STAFF NO NAME
และแล้ววันที่เรารอคอยก็มาถึง มันเป็นวันที่มดกับทิพย์จะต้องไปฝึก staffเป็นวันแรก เราสองคนตื่นเต้นจนสุดจะบรรยาย ทิพย์รีบอาบน้ำตั้งแต่บ่ายโมงทั้งที่เวลานัดจริงๆคือห้าโมงเย็น
มดกับทิพย์จินตนาการไปว่า
มดกับทิพย์เลือกที่จะไปก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมงเพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆพี่ๆหน้าและเสียงใหม่ๆโดยมีพี่ปอกับพี่จูไปส่งที่ตึกวิทยบริการ B ก่อนไปเราแวะซื้อขนมไปกินรองท้องที่ตลาดน้อยเพราะมั่นใจว่า คืนนี้ต้องเลิกดึกแน่ ว้า รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะเนี่ยที่ไม่ได้ดูฝนเหนือที่กำลังจะอวสาน แต่ไม่เป็นไร เพื่อมวลชนแล้ว มดกับทิพย์เสียสละได้อยู่แล้ว..................
“เพื่อนสองคนชื่ออะไรคะ” เสียงผู้หญิงดังขึ้น ยังไม่ทันที่มดกับทิพย์จะเดินไปถึงตึกวิทยบริการ B ด้วยซ้ำ ก็ดูเหมือนว่าจะมีคนมาทักซะแล้ว เป็นอันว่ามีการรับรู้โดยทั่วกันถึงการมาของมดกับทิพย์แล้ว “เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย” ทิพย์ลอบถอนใจ
ก้าวแรกของการมาเป็นคณะกรรมการประชุมเชียร์หรือ “พี่STAFF”ของน้องๆ มดกับทิพย์สัมผัสได้ถึงกลิ่นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่กำลังเบ่งบาน มันคือดอกมิตรภาพนั่นเอง ซึ่งเราเคยได้รับจากพี่ๆ เพื่อนๆนิสิตพิการที่ DSS ของเรามาแล้ว เมื่อครั้งที่เรารู้จักกับพี่ๆเพื่อนๆของเราใหม่ๆ
“สวัสดี เราชื่อเต้นะ เรียนวิศว”เสียงหนึ่งและตามมาอีกหลายเสียงสุดที่เมมโมรี่ในสมองของมดกับทิพย์จะจำได้หมด
“เราชื่อดิวนะ เรียนเภสัช”
“พี่โบนะคะ พี่เรียนสังคมศึกษา”
“พี่บิวนะ” เสียงคุ้นหูดังมาจากไม่ไกล ทำไมมดจะจำพี่บิวไม่ได้ ก็ในเมื่อพี่บิวเป็นพี่เอกประวัติศาสตร์เอกเดียวกันกับมดนี่นา ปีที่แล้วมดจำได้ว่า ยังได้ท่องพระนามของกษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์เพื่อล่าลายเซ็นกับพี่เค้าอยู่นี่นา
“พี่เอนะ จำพี่ได้มั๊ย”พี่เอก็เหมือนกัน ทำไมมดจะจำรุ่นพี่ที่ดูท่าเหมือนจะเป็นเด็กเรียนคนนี้ไม่ได้เล่า ท่าทางของพี่เค้าอาจจะดูเป็นเด็กเรียนไปสักหน่อยแต่ความจริงไม่ใช่เลย
ที่นี่เราได้เจอ เฮียหมู กับพี่ออฟตร้า แห่งเอกการศึกษาพิเศษเพื่อคนพิเศษด้วย ดีจังเลยที่อย่างน้อยเราก็ได้เจอคนรู้จักบ้าง ไม่ได้มาแบบเดียวดายสองหัวกระเทียมเจียวหัวเดียวกระเทียมลีบ
ก่อนที่เราจะได้ทำอะไร ห้าโมงเย็น เวลาเริ่มต้นของการฝึก เสียงนกหวีดก็ดังขึ้น ทุกคนรีบไปเข้าแถวอย่างรีบเร่ง หลังจากที่ได้ยินเสียงของผู้นำ“STAFF ฟังเรียกแถว แถวตอนเรียงตามกลุ่มทั้งหมดจัดแถว”
“เฮ้”ทุกคนขานรับพร้อมกันเสียงหนักแน่น
“น้องมดกับน้องทิพย์นั่งอยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่นั่งเป็นเพื่อน” พี่คนหนึ่งพูด ซึ่งเรารู้ภายหลังว่า เป็นพี่เอกเดียวกันกับพี่นะ ชื่อพี่ท๊อปนั่นเอง
“พี่คะ พวกเค้าไปไหนกันคะ”ทิพย์ถามพี่ท๊อปเพราะได้ยินเสียงวิ่งแล้วก็หายไปไหนกันก็ไม่รู้
“STAFFทุกคนไปโดนทำโทษด้วยกันอยู่ครับ เพราะมีคนมาสาย เราถือว่าถ้าทำผิดหนึ่งคน ก็ต้องผิดด้วยกันหมด” พี่ท๊อปบอกก่อนที่พี่ท๊อปจะพูดต่อ
“พี่เป็นพี่เทคของนะ อยู่ปี 4 แล้วล่ะ พี่ชอบทำกิจกรรมแล้วพี่ก็มาเป็นSTAFFตั้งแต่อยู่ปี 2 แล้ว เมื่อก่อนเนี่ยนะ STAFF จะมีมากกว่านี้เยอะเลยล่ะ แต่ทุกวันนี้ พี่ว่า คนเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมกัน เยอะก็เลยทำให้จำนวน STAFFลดลงเรื่อยๆ พี่ดีใจนะครับที่น้องสองคนมาอย่างคนที่มีความเสียสละ”
มดกับทิพย์รู้สึกสะท้อนใจกับคำพูดของพี่ท๊อป ถ้าหาก STAFF ของมหาวิทยาลัยลดจำนวนลง ไม่มีใครที่จะสืบสานงานตรงนี้ น้องรุ่นหลังๆคงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับเพื่อนๆจากคณะอื่นๆ เพลงของสถาบัน หรือแม้แต่คำว่า “ประชุมเชียร์”
หลังจากที่ทุกคนไปวิ่งกันมาเรียกเหงื่อได้พอสมควรแล้ว ทุกคนก็มารวมตัวกันเข้าแถวตอนเรียงสลับชายหญิง หันหน้าเข้าหากัน เพื่อทวนเพลงทุกๆเพลงของสถาบัน มดกับทิพย์พอร้องเพลงของมหาวิทยาลัยได้บ้างเป็นบางเพลง จากการฝึกหัดเองที่บ้านและการเข้าร่วมกิจกรรมประชุมเชียร์ แต่ทว่าเพลงที่เราสองคนยังไม่เคยได้ร้องก็มีอีกมากมายหลายเพลงเหลือเกิน
ทั้ง MSU มาร์ช / มนต์รักเหลืองเทา / เหลืองเทาถิ่นงาม / ร่มธงเหลืองเทาฯลฯ รวมทั้งสิ้นทุกเพลงก็ 17 เพลง กับอีก 1 BOOM แต่ก็คงไม่เกินความสามารถหากเราตั้งใจ
ช่วงหัวค่ำมาถึง เป็นเวลาที่ทุกคนรอคอยเพราะเป็นช่วงสันทนาการ หลังจากที่หลายคนอาจจะรู้สึกเครียดนิดๆกับการทวนเพลงก็มาผ่อนคลายกับช่วงเวลานี้ ทุกคนต่างปล่อยผีกันอย่างสนุกสนาน ช่วงนี้เองที่พี่บิวได้แนะนำให้มดได้รู้จักกับเสียงของพี่ขิง เอกการตลาด ประธานเชียร์ในปีนี้และเป็นผู้นำในการเรียกแถวเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานี่เอง “ขับรถตุ๊กตุ๊ก ขับรถตุ๊กตุ๊ก บรรทุกถ่าน บรรทุกถ่าน รถขึ้นสะพาน รถลงสะพาน รถเลี้ยวซ้าย รถเลี้ยวขวา ชักกระตุก กระตู๊ก กระตุก กระตุ๊ก กระตุก...........
จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของปกครองกลางที่จะมาฝึกระเบียบแถวและระเบียบวินัยต่างๆให้กับ STAFFชุดเตรียมความพร้อม ในระหว่างนี้เองที่พี่ร้องเพลงกลางมาฝึกและสอนให้มดกับทิพย์ร้องเพลงที่ยังร้องไม่ได้ พี่โบ พี่กุ๊กกุ๋ย รับหน้าที่เป็นครูเพลงจำเป็น สอนเพลงถิ่นเหลืองเทา กับเพลงมนต์รักเหลืองเทา ให้กับเรา ถึงแม้ว่าจะไม่มีเนื้อเพลงฟรอนต์ใหญ่ๆให้เรา แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นอุปสรรคในการฝึกหากใจรักซะอย่างอะไรจะมาขวางก็คงผ่านไปได้
กิจกรรมในวันนี้จบลงที่การประชุมของชุดเตรียมความพร้อมซึ่งเป็นการประชุมที่ทรหดที่สุดเลยก็ว่าได้ มีวาระแจ้งเพื่อทราบ วาระสรุปงาน วาระเสนอเพื่อร่วมพิจจารณา วาระอื่นๆ วาระแจกของเทค และวาระคำคม รวม 6 วาระด้วยกันเกี่ยวข้องและผูกพันกับชีวิตการทำงานของSTAFFทุกคนโดยตรง
หลังประชุมเสร็จเป็นเวลายอดฮิดของใครอีกหลายคนอีกเช่นกันเพราะจะมีการประสานมือกันร้องเพลงที่มีความหมายดีๆสวดมนต์ไหว้พระและแผ่เมตตา คืนนี้พี่โบกับดิวรับหน้าที่เป็นสารถีมาส่งมดกับทิพย์ที่หอพัก เราได้กลิ่นดอกไม้ส่งกลิ่นอบอวลทั่วตลอดทางที่เรานั่งรถมา เราไม่รู้หรอกว่าคืนนี้มีดวงดาวสักกี่ล้านดวง หรือพระจันทร์บนท้องฟ้า แต่เรารู้ว่าที่เชียร์มีอะไรที่น่าค้นหารอเราอยู่.................
สวัสดีค่ะ พี่ Staff คนเก่ง
วันนี้ cheer ก็ปิดลงแล้ว พี่ staff คนเก่งอย่าลืมมาเขียนเล่าประสบการณ์ดีดี ต่อไปนะคะ
พี่ๆรออ่านกันอยู่ค่ะ