ช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านมา เมื่ออยู่ในระบบโรงเรียน เราเรียนรู้จากคุณครูและผู้อื่นที่เป็นคนถ่ายทอดความรู้ และเราก็เรียนรู้เพราะว่าต้องเรียน
ในช่วงที่เราเติบโตออกมากจากระบบการศึกษา ช่วงชีวิตของการทำงาน เป็นช่วงที่เรามีอิสระในการแสวงหาความรู้ ความเข้าใจทั้งภายในตัวเราเอง และรอบๆตัวเรา
สิ่งหนึ่งที่สังเกตและเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆก็คือ การเติบโตของจิตใจ ของจิตวิญญาณของเรา การเปลี่ยนแปลงภายในนี้ต้องค่อยๆเรียนรู้ ค่อยๆเชื่อมโยงและมีจุดมุ่งหมายในใจ ถึงเป้าหมายที่เราอยากจะให้เป็นอยากจะเปลี่ยนแปลง
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถในการวิเคราะห์ ความสามารถในการมองเข้ามาภายในจิตใจของตนเอง ว่ามีประเด็นอุปสรรค ปัญหา หรือมีความพร่องอะไรบ้างที่เราควรจะพัฒนาเปลี่ยนแปลง หรือว่า ยกระดับขึ้นไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายมาก..
เพราะว่าธรรมชาติของคนเรามักจะโน้มเอียงที่จะหาหลัก หาสิ่งยึดเหนี่ยวเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัตถุและสิ่งที่เป็นความเชื่อและความคิดก็ตาม
จิตใจ...ก็เช่นกัน ถ้าเราสร้างรูปแบบง่ายๆเหมือการปลูกต้นไม้สักต้นหนึ่ง เราก็จะต้องมีความรู้ที่จะปลูก มีทักษะในการเลี้ยงดูต้นไม้นั้นๆ และที่สำคัญคือรู้ว่าเรากำลังปลูกต้นอะไรอยู่ และปลูกไปเพื่ออะไร
เช่นเดียวกับจิตใจ...ของข้าพเจ้า..เปรียบต้นไม้ต้นหนึ่ง ตอนนี้ก็เติบโตในระดับหนึ่ง มีกิ่งก้านมากมาย บางส่วนอาจจะดูสวยงามและดีอยู่แล้ว แต่ก็มีส่วนมากที่ต้องทำการปรับแต่ง ปรับปรุง ก้านบางส่วนอาจจะไม่เติบโต ต้องใส่ปุ๋ยพรวนดินเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนรู้วิธีที่จะปลูก หรือวิธีที่จะพัฒนาจิตใจ ดวงนี้ให้เติบโต มีพร้อมทั้งความดี ความจริง และความงาม.....
ระหว่างเส้นทางของการเรียนรู้ หรือการเติบโตขึ้นของจิตใจ ก็อาจจะมีแสงแดดที่ร้อนเกินไป ลมที่แรง หรือสายฝนที่กระหน่ำลงมา ซึ่งย่อมต้องสิ่งผลกระทบต่อการเติบโตบ้าง แต่ก็จะไม่สามารถทำให้หยุดการเรียนรู้และพัฒนาต่อไป....
จิตใจ...กับ ต้นไม้
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ..คุณหมอ..หายไปนานเลย
เปรียบเปรยได้ดีมากค่ะ..ชีวิตคนก็เหมือนต้นไม้..ที่ต้องเติบโต..โดยเฉพาะทางจิตวิญาณ..การเกิดมาของคนเราจึงควรจะได้อะไรกับจิตวิญญาณบ้างก่อนที่จะทิ้งร่างนี้ไป..เป็นความจริงที่สุดค่ะ..
ขอบคุณค่ะ..ที่ให้แง่คิดดีดี..
สวัสดีค่ะคุณหมอ...kmsabai
จะพยายามนะคะ...ชอบค่ะ