พี่ร้องเพลงฝึกหัด
การที่ใครๆคิดว่ามดกับทิพย์เสียงเพราะ จากการที่เราทั้งสองคนได้มีโอกาสขึ้นเวทีคอนเสิร์ตกับนักร้องค่ายอาร์เอส และได้มีโอกาสเข้ามาเป็นพี่ร้องเพลงของมหาวิทยาลัยก็ใช่ว่าเข้ามาแล้วจะร้องเพลงได้เลย เพราะเราเองก็จะต้องมีการฝึกหัดและฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอเฉกเช่นผู้ที่ทำหน้าที่อื่นๆเช่นกัน จากการก้าวเดินมาก้าวแรก และการก้าวเดินต่อไปนับจากนี้ เรามีพี่ร้องเพลงกลางรุ่นพี่ที่แสนดีหลายคนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสอนร้องเพลงให้กับเราอย่างเต็มใจ เริ่มจากพี่โบกับพี่กุ๊กกุ๋ยที่เรากล่าวถึงไปแล้วในตอนที่ผ่านมา หลังจากนั้น เมื่อเรามาฝึกกันที่ตึกวิทยบริการ B ในวันต่อมาก็มี
โดยที่พี่ๆจะอ่านให้เราฟังทีละบรรทัด เราก็จะมีหน้าที่จำเนื้อร้อง จากนั้นพี่ๆก็จะสอนให้เราร้องที่ละท่อน (เพลงมหาวิทยาลัยส่วนมากจะมี 4 ท่อน) และให้เราสองคนร้องให้ฟังโดพี่ๆจะคอยแก้ทำนองให้โดยละเอียด ทีเหลือก็จะเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องไปทำอย่างไรก็ได้ตามความสามารถที่มีให้ร้องเพลงมหาวิทยาลัยให้ได้ทุกเพลง ก่อนที่จะมีพี่ๆเพื่อนๆ STAFF จากคณะต่างๆ ทุกคณะเข้ามาร่วมฝึกร่วมกับ STAFF ชุดเตรียมความพร้อมในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว
“จะว่าไปแล้วเพลงที่เราร้องยังไม่ได้ก็ยังอีกหลายเพลงเหมือนกันนะทิพย์”
มดพูด รู้สึกว่าเป็นการยากเหมือนกันที่จะต้องเร่งทั้งฝึกและหัดร้องเพลงของมหาวิทยาลัยและต้องไปสอนเพื่อนSTAFFที่มาจากคณะและทวนเพลงที่หลายคนอาจจะร้องได้แต่ยังไม่ถูกต้องนักในเรื่องทำนอง ซึ่งลางคนอาจจะไม่ยอมรับในการสอนของเราได้ เพราะคำว่า
“ความเป็นSTAFFรุ่นพี่”
ที่อาจจะยังไม่ยอมรับในการที่มีรุ่นน้องที่มาทีหลังมาสอน ทางเดียวที่พี่ร้องเพลงทุกคนรวมทั้งมดกับทิพย์ตระหนักดีก็คือ การตั้งใจฝึกร้องเพลงให้ดีที่สุดทั้งเนื้อร้อง ทำนอง และจังหวะให้แม่นที่สุด และต้องแก้เพลงให้ถูกต้องห้ามผิดแม้แต่นิดเดียว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลยจริงๆ
ถ้าเป็นผู้อ่าน คุณจะทำอย่างไร?สำหรับมดกับทิพย์แล้ว เราสองคนต่างก็มีวิธีในการหัดร้องเพลงที่ต่างกัน.......
ทิพย์ : จะท่องจำเนื้อเพลงให้ได้ก่อนจะหัดทำนอง
มด : จะจำไม่ได้หากต้องท่องจำ
มดใช้วิธีที่มดเรียกว่า “การซึมซับเข้าสู่กระแสเลือด”โดยจะฟังเพลงมหาวิทยาลัยทั้งอัลบั้มหลายๆรอบ แม้ในเวลานอนก็ใช้เพลงมหาวิทยาลัยกล่อมให้หลับ แต่สิ่งที่เราสองคนทำเหมือนกันคือ หมั่นไปร่วมกิจกรรมทวนเพลงในตอนเช้าของทุกวัน แม้ว่าเวลานอนของเราจะไม่ค่อยมีก็ตาม
“วันนี้พี่จะให้น้องๆลองฝึกสอนร้องเพลง โดยสมมติว่าเพื่อนๆที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนที่มาจากคณะนะคะ”
พี่แอน สัตวศาสตร์ ประธานพี่ร้องเพลงกลางในการประชุมเชียร์รุ่นจามรี 9 พูดขึ้น
“โอ ไม่จริง นี่เราต้องมาฝึกสอนเพื่อนๆแล้วหรือนี่ เราเพิ่งมาเป็นพี่ร้องเพลงได้ไม่กี่วันเองนา”
มดกับทิพย์คิดไม่ต่างกันเลยในเวลานี้
“ให้น้องๆจับคู่กันออกมาสอนเพลงที่เราจะสอนเพื่อนๆนะคะ”
พี่ร้องเพลงที่นั่งอยู่ตามขั้นบันไดหน้าตึกวิทยบริการ B ต่างแยกย้ายกันจับคู่ใครคู่เรา ก่อนจะเดินไปฝึกร้องเพลงที่จะต้องสอนเพื่อนๆตามที่ถูกกำหนดไว้
“เอาไงดีทิพย์”
“ไม่เอาไงล่ะมด เราสอนคู่กันดีกว่า เอาเพลงไหนดีล่ะเรา”
“เค้าก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน เพราะเรายังไม่แม่นในการแก้เพลงที่มากพอ”
“งั้นเอาเพลงร่มจามจุรีละกันนะทิพย์”
“จ้ะ เรามาซ้อมกันก่อนดีกว่า.......” ห้านาทีผ่านไป หมดเวลาซ้อมแล้ว และก็ได้เวลาฝึกสอนจริงๆแล้วเช่นกัน มดกับทิพย์ได้ฝึกสอนเป็นคู่สุดท้าย เราสองคนพยายามทำให้ดีที่สุด ถึงจะแย่งกันพูดบ้างเป็นบางครั้ง แต่ทุกอย่างก็ลื่นไหลไปได้ด้วยดี เพื่อนๆที่เป็นพี่ร้องเพลงเริ่มมองเห็นความสามารถของเราแล้ว พวกเขาไม่คิดว่าคนพิการอย่างเราๆจะทำได้ดี ไม่แปลกหรอกที่เพื่อนๆจะคิดเช่นนี้ เพราะชีวิตของเพื่อนๆยังไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับคนพิการอย่างเราๆมากมายถึงขนาดนี้
การที่เราสองคนได้มาทำหน้าที่ในส่วนนี้ มดกับทิพย์หวังว่า เพื่อนๆทุกคนคงจะมองข้ามความแตกต่างทางด้านร่างกายออกไปได้ เพราะเรา มดกับทิพย์ก็ไม่ได้มีอะไรที่วิเศษต่างไปจากคนอื่นๆ คนอ่านว่าจริงมั๊ย???? ดึกคืนนี้ที่ตึกวิทยบริการ B มดกับทิพย์ประสานมือกับพี่ๆเพื่อนๆ STAFFร้องเพลง “เราและนาย”ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุข วันนี้เราสองคนคิดว่าเราทำได้ดีที่สุดแล้ว STAFFชุดเตรียมความพร้อมทุกคนมองเห็นความตั้งใจในหน้าที่ที่เรากำลังทำอยู่แล้ว และอีกไม่กี่วัน เพื่อนๆที่มาจากคณะก็คงจะเห็นในสิ่งที่ STAFFชุดเตรียมความพร้อมเคยเห็นมาแล้วเช่นกัน.......
“สู้ สู้ สู้ตายค่ะ”
นั่นแน แอบมาเขียน blog เพิ่มแล้วหรอน้องทิพย์-น้องมด
เขียนอีกนะคะ