วันนี้ได้รับอีเมลจากเพื่อน เป็นเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับทัศนคติในการทำงาน ในอีเมลไม่ได้ระบุว่าเป็นบทความของท่านใด มาจากไหน จึงขออนุญาตเจ้าของนำมา ลปรร.ในเวล G2K แห่งนี้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้สนใจนะคะ
ช่องที่ไม่ว่าง : สลายช่องว่างระหว่างวัยในที่ทำงาน (1)
หลังออกจากห้องประชุม อลิสาฟันธงทันทีว่าคุณนัทที ที่ปรึกษาครีเอทีฟรุ่นน้าคอยจ้องจิกกัดถากถางไอเดียของเธอกลางที่ประชุมนั้น คือตาแก่หัวดื้อผู้ไม่ยอมรับว่ายุคของตัวหมดสิ้นลงแล้ว
ในห้องทำงานถัดไป ฉัตรพรฝ่ายบริหารลูกค้ากำลังนึกอยากทึ้งผมตัวเองด้วยความโมโห เมื่อเธอเรียกแอน พนักงานฝึกหัดมาสอนงาน แต่กลับโดนทำหน้าว่างเปล่าใส่เหมือนกับจะบอกว่า “หนูรู้หมดแล้ว”
ยินดี ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนถึงกับอึ้ง เมื่อเธอขอร้องให้สิปปนนท์ ฝ่ายกราฟฟิค ให้ช่วยออก แบบโปสเตอร์ที่ต้องใช้ด่วน แต่เขาปฏิเสธว่าวันนี้เขาคงทำให้ไม่ได้ เพราะนัดกับเพื่อนไว้แล้ว
ช่องว่างของวัย ช่องว่างของความคิด
หนึ่งในสาเหตุของความเครียดในที่ทำงาน คือการที่คนหลายรุ่นหลายวัยหลายความคิดต้องมาทำงานร่วมกัน ความแตกต่างระหว่างเลขวัยที่สัมพันธ์กับเลขไมล์ของประสบการณ์ มักนำมาซึ่งความไม่เข้าใจจนก่อตัวกลายเป็นความขัดแย้งในที่สุด
ความจริงที่อลิสา ฉัตรพรและยินดีอาจลืมเสียสนิทมีอยู่ว่า แม้จะทำงานด้วยยากเพียงใด แต่คน ทำงานในวัยที่แตกต่างนั้นก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่คนรุ่นเธอไม่มี บางทีความแตกต่างอาจคือกุญแจแห่งความสำเร็จ เพียงยอมเปิดใจทำความรู้จักคนแต่ละรุ่นให้ลึกซึ้ง พวกเธออาจจะได้พบโลกกว้างใบใหม่ที่งด งามด้วยความหลากหลาย และหากเลือกที่จะสื่อสารได้ถูกช่องถูกกลุ่มก็อาจจะได้อะไรใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง
ใครเป็นใครในที่ทำงาน
เราจะแบ่งรุ่นของเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานให้เห็นชัดๆ ก่อน โดยจำแนกจากช่วงปีที่เกิดซึ่งจะสัมพันธ์กับประสบการณ์ในช่วงเติบโต ทำให้เห็นยุคสมัยที่หล่อหลอมความคิดของพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น
· กลุ่มลายคราม — เกิดก่อนปี 2488
ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษาใหญ่ หรือเป็นพนักงานวัยใกล้เกษียณ แต่กลุ่มนี้จะมี ผู้คนนับหน้าถือตามากมาย อันเนื่องมาจากประสบการณ์การทำงานของพวกเขายาวนานมาก ที่สุด คนกลุ่มนี้เกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะยุติ จึงเติบโตมาท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่มี ทรัพยากรจำกัด ทำให้รู้จักคุณค่าของเงิน มักมีคุณลักษณะที่มั่นคง เชื่อใจได้ สู้งานหนัก ใช้จ่าย อย่างรู้คิด และมีความภักดีต่อองค์กรสูง
หลังสงครามยุติ ประเทศเข้าสู่ความสงบ การรณรงค์คุมกำเนิดยังไม่แพร่หลาย จึงเกิดพลเมืองตัวน้อยๆ ขึ้นมากมาย เบบี้บูมเติบโตขึ้นท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันกับคนวัยเดียวกันเพื่อให้ได้งาน ยิ่งเมื่อประเทศกำลังพัฒนาไปสู่ความเป็นอุตสาหกรรม เบบี้บูมก็ยิ่งจำเป็นต้องทำงานหนักมากขึ้น อาจทำงานเต็มเหยียดวันละแปดชั่วโมงวันละหกสัปดาห์ ลูกจ้างเบบี้บูมมักเคยชินกับการพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้นายจ้างยอมรับในศักยภาพ การก้าวไปสู่ตำแหน่งใหญ่นั้นต้องใช้เวลาและแรงผลักดันอย่างสูง
· กลุ่มเจนเนเรชั่น X — เกิดปี 2508-2523·
เจเนอเรชั่น X ลืมตาดูโลกเมื่อมนุษยชาติส่งยานอวกาศออกไปนอกโลกได้สำเร็จ ของเล่นฮิต ของเด็กรุ่นนี้จึงไม่ใช่ม้าโยกหรือตุ๊กตาหมีอีกต่อไป แต่คือวิดีโอ เกมกดและวอล์คแมน พวกเขา เติบโตมาในยุครอยต่อของอนาล็อกกับดิจิตอล ท่ามกลางเทคโนโลยีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ทว่าสังคมที่เปลี่ยนแปลงในทางวัตถุกลับทำให้สถาบันครอบครัวสั่นคลอน ความภักดีในองค์กร ของคนรุ่นนี้จึงคลายลงมาก นำมาสู่การลาออกและเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น ไม่แปลกที่ชาวเบบี้บูม ผู้ไม่เคยเกี่ยงที่จะทำโอทีจนดึกดื่น จะอึ้งที่ชาวเจนเนเรชั่น X จะปฏิเสธและอาจลาออกไปหางาน ใหม่หน้าตาเฉย ทั้งนี้เพราะชาวเจนเนเรชั่น X เชื่อว่างานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต
นี่คือกลุ่มคนทำงานหน้าใหม่ไฟแรงที่ยังอ่อนประสบการณ์ บางคนอาจยังเรียนไม่จบเสียด้วยซ้ำหรือมีแผนชีวิตที่จะเรียนต่อ นี่คือกลุ่มที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งระบบการศึกษาที่เริ่มให้ความสำคัญกับการคิดมากกว่าการท่องจำ พวกเขามีพ่อแม่ที่มีความรู้สูง จึงสนับสนุนให้ได้เสริมทักษะในด้านต่างๆ ตั้งแต่ยังเด็ก มิลเลนเนียมจึงชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและสนุกกับการทำงานเป็นทีม ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข ดังนั้นขณะที่เจน X เปลี่ยนงานครั้งที่สิบสองไปเป็นผู้บริหารระดับสูงกินเงินเดือนเรือนแสน มิลเลนเนียมอาจลาออกไปเริ่มธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง
รออ่านต่อภาค 2 ที่นี่ ค่ะ
น้องอยู่รุ่น gen X ค่ะพี่อึ่ง...ไปปราบม็อบหนามหลวงก่อนนะจ๊ะ โย่ !!!!
หนูแป้นเจ้า
อยากเป็นเทพธิดาพยากรณ์เหมือนกัน จะได้รู้ว่าใครคิด อยากทำอะไรบ้าง บางครั้งหัวหมุนเหลือใจค่ะ
น้อง มหัทธนา เราก็อยู่รุ่นเดียวกันนั่นสิค่ะเนี่ย อืม หลงให้คิดว่าตกรุ่น X แล้วเชียว