ทำขวัญนาค ตอนที่ 3 (นามนาค)


หนึ่งกระเทยสองบ้าสามไบ้ ท่านห้ามมิให้บวช

ขั้นตอนในการทำขวัญนาค <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตอนที่ 3 (นามนาค)</p><h4>          ในตอนที่ 3 นี้ เป็นตอนที่ ผมจะเล่าเรื่องนามนาค เป็นตำนานมีอยู่ในพุทธประวัติ แต่ท่านผู้รู้บางท่านก็ว่านามนาค ไม่มี ถึงจะอย่างไรก็แล้วแต่  ผมเรียนเป็นหมอขวัญมากับ พ่อคุณวัน มีชนะ ท่านบอกผมว่า นามนาค มีมาในตำนาน เป็นประโยชน์ในการนำมาคิดถึงที่มาที่ไปของคนที่จะบวช ที่เรียกว่า พ่อนาค ผมจึงได้นำเอาบทนามนาคมาบอกนาคให้ได้รับรู้ทุกงาน เพียงแต่ว่า บางงานเวลามีน้อย จึงจำเป็นที่จะต้องย่นย่อเอาแต่เพียงพอเข้าใจ เช่นเดียวกับ บนเนื้อที่แห่งนี้  ถ้าหากว่า ผมนำมาเล่าบนละเอียด ท่านจะเสียเวลาอ่าน จึงขอเล่าเพียงย่อ ๆ พอเป็นสังเขปก่อนนะครับ  </h4><h4></h4><h4>         ศรี ศรี สิทธิวิเศษ ท่านทิศาปาโมกข์สังเกตประกอบฤกษ์ เอกเกริกทำการกุศลพิธี เทพเจ้าทุกทิศรีพร้อมสะพรั่ง ทั้งหมู่ญาติของพ่อนาคก็มานั่งอเนกใน  ล้วนแต่มีน้ำจิตเลื่อมใสศรัทธาด้วย  ชวนกันมาช่วยอนุโมทนา  ท่านทั้งหลายที่มานั่งกันพร้อมหน้า ข้าพเจ้าขออภัยด้วย  คำโบราณท่านกล่าวไว้นั้นมีมากว่า พยานาคนั้นฝากชื่อ เป็นแต่คำเล่าลือ  บางท่านก็ยังสงสัยว่าเหตุไฉนจึงได้ชื่อว่านาค ดูนี่ก็หลากหนักหนาหนอ หรือใครตั้งต่อแต่เดิมมา ข้าพเจ้าจะขอวิสัชนาให้แจ้งประจักษ์  มีอยู่ในคัมภีร์มหาวรรค  แต่เดิม..มา แต่ครั้งเจ้าจอมนาคาภุชงคราช เมืองบาดาล  อเนกนับทรัพย์สฤงคารเอกอุดม  พร้อมด้วยเหล่าสาวสนมทุกถ้วนหน้า ทั้งอำหมาด ณาตยา ก็เนืองนอง  ทั้งแก้วแหวนเงินทองก็มากมีแต่น้ำจิตคิดหนทางที่ตัดกิเลส  อยากจะใคร่บรรพชาเพศตัดราคี  หมดอาลัยใยดีในพื้นภพ  อยากบวชตนไปจนครบ  7 ทิวา ดำริแล้ว เจ้าจอมนาคาภุชงคราช  จึงเอื้อนอัฐตรัสประภาษณ์แก่นักสนม  ว่า เราจะลาจากนิคมนคเรศ ขึ้นไปบรรพชาเพศจะเรียนธรรม  พอครบถ้วน 7 ทิวาจะกลับมา  ฝ่ายเจ้าจอมนาคาภุชงคราชเสด็จจากปรางค์ปราสาทอันรุจี พอถึงปากฝั่งพระธรณีก็แปลง..กาย  </h4><p>แยกไปร้องส่ง เพลงนาคแปลงกาย โดยนำเอาเนื้อและทำนองที่เหมาะสม </p><p>เพลงนาคแปลงกาย โดย พ่อคุณวัน มีชนะ (ได้มาเมื่อปี พ.ศ. 2513)  </p><p>         รูปก็หาย  กลายกลับ             จากนาคา </p><p>         เป็นมนุษย์  สุดโสภา            งามเฉิดฉัน</p><p>         นาคหนุ่ม  กรุ้มกริ่ม              กระหยิ่มจิต </p><p>         คงสมคิด  ดังมาตร              ปรารถนา</p><p>         คราวนี้คง  สมจิตร               ที่คิดไว้</p><p>         จะได้ครอง  ผ้าไตร              ดังเจตนา </p><p> กลับไปร้องทำนองเสนาะ (ธรรมวัตร) ต่อไป  </p><h4>            อันเพศนาคร้ายก็สิ้นสุด กลับกลายเป็นบุรุษสุดโสภา จึงเดินตัดมรคา ละแวกบ้านมาครู่หนึ่ง ถึงสถานพระเชตุพล อันมีปริมณฑลงามโอฬาร  ฝ่ายเจ้าจอมนาคาก็ลินลาศ  เข้านอบนบอบภิวาทพระเถรทิศ  พระเถรเจ้าก็ตั้งจิตแสดงธรรม จึงถามด้วยพระคาถาว่า (โพ มา นะ วะ) ดูก่อนมานพอันน้อยนารถ (กิง อะหิอา วาโส) เข้ามาในอาวาสด้วยเหตุใด มานพนาคจึงทูลไขสนองอรรถ มากราบเท่าโดยสัจสุจริต ตั้งใจหมายจิตโดยจำนง มาขอรับเพศทรงบรรพชา พระเถระก็ทรงพระเมตตา อนุญาตให้ เหตุบัญญัติไว้ในสิกขาบท พระเถระจึงปรากฏเป็นพระอุปัชฌาย์ ยังกุมารนาคาให้ถือศีล เอาธุระของสงฆ์พระองค์สิ้นสำเร็จ  ศีล 227 เข้าสู่ทรง นาคเลยกลายเป็นสงฆ์สำเร็จกิจ  ยามเมื่ออาบัติถกรรมมาตามติด วาสุกรี  </h4><h4>        (บรรยาย) วันหนึ่งพยานาคเกิดประมาทรูปที่ตนนิมิตขึ้นมา ก็กลับกลายจากพระสงฆ์ เป็นพยานาคตัวใหญ่ยาว นอนหลับอยู่ในกฏิ พระสงฆ์ทั้งหลายมาเห็นเข้าก็ตกใจว่าทำไม พยานาคซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉานจึงมาบวชได้ ความทราบถึงหูของพระพุทธเจ้า จึงประชุมกันสร้างสนทนา ด้วยญาณวิเศษ ทำให้รับรู้รับทราบวิวากกรรมของพยานาคตั้งแต่ชาติก่อน เคยได้ทำบาปเอาไว้ เมื่อตายไปจึงมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน คือ พยานาค แต่อนิจจังนั้นไม่เที่ยง อย่าประมาทถึงความตาย จึงทรงดำรัส เป็นคำสิกขา ว่าผิดมนุษย์จะอุปสมบทมิได้  จึงจำต้องเนรเทศ พยานาคออกจากวัดไป  </h4><p>แยกไปร้องส่ง เพลงนาคลา โดยนำเอาเนื้อและทำนองโศกมาใช้     </p><p>     พยานาคเสียใจ  ร้องไห้โฮ    อภิโถเวรกราม  จะทำไฉน  </p><p>     พยานาคเสียใจ  ร้องไห้ฮือ     จะขอฝากไว้แต่ชื่อ ให้ลือชา     </p><p>     พยานาคมีกรรม  ต้องจำลา     กราบบาทอุปัชฌาย์  ขอลาไป    </p><p>     ศิโรราบกราบงาม  ลงสามครา   สบพักตร์โศกา  น้ำตาไหล </p><p>กลับไปร้องบทเดิมต่อด้วยทำนองเสนาะ  </p><h4 style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">          พยานาคจึงกราบบาทแล้วทูลว่า  พระพุทธเจ้าข้า บุญของข้าน้อยเสียหนักหนา นับว่าจะห่างจากฝ่าธุลี ข้าพเจ้าขอฝากนามของข้านี้  เอาไว้ในศาสนา  ข้าพเจ้าชื่อนาคา ใครจะบวช ขอให้สวดไปตารมเกณฑ์  องค์พระดิษเถระเป็นพระอุปัชฌาย์  เกศของข้าพเจ้านาคาขออุทิศไว้เป็นถุงตะเคียว หงอนของข้าพเจ้าหงอนเดียวขออุทิศไว้เป็นกรวยทองของบูชา  หนังของข้าพเจ้านั้นหนาของอุทิศเป็นอาสนะ  เกล็ดของข้าพเจ้านั้นนะขออุทิศไว้เป็นตลกบาตร เขี้ยวแก้วของข้าพเจ้าข้างซัายและข้างขวาหนักข้องละบาท  ขออุทิศเป็นเทียนธรรมชาติไว้บูชา  หางของข้าพเจ้านั้นหนาฝากไว้เป็นตาลปัตร  พระพุทธองค์ทรงพระกรุณาจึงได้รับฝาก  จึงได้เรียกกันว่าเจ้านาคตามประเพณี </h4><h4 style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></h4><h4>            ท่านทั้งหลายที่มานั่งอยู่ตรงนี้  อย่าวิมุต และสงสัย  หนึ่งกระเทย สองบ้า สามไบ้ ท่านห้ามมิให้บวช  ศาสนาอันยิ่งยวดของพระตถาคต  นามเจ้านาคก็หมดลงเพียงนี้  </h4><h4>ให้ลั่นฆ้องขึ้น 3 ที  แล้วโห่ร้องเอาชัย  </h4><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>(ติดตามตอนที่ 4 บทสอนนาค ชำเลือง มณีวงษ์)</p><p></p><p></p>

คำสำคัญ (Tags): #ทำขวัญนาค
หมายเลขบันทึก: 101028เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2007 23:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท