‘มะขามป้อม’ มีฤทธิ์ต้านไวรัสหวัดใหญ่ได้ดี


‘มะขามป้อม’ มีฤทธิ์ต้านไวรัสหวัดใหญ่ได้ดี
แนะกิน ‘มะขามป้อม’ มีฤทธิ์ต้านไวรัสหวัดใหญ่ได้ดี

 

 

 

 

 

ช่วยทำให้ชุ่มคอ แก้ไอ ละลายเสมหะ

  อาหาร,ผัก,ผลไม้,มะขามป้อม,สุขภาพ,รักษาโรค,ขับเสมหะ,ป้องกันไวรัสหวัดใหญ่,ไข้หวัดใหญ่,ผักพื้นบ้าน

           

มะขามป้อมเป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงประมาณ 7-12 เมตร เปลือกเรียบสีน้ำตาลอมเทา ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยวคล้ายใบมะขาม ดอกมีสีขาวกลิ่นหอมออกเป็นกระจุก ผลเป็นทรงกลมสีเขียวอ่อนเมล็ดสีน้ำตาล มีหลากรสชาติทั้งรสเปรี้ยว หวาน ฝาด ขม ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด            

เราสามารถทานมะขามป้อมได้ทั้ง 2 แบบคือ 

- วิธีทานแบบผลสด จะอมไว้หรือเคี้ยวทั้งลูกก็ได้ อาจเพิ่มรสชาติด้วยจิ้มเกลือเล็กน้อยหรือนำไปปั่น โดยเลือกผลที่แก่จัดๆ 20-30 ลูก ผ่าเอาเมล็ดออกเติมน้ำ 2 ถ้วย ผสมน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย และเกลือ 1 ช้อนชา หรือปรุงรสตามใจชอบจะมีวิตามินซีสูงกว่าน้ำส้มถึง 20 เท่า จะช่วยให้ชุ่มคอ แก้กระหายน้ำ  

- วิธีทานแบบผลแห้ง โดยนำมะขามป้อมแห้ง 1-2 ลูก มาแช่ในน้ำ 1 แก้ว ทิ้งไว้ 1 คืน รุ่งขึ้นทานทั้งน้ำและเนื้อตอนท้องว่าง หรือนำไปต้มทานอุ่นๆ ก็สามารถแก้หวัดได้ดีเช่นกัน 

ประโยชน์และคุณสมบัติทางสมุนไพร 

ใบ ใช้ต้มอาบแก้ลดไข้ แก้ผิวหนังผื่นคันมีน้ำเหลือง แผลมีฝีหนองเรื้อรัง 

ดอก เป็นยาเย็นหรือยาระบาย 

ผล ทั้งผลสดและผลแห้ง เป็นยาสมานช่วยลดไข้โดยเฉพาะมีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สูง บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ ฟอกเลือด แก้โรคริดสีดวงทวาร แก้บิด ท้องเสีย แก้โรคดีซ่าน แก้ไอ ละลายเสมหะ กระตุ้นน้ำลาย เจ็บคอ คอแห้ง คอตีบหมักกับแอลกอฮอล์แก้อาหารไม่ย่อย 

ยางจากผล ตาแก้ตาอักเสบ  รับประทานช่วยย่อยอาหาร  ขับปัสสาวะ 

ปมที่ก้าน แก้ปวดเมื่อยกระดูก ปวดฟัน ปวดท้องน้อย ไส้เลื่อน ปวดกระเพาะอาหาร 

ราก ต้มน้ำกินเป็นยาลดไข้ ฟอกเลือด ตำพอกแก้พิษสัตว์กัดต่อย แก้ร้อนใน ท้องเสีย ความดันโลหิตสูง โรคเรื้อน พอกแก้พิษตะขาบกัด 

เปลือกต้น แก้แผลเลือดออก บิด แผลฟกช้ำหรือแผลกระแทก นอกจากจะมีประโยชน์ทางสมุนไพรแล้ว ชาวเหนือสามารถใช้ประโยชน์จากมะขามป้อมได้อีก โดยนำเปลือกมะขามป้อมมาทำเป็นสีย้อมผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ แม้กระทั่งย่อมสีผม  

มะขามป้อมผลเล็กแบบนี้มีดีไม่แพ้ผลไม้อื่นเลยนะค่ะ ถ้าไม่หาทานวันนี้แล้วจะทานวันไหน  

    jj   

หมายเลขบันทึก: 110813เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2007 12:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท