ช่วงบ่ายวันนี้ได้รับมอบหมายจากพี่หนิงให้เข้าร่วมการประชุมของสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยเขตภาคอีสานที่ได้จัดขึ้นที่จังหวัดมหาสารคาม การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมของผู้พิการทางด้านการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นโอกาสครั้งแรกได้เข้าร่วมประชุมกับผู้ที่พิการด้านการเคลื่อนไหว ได้พบกับผู้พิการอีกกลุ่มหนึ่ง ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดี วันนี้การประชุมยังไม่ลงเนื้อหามากนักเนื่องจากว่าผู้ประชุมที่มาจากทั่วภาคอีสานยังเดินทางมาไม่ครบ รูปแบบกิจกรรมก็มีการฉายกิจกรรมของสมาคม และมีการบรรยายจากนายกสมาคม และวิทยากรอื่น
ผู้พิการทางด้านการเคลื่อนไหว ไม่ต่างจากคนทั่วไปมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับผู้พิการด้านอื่นๆ เนื่องจากสามารถพูดคุยได้ มองเห็น และทำอะไรหลายๆ อย่างได้เหมือนคนปกติ เครื่องมือที่จะเพิ่มศักยภาพของผู้พิการกลุ่มนี้คือ ในด้านการแพทย์ และกายภาพบำบัด เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวด้วยตนเองอย่างอิสระได้ การศึกษาก็เป็นประเด็นสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ตามมา ทั้งการเรียนหนังสือและฝึกอาชีพ และเรื่องทุนในการรวมกลุ่มประกอบอาชีพอิสระ
ช่วงเย็นผมได้เดินทางกลับเข้ามายังห้องบริการสนับสนุนนิสิตพิการ แล้วก็พบกับข่าวร้ายเพราะหนังสือซึ่งขอคำสั่งให้ผมและพี่เจ้าหน้าที่ ( พี่ออย ) ไปราชการโดยไม่ผ่าน ทำให้ผมขาดเรียนในช่วงบ่ายของวันนี้
โครงการพัฒนาศักยภาพผู้พิการแบบบูรณาการภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังเหลืออีก 2 วัน เมื่อถึงทางแยกผมก็ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ในเมื่อตอนนี้ผมหันหน้ากับเข้าสู่การศึกษาในระบบแล้ว ผมคงจะไม่ยอมขาดเรียนในการเรียนที่มีคะแนนเข้าห้องเรียนทุกครั้งเป็นแน่ ( ถ้าไม่ไปมหาชีวาลัยอีสาน ) ผมจึงไม่สามารถที่จะออกไปจับความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเองได้ เมื่อไม่มีใบลามารองรับ ผมจึงต้องจับการศึกษาในระบบที่เป็นหลักใหญ่ไว้ให้แน่น และปล่อยให้ความรู้ใหม่หลุดลอยออกไป น่าเสียดายนะ
เอ๊ะ...ทำไมปัญหานี้ไม่มีการเล่าสู่พี่นะ
พี่อยู่ที่กทม. ก็ไม่เห็นมีติ๊ด ติ๊ด ไปเล่าฯจะได้ช่วยคลี่คลายปัญหา
คนในระบบ ก็แบบนี้แหละ
แต่ไม่น่าจะยึดติดอะไรมากนะคะ ถ้าได้มีการชี้แจง ทำไมไม่บอกพี่น๊า..
เราไปเอาองค์ความรู้มาพัฒนางานให้ ก้าวต่อๆไปนะนเย...
เสียใจที่น้องไม่บอกเล่าฯปัญหา
เสียใจที่ไม่ได้ชี้แจงเพื่อคลี่คลายข้อคับข้อง
เรื่องคำสั่งเจ้าหน้าที่กับนิสิต นี่บางทีก็น่าจะปรึกษาพี่พนัสได้ เพราะพี่เขาทำคำสั่งลักษณะที่เกี่ยวข้องกับนิสิตประจำ