“ ลาวโซ่ง หรือ ไทยทรงดำ มาอยู่สุพรรณได้อย่างไร?” (ตอนจบ)


 

 ลาวโซ่ง หรือ ไทยทรงดำ มาอยู่สุพรรณได้อย่างไร?” (ตอนจบ)

  

                ตอนที่ 3ได้กล่าวถึงเหตุการณ์สงครามที่ทำให้ชาวผู้ไตซงดำ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของลาวโซ่ง หรือ ไทยทรงดำในปัจจุบัน ต้องอพยพเคลื่อนย้ายเข้ามาสู่ประเทศไทย รวม 5 ครั้งด้วยกันตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสิน สมัยรัชกาลที่ 1 และสมัยรัชกาลที่ 3 จะเห็นว่าการอพยพทั้ง 5 ครั้ง ชาวผู้ไตซงดำ จะถูกส่งมาอยู่รวมกันที่จังหวัดเพชรบุรีทุกครั้ง เพชรบุรีจึงเป็นถิ่นฐานแห่งแรกของชาวผู้ไตซงดำ ในประเทศไทย และได้สร้างหลักปักฐาน มีลูกหลาน สืบมาจนถึงปัจจุบัน และชาวผู้ไตซงดำในจังหวัดเพชรบุรีนี้เอง คือต้นกำเนิดของ ลาวโซ่ง หรือ ลาวซ่ง ในประเทศไทย

 

                จากเอกสารชีวประวัติของจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่าท่านเคยได้รับการโปรดเกล้าฯ จากรัชกาลที่ 5 ให้เป็นแม่ทัพไปปราบกบฏจีนฮ่อที่มารบกวนหัวเมืองฝ่ายเหนือ ในแคว้นสิบสองจุไทยของชาวผู้ไตซงดำ ครั้งนั้นได้มีการเกณฑ์ทหาร ไทยทรงดำหรือลาวโซ่ง จากจังหวัดเพชรบุรีไปช่วยรบ ทหารไทยทรงดำจากเพชรบุรียืนยันว่าได้พบญาติๆที่แคว้นสิบสองจุไทยซึ่งมีเมืองแถงเป็นศูนย์กลางด้วย และก็อาจจะชวนกันมาอยู่เพชรบุรีด้วยก็ได้ เรื่องต่างๆเหล่านี้จึงช่วยยืนยันได้มั่นคงขึ้นว่า ลาวโซ่งหรือไทยทรงดำเมืองเพชรบุรี มาจากแคว้นสิบสองจุไทยแน่นอน

 

                ทำไมชาวผู้ไตซงดำที่อพยพเข้ามาทุกครั้งจึงได้รับโปรดเกล้าฯให้ไปอยู่เพชรบุรี ข้อนี้ท่านให้เหตุผลว่า เพราะเมืองเพชรบุรีมีภูมิประเทศที่เป็นป่าเขามาก มีหุบห้วยลำธาร น้ำท่วมไม่ถึง เช่นบริเวณเขาวัง เขาหัวแหวน เขาชะอำ เป็นต้น บริเวณพืดเขาเหล่านี้เป็นที่พอใจของผู้ไตซงดำทั้งหลายเพราะเชื่อว่าเป็นภูมิประเทศที่คล้ายเมืองแถง แคว้นสิบสองจุไทย อันเป็นบ้านเมืองดั้งเดิม เมื่ออพยพเคลื่อนย้ายเข้ามาก็คุมสมัครพรรคพวกปลูกสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่เป็นหมู่ๆ กระจายกันไป เช่นบ้านป่าตาล หรือที่เรียกว่าสะพานยายหนใกล้เขาวัง แล้วก็เกิดหมู่บ้านเรียกชื่อต่างๆกันไป เช่นบ้านเขาแร้ง บ้านเขาย้อย บ้านหนองปรง บ้านหนองจิก บ้านหนองกระพร้อ บ้านท่าช้าง บ้านท่าลาว  บ้านวังตะโก บ้านเวียงคอย บ้านทับคาง หรือ ทับทางเป็นต้น

 

                เล่ามาตั้งนานยังไม่ถึงจังหวัดสุพรรณบุรีเสียที เหตุที่ชาวลาวโซ่งอพยพมาจังหวัดสุพรรณบุรีก็มีมูลเหตุดังนี้ คือชาวลาวโซ่งที่เพชรบุรีกลุ่มหนึ่งต้องการกลับไปสู่ถิ่นฐานเดิมในแคว้นสิบสองจุไทย  จึงรวบรวมญาติพี่น้อง อพยพขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ติดฤดูฝนที่ไหนก็ตั้งพักทำไร่ทำนาหาเสบียง พอหมดฤดูฝนก็เดินทางต่อไป จนกระทั่งคนรุ่นผู้ใหญ่ล้มตายไประหว่างทาง ลูกหลานรุ่นหลังก็เกิดความท้อแท้หมดกำลังใจที่จะเดินทางต่อไป จึงตกค้างไปตามระยะทาง พวกที่เดินทางได้ไกลสุดก็แค่เพียงจังหวัดพิจิตรและพิษณุโลก ที่เหลือจึงตกค้างตั้งหลักแหล่งอยู่ แถบจังหวัดสุโขทัยจังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม   เป็นต้น

 

                ลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำ จากเพชรบุรีจึงมาอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีดังเช่นที่อำเภออู่ทอง อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ดังกล่าวมาในตอนต้นๆ

                 ลุงส่าง แสงอรุณ ชาวไทยทรงดำ บ้านดอนมะนาว อำเภอสองพี่น้อง เล่าให้ผมฟังว่าบรรพบุรุษของท่านอพยพมาจากบ้านท่าแร้ง จังหวัดเพชรบุรี ในสมัยรัชกาลที่ 6 นามสกุลของชาวไทยทรงดำมักจะแสดงถิ่นฐานเดิมของเขา เช่น เชื้อเพชร แร่เพชร เชื้อหนองปรง เป็นต้น

 

คำสำคัญ (Tags): #ไทยดำ
หมายเลขบันทึก: 101411เขียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2007 11:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 19:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีครับ

    ลาวซ่งดำ หรือส่งดำ

    ส่ง =  กางเกง

    เขานิยมสักขาสีดำถึงหัวเข่า ใช่ไหมครับ

  • เรื่องไทยทรงดำนี้ผมว่า อ.วรชัยคงมีความรู้ดีกว่าผมเสียอีก ผมได้แต่อ่านหนังสือแล้วก็นำมาเรียบเรียงเท่านั้น
  • อ.วรชัยมีอะไรแนะนำก็เชิญเลยครับ
  • แถวบ้านผมมี ชาวไทยทรงดำอยู่ ๒ หมู่บ้านแต่ผมไม่ค่อยได้ไปเที่ยวคลุกคลีบ่อยนัก
  • ยกเว้นต้องการข้อมูล ก็ไปอย่างฉาบฉวย
  • ผมว่าต้องมีท่านผู้รู้ที่รู้ลึกซึ้งอีกมาก
  • ท่านใดทราบเรื่องอะไรก็ได้โปรดแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันหน่อยเถอะครับ เป็นวิทยาทาน
  • ขอบคุณล่วงหน้าครับ
  • เรื่องสักขาสีดำ ผมจะไปถามพรรคพวกดู
  • อ.วรชัย ช่วยผมอีกแรงนะครับ
  • สรุปว่าผมพบทั้งหมดนี้เลยครับ
  • เชื้อเพชร แร่เพชร เชื้อหนองปรง
  • ขอบคุณครับผม
  • อยากให้อาจารย์พบกับชายคนนี้จังเลย
  • แล้วจะทราบว่า
  • เมืองไทย มีคนเก่งๆๆ คนดีๆๆอีกมาก
  • ที่นี่ครับ
  • ขอบคุณครับ
  • เอางานวิจัยเกี่ยวกับไทยทรงดำ
  • ที่เป็นหลักสูตรท้องถิ่นมาให้อ่านครับ
  • เลยเอามาฝากที่นี่เสียเลย
  • ที่นี่ครับผม
  • ขอบคุณคุณสุนีมากครับที่แนะนำแหล่งเรียนรู้อันมีค่าให้ผม

 

  • ซาบซึ้งใจมากที่สุดจริงๆครับ อ.ขจิต เป็นพระคุณอย่างยิ่ง สำหรับแหล่งเรียนรู้ ขุมทรัพย์ทางปัญญาที่ อ.ขจิต ชี้ให้
  • นี่แหละอานิสงส์แห่งgotoknow
  • ดีใจได้เห็น website ไทยทรงดำด้วย
  • ตื่นเต้น
  • ขอบคุณ ขอบคุณ อบอุ่นจิต
  • กัลยาณมิตร เจือจานให้
  • แหล่งเรียนรู้ ค่าล้ำ เปี่ยมน้ำใจ
  • ที่ผมได้ ไม่อาจ คณนา
  • อ.ขจิต คนนี้ ดีดี๊ดี
  • อ.สุนี แนะนำ ล้ำคุณค่า
  • โกทูโนว์ แสนซึ้ง ตรึงอุรา
  • นำชีวา สู่ทาง กว้างขวางไกล

ขอบคุณ อ.ขจิต ที่แนะนำเข้าไปทำข้อสอบแล้วค่ะ

ขอบคุณ อ.พิสูจน์ ที่สืบสานวัฒธรรมไทยทรงดำไว้เพื่อลูกหลานของเราสืบไป

" โอ้หมู่เฮาไทยดำ  วัฒธรรมช่างล้ำเลิศ  รักษาประเพณีไว้เถิด  ช่วยกันชูเชิดฟ้อนแคนอิ้นกอน  " 

จะเข้ามาเรียนการเขียนและอ่านกับอาจารย์ทุกวันค่ะ

  • ผมมีลูกศิษย์เป็นชาวไทยทรงดำหลายคนในวงเพลงอีแซวของผม ล้วนแต่เก่งๆทุกคนเลย
  • เคยพาไปประชันแหล่รายการคุณพระช่วยมาแล้วก็มี
  • ชาวไทยทรงดำหมู่เฮา...เก่งๆ..และน่ารักมาก

สวัสดีค่ะ อ.พิสูจน์

แวะมาลงทะเบียนว่าอ่านเรื่องลาวโซ่งครบชุดแล้วนะคะ ไม่มีความรู้อะไรจะมาเพิ่มให้ในเรื่องนี้เลยค่ะ นอกจากมารับไป ^ ^

ขอบคุณนะคะ

สวัสดีค่ะอาจารย์     วันนี้มาคอยเรียนแล้วค่ะ
  • ขอบคุณ อ.กมลวัลย์ ที่ยังไม่ลืมกัน
  • ผมกำลังเรียนรู้ การตกแต่งบล็อก
  • การนำตัวอักษรโบราณขึ้นอยู่
  • ยัง งงๆอยู่เลย
  • ขอบคุณอีกครั้งครับ
  • อ.สุนีย์ ครับผมมีข้อมูลพร้อมแล้ว
  • แต่ยังนำข้อมูลขึ้นไม่ได้เลยกำลังพยายามอยู่
  • สงสัย อ.ขจิตต้องช่วยแล้วหละ
  • เป็นตัวอักษรโบราณแต่เป็น ไฟล์ภาพเพราะสแกนมาครับ
  • ดีใจจัง ขึ้นได้แล้วครับ
  • เชิญติดตามอ่านได้ในบันทึกหลังๆจากนี้ได้เลยครับ ทุกๆท่าน
  • ขอบคุณที่เป็นกำลังใจครับ
  • ผมต้องขอโทษอ.สุนี ที่เขียนชื่อผิดบ่อยๆ
  • เพราะผมนำตัว ย์ ของ อ.กมลวัลย์ มาใส่ให้
  • จะลบก็ไม่ทันเสียแล้ว..
  • ทีหลังจะไม่ให้เผลอแล้วนะครับ อ.สุนีย์ เอ้ย อ.สุนี ผิดอีกจนได้
ลูกศิษย์อาจารย์ขจิต

ขอบคุณอาจารย์ขจิตที่จำลาวโซ่งได้ขึ้นใจ หนูเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์เคยสอนหนังสือ

แล้วที่สำคัญหนูเป็นลูกหลานลาวโซ่ง ขอบคุณทุกท่านที่ชื่นชมในชาติกำเหนิด

และสนใจในวัฒนธรรมแล้วก็ภาษาของหนู

ทำไมเมื่อถูกเรียกว่า “โซ่ง” ต้องโกรธด้วย 2 มิ.ย.54

คนไทดำเป็นชนชาติกลุ่มไท คือกลุ่มที่ใช้ ภาษาไท ชนกลุ่มไท อาศัยอยู่ตั้งแต่ตอนบนของพม่า เรียกว่าไทใหญ่ จีนตอนล่าง เขตปกครองพิเศษ สิบสองปันนา ไทลื้อ ตอนเหนือของเวียตนาม พวกไทดำ ไทแดง ไทขาว กลุ่มไทดำอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของเวียตนาม ตามพงศาวดารเมืองไล จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากร 2507 เมืองที่ไทดำอยู่นั้น เช่น เมืองแถน เมืองควาย เมืองตุงเป็นต้น มี 12 เมืองเรียกว่าเมืองสิบสองผู้ไท หรือสิบสองจุไท คำว่าจุ มาจากคำว่าเจิว เป็นภาษาแกว แปลว่า เมือง เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีกล่าวถึงดินแดนสิบสองจุไท ในพ.ศ.2430 ว่าเป็นเมืองของพวกไทดำ ดังพวกลาวเพชรบุรี คำว่าลาวนั้นเป็นคำที่คนที่อยู่ในประเทศไทยเรียกคนที่ข้ามจากฝั่งโขงมาไทย เรียกว่าลาวทั้งหมด เช่นมาจากเมืองเวียงจันท์ก็เรียกว่าลาวเวียง มาจากเมืองพวน ก็เรียกว่าลาวพวน มาจากหลวงพระบางก็เรียกว่าลาวคั่ง เป็นต้น ส่วนคนไทดำไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศลาว แต่ข้ามแม่น้ำโขงมาเช่นกัน จึงถูกเรียกว่า ลาวไปด้วย ซึ่งคนในประเทศลาวเขาก็ไม่ยอมรับว่าไทดำเป็นลาว คนไทดำเรียกตนเองและพวกเดียวกันว่าไท หรือ ไต เช่น ไตบ้านดอน ไทบ้านยาง ไทเมืองเพชรเป็นต้น ไม่ได้เรียกตนเองว่าลาวเลย

ในการปกครองบ้านเมืองของไทดำ แบ่งเมืองออกเป็น 2 ชั้น หรือ3 ชั้นแล้วแต่เมือง คนที่อาศัยอยู่ในกำแพงเมือง เรียกว่าไทกวงเมือง หรือไทเมือง ส่วนพวกที่อยู่นอกกำแพงเมือง เรียกว่า ไทโซ่ง หรือไตโซ่ง การที่พวกโซ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่นอกกำแพงเมือง จึงเป็นการง่ายที่จะถูกกวาดต้อน พวกไทดำที่ถูกกวาดต้อนจึงเป็นพวกไทโซ่งเสียเป็นส่วนมาก ในหนึ่งเมืองจะประกอบไปด้วย 4 โซ่ง เช่นที่เมืองลา มีโซ่งปัน โซ่งป้อง โซ่งหอหลวง โซ่งล่ามหอ (หนึ่ง โซ่งจะประกอบไปด้วยหมู่บ้าน 5-10 หมู่บ้าน) ดังนั้นคำว่าโซ่ง ก็หมายถึง พวกชนบท พวกบ้านนอก หรือพวกด้อยวัฒนธรรม พวกการศึกษาต่ำ พวกโง่ อะไรทำนองนั้น การที่พวกเราเรียก ไทดำ ว่าโซ่ง พวกโซ่งก็หมายถึงคุณกำลังเรียกเขาว่า ไอ้บ้านนอก ไอ้โง่อะไรทำนองนั้น เช่นเราคนสุพรรณไปเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ เขาเรียกเราว่าไอ้สุพรรณไอ้บ้านนอกเรายังโกรธเลย ไทดำก็เหมือนกัน ถูกเรียกว่าโซ่ง หรือไอ้บ้านนอก ไอ้โง่ เขาก็ต้องโกรธเช่นกัน ดังนั้นต่อไปนี้ให้เรียกเขาว่า ไทดำ หรือผู้ไทดำ นะจ๊ะ ยังมีเรื่องเล่าสู่กันฟังอีกมาก เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน หรือใครอยากฟังเรื่องอะไร ขอได้ ตอนนี้ กำลังเขียนเรื่อง 1.การบริหารตามยถากรรม และ 2.อารมณ์วิปัสสนาที่ถูกต้อง เป็นแนวปฏิบัติ เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่า วิปัสสนาคืออะไร ปฏิบัติที่ถูกต้องทำอย่างไร วันนี้พอแค่นี้ก่อน bye

Dr.Suriya R.

ผู้ไทดำ มาอยู่สุพรรณได้อย่างไร ขอเล่าบ้าง จากงานวิจัยชิ้นหนึ่ง สมัยนั้นผมยังเป็นเด็กอยู่ อ.สมชาย นิลอาธิ มาทำวิจัย ที่ ต. สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้ตามเขาไป สัมภาษณ์ คนในหมู่บ้านเรื่องการอพยพ มาตั้งถินฐาน ที่ สระยายโสมนี้ เดิมอยู่จังหวัดเพชรบุรี มีปัญหาเกี่ยวกับโจร ผู้ร้าย ก่อกวน จึงไปมิชชันนารี ญวน ที่เข้าเผยแผ่ศาสนา แต่ปัญหาก็เกิดหนักขึ้นไปอีก คือพวกมิชชันนารีบังคับทางอ้อม คือไม่ให้ย้อมผ้า ทำให้มือดำสกปรก ไม่ให้ตำข้าวกลางคืน เสียงดังรบกวนพระเจ้า ห้ามเลี้ยงผี เสนเรือน ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกเฆี่ยนตี บางคนบางครอบครัวทนไม่ไหวก็อพยพตามทางเดิมจะกลับเมืองแถน ตามหมอบอกทางว่าไว้ คือราว พ.ศ.2390-2400 มีอพยพมาประมาณ 4ครอบครัว คือ ครอบครัว นายมั่น นายโป นายแฝง นายมา มาตั้งบ้านเรือนที่สระยายโสม อีก 1o ปีต่อมาจึงมีพวกญาติๆ จากเขาย้อยเพชรบุรี ตามมาสมทบอีกกลุ่มใหญ่ จบแค่นี้ก่อนวันหลังถ้าชอบจะเล่าใหม่

[email protected]

Dr.Suriya R.

การทำวิจัยเกี่ยวกับลาวโซ่งไทดำโดยคนนอก outsider เป็นเรื่องที่ทำให้ความเข้าใจ ของคนทำและคนอ่านอ่านผิดเพี้ยนไป เช่นไทยทรงดำ มีนักวิจัยจากสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ไปทำวิจัยเกี่ยวกับชาติพรรณที่ ต.บ้านดอน อำเภออู่ทอง สุพรรณบุรี การเข้าสืบค้นก็ต้องเข้าไปหาผู้ที่มีภูมิรู้ สมัยนั้นเข้าไปหา หัวหน้าการประถมศึกษา ซึ่งเป็นลาวเวียงได้เมียเป็นไทดำ ท่านบอกว่า ที่เรียกว่าไทดำก็เพราะแต่งองค์ทรงเครื่องด้วชุดสีดำ ถ้าจะเรียกให้เพราะต้องเรียกว่าไทยทรงดำ (สังเกต ทรง ไทย ล้วน เป็นคำภาษาอื่น ) พอนักวิจัยนำไปเผยแพร่ คนกลุ่มนี้จึงถูกเรียกว่าไทยทรงดำ พอนานๆเข้าสังคมรับรู้มากขึ้นก็เป็นไทยทรงดำไปโดยปริยาย เหมือนเพลงผู้ใหญ่ลี ผู้ใหญ่ลีอ้างทางการสั่งมา ตังเองก็เป็นผู้ใหญ่ สุกรนั้นไซร้ก็จึงเป็นหมาน้อยธรรมดา Dr.Suriya R.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท