จดหมายกัมปนาท ถึง...เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการรถยนต์คนนั้น


แอร์รถไม่มีความเย็น ฉันเลยปิดแอร์และเปิดกระจกแทน แต่กระจกไฟฟ้าก็ทำงานช้าลง ไฟที่หน้าปัดอ่อนวูบอย่างเห็นได้ชัด เข็มวัดรอบสวิงขึ้นลง ฉันพยายามประคองรถและภาวนาว่ามันจะพาฉันกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ยังไม่ทันที่คำขอฉันจะขาดคำ รถยนต์ก็หยุดนิ่ง การทำงาน ของเครื่องไฟฟ้าทุกอย่างดับสนิท ฉันไม่เคยกลัวอะไรมากมายเท่านี้มาก่อนในชีวิต

เมื่อคุณได้รับจดหมายฉบับนี้คุณน่าจะจำฉันได้
เพราะเรื่องราวของฉันคงได้รับรู้โดยทั่วกันทั้งศูนย์บริการของคุณแล้ว
เพราะแม้แต่ผู้บริหารระดับสูงยังรับรู้
มีหรือที่คุณเป็นคนปฏิบัติงานและเป็นผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องโดยตรง
จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

คุณคงไม่คาดคิดว่าความสะเพร่าและความมักง่ายของคุณ
มันทำเอาฉันเกือบไม่รอดชีวิต
จนถึงวันที่นั่งเขียนจดหมายถึงคุณอยู่ขณะนี้
คุณอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่ฉันเอารถไปเช็คระยะที่ศูนย์คุณได้ไหม ฉันจะเล่าให้ฟัง
เผื่อว่าคุณจะไม่ทำอย่างนี้กับลูกค้ารายใดอีก....เพราะเขาอาจไม่โชคดีมีชีวิตรอดอย่างฉันก็ได้

สี่โมงเย็นวันอาทิตย์ที่ฉันไปรับรถจากคุณ
พอสตาร์ทมันก็มีไฟแดงเตือนที่เครื่องหมายแบตเตอรี่
ฉันเรียกคุณมาดูว่ามันเป็นอะไร คุณมาสตาร์ทใหม่ 2-3
ครั้งมันก็ยังมีไฟแดงอยู่
คุณไถ่ถามฉันเรื่องแบตเตอรี่ว่าเคยเปลี่ยนหรือไม่ ฉันไม่แน่ใจนัก
บอกให้คุณเช็คในคอมพิวเตอร์ดูทีเพราะฉันเช็ครถกับศูนย์บริการคุณมาตลอด!

คุณบอกว่า "เกือบ 3ปีมานี่พี่ยังไม่เคยเปลี่ยนแบตเลย อาจเสื่อมก็ได้ แต่ไม่เป็นไรวิ่งไปได้พี่ วิ่งได้" นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของคุณ
ฉันออกรถมาด้วยความหงุดหงิดและสบายไม่ใจนัก
ว่าทำไมเวลาเช็คถึงไม่ดูให้เรียบร้อย
หรือเปลี่ยนมาให้เลย ฉันคิดว่าพรุ่งนี้ฉันจะเข้ามาที่ศูนย์อีกครั้ง
เพราะวันอาทิตย์คุณบอกว่าศูนย์ปิดห้าโมงเย็น นี่มันสี่โมงเย็นแล้ว
ไหนต้องใช้เวลาชาร์จแบตอีก
คงไม่ทันฉันกลับมาที่ทำงาน ก็ในซอยสุขุมวิท 24
ที่มันทะลุมาที่ศูนย์บริการของคุณแถวๆ คลองเตยได้ไง
ทำธุระสักพัก แล้วก็ขับรถออกไป

แอร์รถไม่มีความเย็น ฉันเลยปิดแอร์และเปิดกระจกแทน
แต่กระจกไฟฟ้าก็ทำงานช้าลง
ไฟที่หน้าปัดอ่อนวูบอย่างเห็นได้ชัด เข็มวัดรอบสวิงขึ้นลง
ฉันพยายามประคองรถและภาวนาว่ามันจะพาฉันกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ยังไม่ทันที่คำขอฉันจะขาดคำ รถยนต์ก็หยุดนิ่ง การทำงานของเครื่องไฟฟ้าทุกอย่างดับสนิท
ฉันพยายามสตาร์ทรถใหม่ แต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ฉันใส่เบรกมือและเปิดไฟฉุกเฉินที่มีแสงปรากฏขึ้นรำไร
ตอนนั้นฉันอยู่เลนขวาสุดบนสะพาน
(ข้ามถนนเพชรบุรี) ที่มาจากเอกมัยมุ่งหน้าไปยังสี่แยกพระรามเก้า! ตัดใหม่ (เลียบทางด่วน)
ฉันตกใจพอสมควร แต่ก็หาเบอร์ประกันรถเพื่! อโทรแจ้ง ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะกดเบอร์เสร็จดี คุณรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น...

มีแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่กำลังขับซิ่งแข่งกันมา
รถคันหนึ่งชนเข้าที่ท้ายรถของฉันอย่างแรง
ฉันหน้าทิ่มจนหัวเกือบโขกพวงมาลัย
ฉันตกใจกับเสียงและแรงกระแทกที่เกิดขึ้นอย่างจัง
แต่มันยังไม่น่าตกใจเท่ากับภาพที่ฉันเห็น
มอเตอร์ไซค์ที่ชนรถฉันกลิ้งไปไกลเกือบร้อยเมตร
ตัวคนขับนอนแน่นิ่งอยู่ข้างรถมรณะของเขา!!

ฉันตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น ความกลัว
ความรู้สึกเสียขวัญเกาะกุมหัวใจและร่างกายฉันทุกอณู
อยากร้องไห้แต่มันไม่ใช่เวลา ฉันตั้งสติเพื่อโทรหาคนใกล้ตัว รวมทั้งตำรวจ 191 พี่นักข่าว
และประกันภัยรถ ฉันพยายามรวบรวมคำพูดและเล่าให้ฟังอย่างที่สติยังพอมีทุกคนบอกว่าจะรีบมาที่เกิดเหตุอย่างเร็วที่สุด

แต่ในขณะที่ฉันกำลังวุ่นวายกับการโทรศัพท์
คุณรู้ไหมว่าชีวิตฉันต้องเจอกับอะไร
พวกแก๊งมอเตอร์ไซค์มาจากไหนไม่รู้ เข้ารุมล้อมรถฉัน พวกมันมีกันเป็นสิบเด็กผู้ชายตัวดำ
ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาบ่งบอกว่ามันไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนดี
ฉันไม่เคยกลัวอะไรมากมายเท่านี้มาก่อนในชีวิต

กระจกรถด้านคนขับก็ปิดไม่ได้
เพราะระบบทุกอย่! างในรถมันดับวูบไปหมดแล้ว
พวกมันมารุมอยู่ที่ประตูด้านคนขับพูดจาขู่กรรโชก
ด่าทอและจะเอาเรื่อง และทำท่าที่จะทำร้ายฉัน
ฉันพยายามอธิบายให้พวกมันฟังว่ารถฉันเสียและจอดอยู่เฉยๆ
รถเพื่อนของคุณขับซิ่งมาชนเข้าที่รถฉันเอง ฉันไม่ได้ชน
ฉันอธิบายพร้อมน้ำตาที่ไม่สามารถสะกดกลั้นมันได้อีกแล้ว

ในขณะที่ฉันโทรศัพท์เพื่อติดต่อใครๆ อยู่
พวกมันก็จะพยายามเข้ามาคุยเพื่อต่อรองขอเงิน
และถามถึงเรื่องประกันและบอกว่าฉันต้องซ่อมรถให้พวกมัน
แล้วหนึ่งในแก๊งมันก็พุ่งปรี่มาจากไหนไม่รู้
มันถีบเข้าที่ประตูด้านคนนั่งอย่างแรง
พร้อมเอานิ้วชี้หน้าพร้อมตะโกนบอกว่า "ไอ้เห้:-)ขับรถยังไง
ถ้าน้องตูตกสะพานตายอ่าไปจะทำยังไง"
แล้วทำท่าจะวิ่งมาฝั่งด้านคนขับที่ฉันนั่งอยู่
ฉันต้องร้องบอกให้เพื่อนๆ มันช่วยบอกมันทีว่าฉันไม่ได้ชนเขา
ฉันทั้งอ้อนวอนและร้องขอ
ในใจฉันคิดว่าฉันโดนมันเข้ามาทำร้ายร่างกายแน่ๆ ดีที่เพื่อนมันห้ามไว้

สักพักมีรถของมูลนิธิร่วมกตัญญูขับมาที่เกิดเหตุ
ฉันรวบรวมแรงที่เหลืออยู่ยกมือโบกเรียกเขา
เล่าเหตุการณ์ให้ฟังและขอให้เขาอยู่เป็นเพื่อน เพราะเขาคือที่พึ่ง
เป็นแสงสว่างที่รอดเข้ามาในช่วงที่ชีวิตมืดมน! ที่สุด

พอพวกมันเห็นว่าฉันเริ่มมีคนมาอยู่ด้วย เริ่มมีนัก! ข่าว และ ตำรวจมา
มันก็ทยอยหายกันไปเรื่อยๆ และฉันถึงกล้าออกมาจากรถเป็นครั้งแรก
แต่มันแทบจะยืนไม่อยู่เพราะขาฉันไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน
ตำรวจตามพวกมันไปถึงโรงพยาบาลที่มันพาเพื่อนมันไปรักษาและรวบตัวมาให้ชี้ตัวคนก่อเหตุ
พ่อแม่มันเริ่มมา และเกิดมหกรรมด่าลูกโชว์ต่อหน้าสาธารณชน
น่าแปลกที่พ่อมันเป็นผู้นำต่อต้านยาเสพติดในชุมชน แต่ดูลูกแต่ละคนสิและกว่าที่ไอ้ตัวคนถีบรถมันจะยอมรับก็ใช้เวลาอยู่นาน
ส่วนตัวน้องมันที่ขับรถชน มันไม่ถึงตายหรอก

ตำรวจบอกว่าพวกมันรู้จักวิธีล้ม หัวเลยไม่น็อกทั้งๆ ที่มันไม่ได้ใส่หมวกมันแขนขาหักเท่านั้น
และฉันก็มารู้ว่าพวกมันยังอายุไม่ถึง 18 ด้วยซ้ำ
คืนนั้นรถของฉันถูกลากไปไว้ที่ศูนย์บริการของคุณ
คุณคงเห็นมันแล้วนะว่ารถที่ผ่านการเช็คของคุณสภาพมันเป็นอย่างไร
ส่วนสภาพของฉันน่ะเหรอ
มันยังดีอยู่ มันยังไม่ตาย แต่สภาพจิตใจมันแย่เหลือเกิน
และฉันก็ยังขวัญผวาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ซิ่ง

คุณรู้ไหม ฉันได้อะไรหลายอย่างกับเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกนะ เอาแค่ในส่วนรับผิดชอบของคุณแล้วกัน เพราะเมื่อเอารถไปเช็คอีกครั้งปรากฏว่าสายเมนลีเลย์
ซึ่งเป็นอุปกรณ์เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า มันหลุดหรือไม่อยู่ในสภาพปกติของมัน
นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้จากผู้จัดการของคุณ คุณจะเรียกว่ามันคืออะไร
แต่ฉันขอเรียกว่า ความชุ่ย
ไร้ความละเอียดรอบคอบ และให้บริการแบบขอไปที

โชคดีที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะมีผู้ใช้รถญี่ปุ่นยี่ห้อ ฮ.
แล้วไปเข้าศูนย์บริการแถวคลองเตย
จะประสบชาตากรรมอย่างฉันอีกกี่คน
เราคงไม่ได้เจอกันอีก

ลูกค้าผู้เคราะห์ร้าย

หมายเลขบันทึก: 105634เขียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2007 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2012 20:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท