สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร ?
บทความนี้กล่าวถึงการ SWOT ว่าเป็นอย่างไร สำคัญอย่างไร เราจะได้ประโยชน์อะไร โดยมุ่งเน้นไปที่สถานศึกษาเป็นหลัก
การศึกษาสถานภาพของสถานศึกษา 1. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน 2. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก3. การประเมินสถานภาพสถานศึกษา
การศึกษาสถานภาพของสถานศึกษาการศึกษาสถานภาพของสถานศึกษา เป็นการศึกษาวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของสถานศึกษา ( School environment ) ในด้านต่าง ๆ ทั้งที่เป็นปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกสถานศึกษา โดยศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสถานศึกษา ทั้งในแง่เชิงบวก และเชิงลบ ข้อมูลจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม เป็นข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการประกอบการพิจารณาตัดสินใจ ในการประเมินสถานภาพของสถานศึกษาว่า มีสภาพเป็นอย่างไร มีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน และมีความพร้อมหรือไม่พร้อมที่จะพัฒนาสถานศึกษาไปในทิศทางใด ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจในการดำเนินการในด้านต่าง ๆ ในการที่จะก้าวเดินไป ในข้างหน้า
การละเลยไม่สนใจต่อสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา ย่อมส่งผลต่อการอยู่รอด และ การเจริญเติบโตของสถานศึกษา ทั้งนี้เนื่องจากสภาพแวดล้อมในด้านต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นย่อมมีอิทธิพลส่งผลต่อสถานศึกษาทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าผู้บริหารสถานศึกษาทราบ ติดตามและตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และศึกษาแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ตลอดจน จุดแข็ง จุดอ่อน ของสถานศึกษา จะช่วยให้ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถกำหนดเลือกหา กลยุทธ์ในการดำเนินงาน และดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการขจัดปัจจัยต่าง ๆ อันอาจจะนำไปสู่ความล้มเหลวของสถานศึกษานั้นด้วย
1. สภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษา ( Internal environment ) เป็นการศึกษาถึงปัจจัยต่าง ๆ ภายในสถานศึกษา ที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของสถานศึกษา โดยตรง โดยเป็นการศึกษาถึงสิ่งที่เป็นจุดอ่อน ( Weaknesses ) และจุดแข็ง ( Strengths )ของสถานศึกษา สถานศึกษาจะต้องทราบว่าตัวเองมีอะไรที่เป็นจุดแข็ง มีอะไรที่เป็นจุดอ่อน จุดแข็งจะเป็นปัจจัยด้านบวกที่ส่งเสริมให้สถานศึกษาดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับจุดอ่อนจะเป็นปัจจัยด้านลบที่มีผลกระทบ และเป็นสิ่งบั่นทอนการดำเนินงาน ทำให้การดำเนินงานในด้าน ต่าง ๆ ไม่สามารถดำเนินการคืบหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพบทบาทหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษา ก็คือ ทำอย่างไรจะกำจัดปัจจัยที่เป็นจุดอ่อนให้หมดไป และ ค้นหาปัจจัยที่เป็นจุดแข็งที่มี นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสถานศึกษาให้มากที่สุด |
ข้อมูลเกี่ยวกับ สภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษา ควรจัดหาหรือจัดเก็บด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น การประชุมระดมพลังสมอง การสำรวจความคิดเห็น การสัมภาษณ์ การสอบถามการสำรวจข้อมูล เชิงประจักษ์จากร่องรอยหลักฐานที่ปรากฏในสถานศึกษาประเด็นที่จะนำมาศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อนนั้น ควรเปิดกว้างให้ผู้เกี่ยวข้อง ( Stakeholder ) ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่
การประเมินว่าสิ่งใด เป็นจุดอ่อนหรือสิ่งใดเป็นจุดแข็งนั้นทำอย่างไรการที่จะประเมินว่าสิ่งใดจะเป็นจุดอ่อนหรือสิ่งใดจะเป็นจุดแข็งนั้น เราจะต้องมองที่แนวโน้มของประเด็นนั้น ๆ ที่เรานำมาวิเคราะห์ ดังนี้
1. เปรียบเทียบสิ่งนั้น ๆ ว่าด้านไหนมีน้ำหนักมากกว่ากัน ระหว่างผลกระทบทางบวก
หรือ ผลกระทบทางลบ ( จะไม่เป็นทั้งสองด้านในประเด็นเดียวกัน )
2. เปรียบเทียบปริมาณด้านดีกับด้านไม่ดี ว่ามีสิ่งไหนมากกว่ากัน
3. เปรียบเทียบสิ่งที่ขาดกับสิ่งที่เกิน ว่ามีสิ่งไหนมากกว่ากัน
4. เปรียบเทียบด้านมีคุณภาพกับด้านไม่มีคุณภาพ ว่ามีสิ่งไหนมากกว่ากัน
5. เปรียบเทียบจุดที่เด่นกับจุดที่ด้อย ว่ามีสิ่งไหนมากกว่ากัน
6. เปรียบเทียบประสิทธิภาพ ว่ามีมากมีน้อยกว่ากัน
เปรียบเทียบสิ่งที่เป็นจุดแข็งและจุดอ่อน | ||
จุดแข็ง | จุดอ่อน | |
ผลกระทบทางบวกมากกว่าผลกระทบทางลบ ด้านดี มากกว่า ด้านไม่ดี สิ่งที่เกิน (พอ) จุดที่เด่น (ดีกว่า ) มีคุณภาพ มากกว่า มีประสิทธิภาพดีกว่า |
ผลกระทบทางลบ มากกว่าผลกระทบทางบวก ด้านไม่ดี มากกว่า ด้านดี สิ่งที่ขาด (ไม่พอ) จุดที่ด้อย ( ด้อยกว่า ) ไม่มีคุณภาพ น้อยกว่า มีประสิทธิภาพด้อยกว่า ชำนาญน้อยกว่า |
ข้อควรระวัง สิ่งที่วิเคราะห์ในแต่ละประเด็น จะต้องเป็นจุดอ่อนหรือจุดแข็ง อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ โดยจะไม่เป็นทั้งสองด้าน(แข็ง – อ่อน )ในประเด็นเดียวกัน ในเวลาที่เปลี่ยนไป สิ่งที่เป็นจุดอ่อนอาจกับกลายมาเป็นจุดแข็งในภายหลัง หรือจุดแข็งกับกลายมาเป็นจุดอ่อน ก็ได้ ( ซึ่งจะต้องมีการทบทวนเป็นระยะ ๆ ไป) |
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เป็นจุดอ่อนและจุดแข็ง ให้นึกถึง “ กว่า ” |
ไม่มีความเห็น