิพิเศษทางการค้าแก่ประเทศในกลุ่ม CLMV
ซึ่งประกอบด้วย Cambodia, Laos, Myanmar และ Vietnam
สวัสดีครับ เรื่อง AFTA ที่คุณน้อยนำเสนอถือว่าเป็นการให้ความรู้ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งครับสำหรับผู้ประกอบการนำเข้า - ส่งออก ใช้เป็นฐานข้อมูลในการทำธุรกิจกับประเทศเพื่อนบ้านได้ดีมาก ๆ ครับ ช่วยนำสาระดี ๆ อย่างนี้มาลงอีกนะครับจะคอยติดตามครับ
กำลังศึกษาเรื่องอาเซียนพอดีเลยคะ อยากทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาของอาเซียนอะคะ