คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนอนุบาลรอดบำรุง


นมถ้วย กล้วยใบ ไข่ฟอง

                 ผมเป็นกรรมการในคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนรอดบำรุง ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิมาหลายปี ได้เข้าประชุมบ้าง ขาดไปบ้าง โรงเรียนรอดบำรุงเป็นโรงเรียนประถมศึกษาที่อยู่ติดกับโรงพยาบาลบ้านตาก ผูอำนวยการคนเก่าจะสนิทสนมกับผมดีมาก แต่ได้ย้ายไปอยู่ที่อีกโรงเรียนหนึ่งซึ่งใหญ่กว่า ส่วนผู้อำนวยการคนใหม่มาได้ประมาณ 6 เดือน ก็เป็นคนขยันขันแข็งและแอ็คทีฟมากเช่นกัน

                   การประชุมในวันนี้ มีอาจารย์จรวย สุขสิน อดีตหัวหน้าการประถมอำเภอเป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งอาจารย์จรวยเองก็เป็นประนคณะกรรมการพัฒนาโรงพยาบาลบ้านตากด้วย

                    ในการประชุมมีการนำเสนอผลการดำเนินงานและการพัฒนาคุณภาพการศึกษา หลังการนำเสนอเสร็จ ก็ขอให้กรรมการได้ให้ข้อเสนอแนะ แต่ก็ไม่มีใครให้ ผมก็เลยได้ให้ข้อเสนอแนะไปใน 4 เรื่อง คือ

1.  การเรียนที่เน้นดีมากกว่าเก่ง เน้นให้เด็กเรียนรุ้จากชุมชน มากกว่าจากตำราเรียนอย่างเดียว ให้เด็กรู้จักวัมนธรรมท้องถิ่น ซึ่งผมได้ยกตัวอย่างการเรียนการสอนของโรงเรียนสัตยาไสย ของอาจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ที่ลพบุรี

2. การเรียนที่สนุก เป็นการเรียนที่เด็กอยากเรียน สนใจเรียน ใฝ่รู้ใฝ่เรียน โดยผมได้เล่าให้ฟังถึงแนวคิดการจัดการเรียนที่วชิราวุธวิทยาลัยของอาจารย์ ดร.ชัยอนันต์ สมุทวานิช ในเรื่อง Play + Learn = Plearn (เพลิน) 

3. การสร้างศักยภาพของสมองเด็กในเรื่องอาหารอย่าง่ายๆด้วยสูตร นมถ้วย กล้วยใบ ไข่ฟอง  ถ้าเด็กนักเรียนได้ทานอาหาร 3 อย่างนี้ทุกวันที่โรงเรียน เด็กจะได้คุณค่าทางอาหารที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาการมาก

4.ให้เรียนรู้ชีวิต เน้นให้เด็กเรียนรู้จากชุมชน มากกว่าจากตำราเรียนอย่างเดียว ให้เด็กรู้จักวัมนธรรมท้องถิ่น เด็กจะได้ไม่ไร้ราก อยุ่บ้านก็มีความสุข ไม่ใช่เรียนไปๆไม่รุ้จักใครในชุมชนเลย กำนัน ผู้ใหญ่บ้านไม่รู้จัก เจ้าอาวาสวัดในหมู่บ้านก็ไม่รู้จัก เผลอๆดีไม่ดี คนข้างบ้านก็ไม่รู้จักไปด้วย ถึงขนาดเคยมีเด็กบ้านใกล้ๆกันแต่ไปเรียนคนละโรงเรียนไปทะเลาะกัน พอไปโรงพยาบาลพ่อแม่ที่ไปเฝ้ากลับเป็นญาติข้างบ้านกัน เป็นต้น ซึ่งผมได้แนะนำว่าถ้าจะเรียนเรื่องสุขภาพไปที่โรงพยาบาลได้เลย หรือเรียนเรื่องทำนาก็พาไปทุ่งนา ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนนัก เรียนเรื่องพุทธศาสนาก็พาไปวัด ไปคุยกับพระ ไหว้พระ

                เสียดายที่ผมอยู่ประชุมด้วยไม่นานเพราะนัดประชุม คปสอ.บ้านตากไว้ จึงต้องกลับก่อน เพิ่งได้วาระประชุมนี้เมื่อวานนี้เอง

                ก่อนกลับ ผมได้แวะไปดูลูกชายคนเล็กที่ห้องเรียน น้องขลุ่ยเห็นพ่อไปหาก็รีบวิ่งมาแล้วกระโดดให้พ่ออุ้มเลย เพื่อนผู้หญิง 4-5 คนในชั้นอนุบาล 1 เดินเข้ามาหาแล้วก็บอกว่า "พ่อเป็นหมอ แท้ๆ ทำไมเจาะเลือดแล้วยังร้องไห้เลย" น้องขลุ่ยก็ยิ้มเขินๆ พอดีผมก็ทราบว่าวันนี้ทางโรงพยาบาลบ้านตากได้มาเจาะเลือดให้เด็กๆชั้นอนุบาล 1-2 ส่วนน้องขิมอยู่อนุบาลสองบอกว่าวันนี้เจาะเลือดเจ็บแต่ไม่ร้องไห้ เพื่อนคนหนึ่งเจาะแล้วเจ็บนิ้วไม่ยอมเขียนหนังสือ อ้างว่าเจ็บนิ้ว ด้วยความเป็นห่วเพื่อน น้องขิมเลยเขียนให้แทน

หมายเลขบันทึก: 103751เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2007 22:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 18:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

      ขอบพระคุณมากครับ  ที่นำมา ลปรร. 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท