Attention all medical staffs. Code brown at delivery suit!!


เท่านั้นเอง ครูลีก็วิ่งผลุงออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างความตื่นเต้นให้ผมเป็นอย่างมาก

วันที่ 11 กรกฎาคม 2550

วันนี้เป็นวันพุธของสัปดาห์ที่ 10 แล้ว เช้าวันนี้ไปทำงานได้เช้า เพราะปรับเปลี่ยนเวลาการตื่นนอนเล็กน้อย ได้กินก๋วยเตี๋ยวก่อนทำงาน เมื่อ round เสร็จก็มานั่งกินกาแฟที่ภาควิชา รสชาติไม่แพ้สตาร์บั๊กเลยครับ

                วันนี้ผมกับดันดีต้องอยู่ที่คลินิกทั้งวัน ตอนเช้าเป็นของครูหาญ ตอนบ่ายเป็นของครูลี แต่ตรวจคนไข้ได้จนถึงเที่ยงครูหาญก็บอกให้ไปช่วยผ่าตัด ผมจึงไปเริ่มลงมือผ่าตัดกับอาร์ลีน และก็อย่างเคยครับ ท่านเข้ามาเมื่อมดลูกหลุดพอดี ผมช่วยผ่าตัดจนเสร็จก็ล่วงเลยมาจนถึง 2 โมงครึ่ง เลยรีบไปกินของหวานเล็กน้อย ก่อนที่จะไปช่วยครูลีที่คลินิกต่อ คนไข้ไม่ค่อยมากนัก ผมสามารถใช้เวลากับการดูคนไข้แต่ละคนได้อย่างละเอียด บางคนผมตามไปดูในห้องตรวจยูโรพลศาสตร์ด้วย

                ระหว่างที่เรากำลังทำงานด้วยกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงตามสายมาว่า Attention all medical staffs. Code brown for delivery suit at bed 10. เท่านั้นเอง ครูลีก็วิ่งผลุงออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างความตื่นเต้นให้ผมเป็นอย่างมาก

เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ปกติเราจะได้ยินเสียงตามสายทำนองนี้บ่อย แต่เป็น code blue ซึ่งหมายถึงภาวะฉุกเฉินที่ไม่น่ากลัวมากนักเช่น เด็กออกมาตัวเขียว ร้องไม่ดี คนเป็นลม (กระทั่งในโรงอาหารก็เคยได้ยิน code blue at Kopitium) แค่นี้ก็มีหมอวิ่งกันเป็นแถวๆ แบบว่าใครถึงก่อนก็เป็นฮีโร่ แต่ครูผมไม่เคยวิ่งไปด้วยเลย แต่วันนี้กลับต่างออกไป เพราะว่าเป็น code brown น่าทางจะหนักหนา เพราะครูลีออกไปเร็วมาก มารู้ทีหลังก็คือ มีการคลอดติดไหล่ code brown เป็นคำเฉพาะสำหรับภาวะนี้เท่านั้น ดังนั้นการที่ครูลีออกไปนั้น มันจึงด่วนมากถึงมากที่สุด

ภาวะคลอดติดไหล่ เป็นภาวะที่ไม่มีหมอสูติคนไหนในโลกนี้อยากเจอหรอกครับ เพราะนั่นหมายความว่า การช้าไปเพียงนาทีเดียวเด็กก็อาจจะพิการหรือเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ลองนึกตามดูนะครับ การคลอดทางช่องคลอดนั้น เด็กจะค่อยๆโผล่หัวออกมา จากนั้นจะเป็นไหล่ ตัว และขาคลอดออกมาท้ายสุด เมื่อมีการติดไหล่ นั่นคือคลอดไม่ออกและคาอยู่ตรงนั้นแหละ ติดอยู่ในช่องคลอด โผล่ออกมาได้เฉพาะหัว ไหล่ของเด็กจะยันอยู่กับกระดูกหัวหน่าวของแม่ วินาทีนั้น หมอผู้ทำคลอดหัวใจหล่นไปอยู่ที่ปลายเท้าเรียบร้อย อาจจะแถมด้วยการมีเหงื่อกาฬผุดออกมาให้เห็น หากเด็กไม่หลุดออกมา สายสะดือจะถูกบีบอยู่ในช่องคลอด เด็กจะขาดเลือด เปรียบเสมือนการถูกบีบจมูก หายใจไม่ได้ ขาดออกซิเจน และตาย ที่ออกมาได้อย่างทุลักทุเล ส่วนหนึ่งกระดูกไหปลาร้าหัก เส้นประสาทต้นแขนฉีก ยกแขนไม่ขึ้น พิการ น่ากลัวใช่ไหมครับ

ดังนั้น ทายได้เลยว่า เมื่อมี code brown คนที่จะวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุต้องประกอบด้วย หมอสูติ (ยิ่งแก่ยิ่งดี เพราะน่าจะมีประสบการณ์มาก) หมอเด็กและทีมกู้ชีพของเขา และท้ายที่สุดคือหมอดมยา เผื่อต้องดมยาแม่และควักเด็กออกมา และที่จะขาดไม่ได้คือ พยาบาลอาวุโส ท่านเหล่านนี้ช่ำชองครับ เพราะส่วนหนึ่งทำงานมานานกว่าหมอซะอีก

ปรากฏว่าเมื่อครูลีไปถึง เด็กคลอดออกมาได้แล้ว โดยไม่มีความพิการแต่อย่างไร งานนี้ไม่มีใครโกรธที่ต้องวิ่ง 100 เมตรมายังที่เกิดเหตุ มีแต่ไชโยโห่หิ้วกันด้วยความยินดีครับ

จากนั้นก็เริ่มงานกันต่อ

ระหว่างที่ว่าง ผมได้ถามลินดา (ผู้ช่วยพยาบาลที่คลินิก) เกี่ยวกับราคาน้ำหอม เธอบอกว่าที่ Mustafa ราคาค่อนข้างแพง จึงแนะนำให้ไปที่ห้าง Lucky Plaza ที่อยู่ในถนน Orchard ถามไปถามมา ตกลงเลยนัดกันว่าไปด้วยกันซะเลย ชวนดันดีไปด้วย เผื่อว่าจะได้ซื้อฝากภรรยาด้วยกัน

กว่าจะเคลียร์คนไข้ที่คลินิกเรียบร้อย ไปดูคนไข้เพื่อเตรียมผ่าตัดพรุ่งนี้เสร็จ ก็ 6 โมงเย็นพอดี ผม ดันดี ลินดา และแทมมี่ก็ไปด้วยกัน งานนี้เราไปร้านประจำของลินดาครับ เขาเฉพาะน้ำหอมเท่านั้น คนขายน่ารัก เป็นตุ๊ดนิดๆ เธอรู้เรื่องน้ำหอมดีมาก (ก็แน่ล่ะสิ งานเขานี่นา) ผมเลือก Kenzo อย่างที่ผมถูกใจ และจิ๋มใช้เป็นประจำอยู่แล้ว จากนั้นกะว่าจะซื้อ Este beyond paradise เพิ่มอีก แต่คนขายเธอบอกว่า แก่ไปครับ จึงแนะนำ Issey Miyake ซึ่งทั้ง 2 ขวดนี้ผมเลือกแบบที่เป็นขวดทดลอง (tester) เพราะว่าราคาถูกลงมาก ถูกใจแล้วครับ งานนี้ดันดีไม่ได้น้ำหอมกลับมา สงสัยอยากโทรกลับไปถามที่บ้านก่อน แบบว่าแฟนต้องถูกใจว่างั้นเถอะ แต่สำหรับผม ผมคิดว่าคนดมคือผม ดังนั้นผมต้องถูกใจก่อนสิน่า

ซื้อน้ำหอมเสร็จ รู้สึกได้ว่ากระเป๋าเบาไปถนัดเลย จากนั้นเราก็ไปกินอาหารด้วยกัน และเนื่องจากดันดีมาด้วย และเขาเป็นมุสลิม เราจึงเลือกไปกินอาหารของมุสลิมกันที่ร้านอาการอินโดนีเซีย อร่อยจริงๆครับ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะมื้อเที่ยงยังไม่ตกลงถึงท้องเลยก็ได้กระมัง

ในโต๊ะอาหารเราก็ตั้งวงนินทากันอีกแล้ว ทำไมน๊า ช่วงนี้จึงได้กลายเป็นนักข่าวก๊อซซิบไปได้ แต่ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มนะครับ งานนี้แทมมี่และลินดาเป็นคนเริ่มเรื่อง คนที่เรากล่าวถึงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่คุณนายอาร์ลีนของเรา เนื้อหาก็คงเป็นแบบเดิม แต่คราวนี้ได้ฟังจากผู้ช่วยพยาบาลบ้าง ดูท่าทางเขาไม่ค่อยชอบเธอเอามากๆ ลินดาบอกผมว่า วันนี้เธอคุยกับครูลี ท่านบอกว่า ระหว่าง fellow ของท่านทั้ง 3 คนนั้น มีศักยภาพต่างกัน เธอรู้แล้วว่าใครทำงานได้ ใครทำงานไม่ได้ คงเดากันได้นะครับว่าท่านหมายถึงใคร จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน กว่าจะถึงก็ราวๆ 2 ทุ่มครึ่ง มานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์และบอกเล่าเรื่องราวประจำวันเช่นเดิม
หมายเลขบันทึก: 110658เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2007 21:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2012 11:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ  อาจารย์ธนพันธ์

   แวะมาทักทายค่ะ   อ่านบันทึกอาจารย์แล้วตื่นเต้นดีค่ะ วันนี้ทำฟันให้อาจารย์สายบัว ยังแอบลุ้นให้อาจารย์เขียนเล่าประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย น่าจะดี่สำหรับเพื่อนแพทย์ค่ะ    

              ขอให้มีความสุขในการใช้ชีวิตแพทย์ที่ นั่นค่ะ

                                                    พี่ฉลอง

                                        

ขอบคุณอ.หมอแป๊ะสำหรับบันทึกที่ทำให้ขนลุกกับวิญญาณแพทย์ในการช่วยชีวิตคนค่ะ ดีใจที่เรื่องจบลงด้วยดี สงสัยว่านี่ก็น่าจะเป็นการปิดทองหลังพระเหมือนกันใช่ไหมคะ คุณแม่และหนูน้อยคงไม่ได้ทราบรายละเอียดการช่วยชีวิตครั้งนี้ น่าชื่นชมจริงๆค่ะ

เห็นด้วยเรื่องน้ำหอมนะคะ ตัวคนใส่เองไม่ค่อยได้กลิ่นทีหรอก คนอยู่ใกล้ๆนั่นแหละดม

สวัสดีครับพี่ฉลอง

ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน

การใช้ชีวิตที่นี่ก็มีความสุขตามอัถภาพครับ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง

สุขที่ได้ทำงาน ทุกข์ที่ต้องทำงาน (เอ๊ะยังไงกัน)

สุขที่ได้มาเรียน ทุกข์ที่ต้องมาเรียน (อะไรเนี่ย)

สุขที่ได้อยู่ต่างประเทศ ทุกข์ที่ต้องจากบ้าน

สุขบ้าง ทุกข์บ้าง มันแสดงว่าเรายังมีความรู้สึกอยู่นะครับ

สวัสดีครับพี่ P

ความภูมิใจของเรามีทุกครั้งที่เขารอดปลอดภัย

แต่หลายครั้งที่แม้เราช่วยเต็มที่แล้ว แต่เขาจากเราไป คนข้างหลังก็ฟ้องเราครับ น่าเศร้าจริง

ตอนนี้พวกหมอทั้งหลาย แทบกระดิกตัวไม่ได้เลย พลาดเป็นจบ

ที่สิงคโปร์เป็นตัวอย่างที่ดีครับ มีการเจาะเลือดตรวจค้นมากเกินความจำเป็นตั้งหลายอย่าง หลายครั้งเอง หมอก็ส่งตรวจตามที่คนไข้ร้องขอ เหตุผลก็คือ กลัวพลาด ขี้เกียจตอบคำถามมาก ฯลฯ

น่าเศร้านะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท