บรรจุคำ "พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ" จะคลี่คลายไปอย่างไร


พ่อห้ามผมไว้หนักหนาว่า

พึงระวังที่จะสนทนากับผู้อื่น ในสองหัวข้อที่เถียงกันยังไงก็ไม่จบ

และทำให้คนขัดแย้งกันได้ง่ายๆ

สองหัวข้อดังกล่าวคือ การเมือง กับศาสนา

เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับหลักเหตุผลอย่างเดียว ยังมีเรื่องของศรัทธาและความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่อย่างมาก

และสำหรับปรากฎการณ์เรื่องนี้ผมมองว่าเรื่องจบยากครับ เพราะแต่ละฝ่ายถกเถียงกันบนฐานคิดคนละฐานกัน มีหลายฝ่าย หลายฐาน ต่างฝ่ายต่างยืนบนฐานคิดของตัวเองอย่างเหนียวแน่น

บ้างอยู่บนฐานที่บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของอำนาจรัฐ กับพระศาสนา เป็นเรื่องของการกำหนดบทบาทของรัฐต่อศาสนา

บ้างอยู่บนฐานที่ว่า เป็นโอกาสที่จะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญบริบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยกลไกทางกฎหมาย

มีอยู่มากที่คิดว่า พุทธธรรมบริสุทธิ์โดยตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจหรือการเมือง จะเจริญงอกงามหรือจะเสื่อมโทรมก็เป็นไปตามกฎอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ต่างฝ่ายต่างสู้อยู่บนฐานของตัวเองครับ เพราะเหตุนี้ผมเห็นว่ามันจะคลี่คลายไปได้ยาก

ที่อยากเห็นมากๆ ก็คือทั้งฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายคัดค้านค่อยค่อยตกลงกันบนฐานคิดที่ละฐานแล้วหาข้อสรุปด้วยกันโดยสันติ

ได้แต่ภาวนาครับ

คำสำคัญ (Tags): #ศาสนา
หมายเลขบันทึก: 102930เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2007 08:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

รูปใหม่หล่อเชียวพี่ : )

เรื่องนี้คลี่คลายยากจริงๆ

แต่ไม่ว่าผลออกมาอย่างไร ขอให้ทุกฝ่ายมี action plan จริงๆจังๆที่จะทำให้ทุกศาสนาเข้าใจศาสนาตัวเองให้ถึงแก่น มากพอที่จะทำให้ใจมีขันติธรรมมากๆ อยู่ร่วมกันได้ทั้งๆที่มีความหลากหลาย ให้ความหลากหลายกลายเป็นความสร้างสรร

แปลคัมภีร์ให้มีค่ามากกว่าตัวอักษรแป๊ะๆซักที 

ภาวนาด้วยคน 

ขอบคุณมัทนานะ

ไม่รู้มัทนาเห็นด้วยที่จะบรรจุคำ "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ"

ในรัฐธรรมนูญไหม

เคยเขียนไว้ยาวมากในบันทึกของคุณ man in flame แล้วค่ะว่า ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่ามันไม่แน่ว่าจะทำให้พุทธศาสนาดีขึ้น แต่ที่แน่ๆและเห็นกันจะๆแล้วคือทำให้คนทะเลาะกัน

แต่ก็ agree to disagree นะคะ เข้าใจฝั่งที่เค้าอยากให้มีบัญญัติเป็นรายลักษณ์อักษร อย่างคุณ man in flame นี่ เราเห็นไม่เหมือนกันบ้าง แต่ก็คุยกันเป็นมิตรดี เรายอมรับความเห็นซึ่งกันและกันและ พยายามทำตามทางตัวเองให้ดีที่สุด 

มัทสนใจศึกษาพุทธศาสนา แต่ก็สนใจศึกษาศาสนาอื่นด้วย อันนี้สถานการณ์บังคับเพราะแต่งกัับคาทอลิก แล้วพอมาแคนาดา ได้มีโอกาสศึกษา พูดคุยกับหลายคนมากที่มัทคิดว่าเค้าเข้าใจแก่นพุทธรรมทั้งๆที่นับถือศาสนาอื่น

มัทเชื่อว่าเราไม่ควรเถียงกันว่าทางไหนดีที่สุด

  • เราจะปีนเขาให้ไปถึงยอดเหมือนกัน
  • อย่ามามัวแต่เถียงว่าจะแต่งตัวอย่างไร
  • ใส่เสื้อกล้ามด้านภูเขาด้านที่แดดส่อง
  • ส่วนอีกด้านหนาวก็ต้องใส่เสื้อกันหนาว

To argue about the path is to miss the point. It's like climbing a mountain. The guy on the sunny side says it's best to wear a sleeveles T-shirt, the guy on the shady sides says you must wear a coat. - Siao Weija 

แต่ไม่ได้แปลว่าห้ามคุยเรื่องการเมืองหรือศาสนานะคะ

มัทว่ายิ่งไม่คุยยิ่งปล่อยให้เลยเถิด แต่ต้องคุยแบบถอดฐานอย่างพี่ว่า 

มัทอยากให้มี ขันติธรรม (tolerence) กันมากๆ

เรื่องการบำรุงพุทธศาสนา มัทว่าเราทำกันแบบ bottom-up ดีกวา top-down รอให้กฎ ให้ กรอบของรัฐมาสั่งให้เราทำ มันน่าจะให้ผลที่นานกว่าและไม่ใช่ผักชี?

ก็เหมือนกับการแก้ปัญหาอื่นๆแหละค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท