ขอเล่ากรณีของกรมการค้าภายในที่ได้นำเสนอในเวทีปัญญา สัมมนาวาทีครั้งที่ 1 ต่อนะคะ
ภารกิจของกรมการค้าภายในเกี่ยวข้องกับบุคคล 3 ส่วนคือ
(1)ผู้รับบริการ
(2)ผู้เสียผลประโยชน์ และ
(3)ผู้ประกอบธุรกิจ
ทั้งสามกลุ่มมีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน ทำให้เกิดปัญหามาก แต่เดิมได้นำกฎระเบียบมาใช้แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่นำไปสู่ความสำเร็จทุกอย่าง จึงหันมาใช้วิธีใหม่คือการดึงทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมทำให้เกิดจิตสำนึกที่ดี สำหรับการมีส่วนร่วมมีได้หลายระดับคือ(1)การให้ข้อมมูล(2)การรับฟังและการเรียนรู้(3)การเข้าร่วมกิจกรรม(4)การตัดสินใจและตรวจสอบที่โปร่งใสและใสสะอาดและ(5)การรับมอบภารกิจและอำนาจ ดังนั้นกรมฯจึงทำให้หลุดจากกรอบชองกฎหมายทำให้เสมือนไม่มี นอกจากนี้ผู้บริหารกรมฯยังออกตรวจตลาดด้วยตนเอง เพื่อรับฟังสนองตอบ และเห็นปัญหาในพื้นที่ กรมฯยังได้สร้างกระบวนทัศน์ใหม่ในการทำงาน ทำงานแบบไม่ยึดเพียงเวลาราชการเท่านั้นและสร้างกลไกการตรวจสอบภาคประชาชน ซึ่งทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่คือการสร้างเครือข่ายภาคประชาชน ตลอดจนการสร้างกลไกการถ่วงดุลราคาสินค้าโดยการสร้างธงฟ้ามหาชน ราคาถูกกว่าท้องตลาด 30-40%และมีการถ่ายโอนภารกิจให้ อปท.เช่นมาตรวัดเครื่องชั่ง
กรณีตัวอย่าง ได้แก่
เครือข่ายจริยธรรมทางการค้า
ให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการพึงพอใจ ผู้บริโภคมีถึง 63 ล้านคน ผู้บริโภคต้องรู้จักรักษาสิทธิของตนเอง ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต้องปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายมาบังคับเพราะการใช้กฎหมายไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดจริยธรรมทางการค้าขึ้นมา ทุกฝ่ายมาร่วมมือกัน สร้างจริยธรรมและความประทับใจต่อลูกค้า เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ
กรมฯได้เปิดสายด่วน 1569 เป็นศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เป็นจุดรองรับความเดือดร้อนของประชาชน ทุกคำร้องเรียนมีประโยชน์ เมื่อมีคำร้องเรียน เราสร้างระบบมารองรับ คือการรับเรี่อง การตรวจสอบ ฐานข้อมูล มีเครือข่ายทั้งจาก จส.100 เครือข่ายแม่บ้าน เครือข่าย internet มีชาวต่างประเทศร้องเรียนเรื่องอัญมณี จนได้รับเงินคืนมาก็ทำหน้าที่เป็นสื่อบอกต่อไปยังเพื่อน ๆ และเครือข่าย พร้อมทั้งแนะนำให้ชาวต่างประเทศคนอื่น ๆ มาใช้บริการสายด่วนนี้ด้วย
โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช เป็นตัวอย่างหนึ่งของเครือข่าย โดย อาจารย์นวพร เล่าว่า นอกจากกรมการค้าภายในจะมีแผนรับคือการรับเรื่องร้องทุกข์แล้ว ยังมีแผนรุกด้วยโดยให้ทุกจังหวัดหาสมาชิกจังหวัดละ 5 คน โรงเรียนได้มีส่วนช่วยด้วยกรณีเกิดอุทกภัยโรงเรียนขายไข่ฟองละ 2 บาท(ตลาดขายฟองละ 5 บาท)ผัก ก.ก.ละ 3 บาท(ตลาดขาย 11 บาทต่อก.ก.)และได้ให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ไปสำรวจผู้บริโภคโดยออกแบบง่าย ๆ ให้ผู้ปกครองลงนามในแบบสำรวจด้วย ทำให้ครอบครัวได้เรียนรู้ และผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูล ทำให้ผู้ขายขายของราคาถูกลง
เทคนิคที่กรมการค้าภายในนำมาใช้คือ
ปัจจัยความสำเร็จ
เห็นไหมคะว่ากรมการค้าภายในมีหลายเทคนิคในการทำงานกับประชาชนที่หน่วยงานภาครัฐสามารถนำไปปรับใช้ได้โดยเฉพาะการสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนและการดึงเข้ามาเป็นเครือข่ายในการทำงานร่วมกันโดยให้ทุกฝ่ายพึงพอใจในลักษณะ win-win
ธุวนันท์ พานิชโยทัย
25 มิถุนายน 2550