ร่วมกันวิพากษ์ร่างพรบ.สภาองค์กรชุมชน

             “องค์กรชุมชน” ถือว่าเป็นหัวใจของการสร้างชุมชนรากแก้วให้มีความเข้มแข็ง เมื่อคนมีความเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ ย่อมนำไปสู่การจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อดูแลช่วยกัน พึ่งพากันเอง และต่อรองกับบุคคลภายนอก เมื่อกลุ่มมีการพัฒนาตนเองให้มีความเข้มแข็งแล้ว ย่อมนำไปสู่การสร้างองค์กรชุมชนที่เข้มแข็งได้

             เป็นข่าวอยู่พักใหญ่สำหรับการเตรียมร่างพรบ.องค์กรชุมชน เข้าครม.ของรมว.กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ที่มีการทัดทานจากกระทรวงมหาดไทย และมีการรวมกลุ่มของกลุ่มอปท.และผู้ใหญ่บ้านกำนันมาขานรับทัดทานกัน อีกฝ่ายหนึ่งก็ออกมาสนับสนุน ก็ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตนเองเป็นที่ตั้ง ไม่ว่ากัน แต่ขอให้ใช้เหตุและผลอย่างแท้จริง และเป้าหมายอยู่ที่ความอยู่ดีมีสุขของชุมชน อย่าเพียงเพื่อปกป้องตัวเอง กลุ่มของตัวเองแล้วกัน

              วันนี้ (20 มิถุนายน 2550) เครือข่ายองค์กรชาวบ้านจังหวัดน่าน ได้จัดเวทีสาธารณะเพื่อวิพากษ์ พรบ.องค์กรชุมชน ฉบับนี้ ที่ศาลาการเปรียญวัดอรัญญาวาส ก็มีทั้งพี่น้องชาวบ้าน พระสงฆ์ อปท. ผู้ใหญ่บ้านกำนัน และข้าราชการ เข้าร่วมเวที งานนี้ถ่ายทอดเสียงผ่านสวท.น่าน 94.75 MHz ตลอดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เวทีนี้ไม่ได้ต้องการคำตอบว่าเอาหรือไม่เอา แต่ให้ช่วยกันคิด วิพากษ์ ว่า ถ้ามีพรบ.องค์กรชุมชน จะมีผลดีผลเสียอย่างไร ร่าง พรบ.นี้ควรจะปรับแก้อย่างไรให้เหมาะสม ถ้าไม่มี พรบ.นี้ องค์กรชุมชนจะเป็นอย่างไร (แม้ว่าเมื่อวานนี้ รมช.พัฒนาสังคมฯ ได้แจ้งถอนร่างพรบ.นี้ออกแล้วก็ตาม)

              จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทำให้เรารู้ว่า คนส่วนใหญ่ยังไม่เคยรู้และทราบรายละเอียด พรบ.นี้เลย ทั้งฝ่ายที่ต้องป้อมทัดทานและฝ่ายสนับสนุน จะมีก็ระดับแกนจริงๆ ที่พอรู้บ้าง แต่ก็ยังไม่ลึกซึ้ง แสดงให้เห็นอะไร สังคมเรายังเป็นสังคมแห่งความเห็น และสังคมแห่งอารมณ์อยู่มาก สังคมยังต้องการ “การจัดการความรู้” อีกค่อนข้างมากที่จะมาสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน มิใช่ตั้งป้อมใส่กันอย่างไม่พิจารณาอย่างแยบคาย

              เป็นที่น่ายินดีที่เวทีนี้ทำให้ได้รู้เรื่อง “ความสำคัญขององค์กรชุมชน” เพราะนั่นคือการเสริมสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมในระดับรากแก้ว มิใช่ประชาธิปไตยแค่การไปหย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้น เวทีครั้งนี้สรุปใจความว่า กลุ่มองค์กรชุมชนในน่านเห็นว่าเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ว่าหากมี “สภาองค์กรชุมชน” เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมจะเกิดผลดีต่อการพึ่งพาตนเองและพึ่งพากันเองของชาวบ้านได้จริงไหม โดยเริ่มนำร่องในพื้นที่ตำบลน้ำเกี๋ยน, ตำบลถืมตอง, และตำบลศรีษะเกษ โดยไม่ต้องรอว่า ร่างพรบ.สภาองค์กรชุมชนจะได้เข้าครม.หรือไม่ก็ตาม

               ทุกอย่างอยู่ที่การเรียนรู้ครับ มิใช่อำนาจ