ลอดช่องสิงคโปร์ ๖: ข้าวมันไก่ที่ Maxwell



    ผมตรวจร่างกายเสร็จก็ว่างเพราะไม่มีเรียน หมอแป๊ะชวนกันออกไปกินข้าวเที่ยงที่ Maxwell Food Center ใน Chinatown ที่เดินไปใกล้ๆ ของกินเยอะมาก แต่แป๊ะแนะนำให้ผมกินข้าวมันไก่เจ้าดัง ซึ่งก็ดังจริงๆ เพราะเป็นร้านเดียวที่มีคนยืนต่อคิวรอเป็นงูเลื้อย ให้ร้านอื่นอิจฉาเล่น ผมตรงเข้าไปต่อคิวประมาณคนที่สิบ

    ระหว่างยืนรอก็มีภาพชีวิตภาพหนึ่งตรงหน้า ให้ผมได้ขบคิด
    เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ๕- ๖ ขวบคนหนึ่ง นั่งกินข้าวกับคุณแม่ยังสาวที่โต๊ะหน้าร้านข้าวมันไก่ สักพักก็มีเสียงเหมือนขย้อนอาหารจากเด็กคนนั้น แล้วก็ก้มหน้านิ่ง น้องเขาบ้วนอะไรบางอย่างออกมาใส่ชามก๋วยเตี๋ยวที่ตัวเองกินอยู่ คุณแม่ที่นั่งอยู่นั่งดูเฉยๆ ผมไม่รู้ว่า คุณแม่เขาชินเสียแล้ว หรือเหตุการณ์มันเกิดมานานก่อนผมไปยืนต่อแถวแล้วก็ไม่รู้ แต่คุณแม่ดูเฉยและนิ่งมากๆ
    จนเด็กส่งเสียงดังขึ้นอีกครั้ง แล้วมีเศษอาหารออกมาในชามอีกครั้ง
    คราวนี้คนที่มีปฏิกิริยาค่อยข้างรุนแรงในสายตาผม กลับไม่ใช่คุณแม่ที่นั่งอยู่ด้วย แต่เป็นคุณป้าสูงอายุคนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เก็บจานอาหาร และทำความสะอาดโต๊ะ ซึ่งตรงเข้าไปกระชากชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าหนูน้อยคนนั้น ออกมาทันที ปากก็ส่งเสียงดัง พร้อมสีหน้าดุดันขึงขัง ถ้าผมเดา น่าจะเป็นคำพูดต่อว่ามากกว่าคำปลอบใจ แล้วคุณป้าก็เอาชามไปเก็บในจุดล้างจาน
    หนูน้อยคนนั้นยังก้มหน้าต่อ แล้วก็ขย้อนอีกหลายครั้ง คราวนี้เศษอาหารทะลักออกมาบนโต๊ะเลย เพราะไม่มีชามตรงหน้าแล้ว สักพักคุณแม่ก็พาลูกชายเดินออกไปเงียบๆ มีกองเศษอาหารบนโต๊ะให้คุณป้าคนเดิมกลับมาทำความสะอาด

    ผมงง ไม่เข้าใจว่า นี่เป็นเหตุการณ์ปกติหรือว่ายังไง

   
    ผมยืนรอคิวร้านข้าวมันไก่นานมาก อยากจะบอกว่า นานกว่ารอตรวจเอกซเรย์เมื่อเช้าเสียอีก คนที่เริ่มต่อคิวเพิ่มจากสิบเป็นยี่สิบคนแล้ว
    พอถึงคิวของผม ผมสั่งข้าวมันไก่ไม่เอาหนัง ซึ่งมีป้ายระบุหน้าร้านเลยว่า ให้แจ้งถ้าต้องการไม่เอาหนัง skin removed  ถูกใจผมมาก แยกข้าวกับไก่ ในราคาชุดละ ๓.๕๐ เหรียญ
    ผมกลับมานั่งกินข้าวมันไก่จานที่น่าภูมิใจ ตรงโต๊ะที่เด็กน้อยคนนั้นเพิ่งอาเจียนใส่นั่นแหละครับ ความรู้สึกตอนที่นั่งกินอยู่ ความอร่อยลดลงไปเยอะเลย เพราะมันเป็นโต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าร้านพอดี ทุกคนที่ยืนรอคิวอยู่จะจ้องมองผมรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนเป็น presenter ให้ร้านยังไงยังงั้น
    ตอนนี้แถวยาวออกไป จนต้องมีผู้คุ้มกฏออกมายืนจัดระเบียบการเข้าแถวแล้ว ว่าให้ปัดท้ายแถวออกไปอย่าไปบังหน้าร้านคนอื่นเขา ดูเขาเถอะ..แค่นี้ก็ต้องมีระบบ บ้านนี้เมืองนี้เขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ
    ผมกินอิ่มแล้ว ความคิดหนึ่งแว๊บขึ้นมาในใจ เอ..ถ้าผมทำท่าก้มหน้า แล้วขย้อนอาหารออกมาแบบหนูน้อยบนโต๊ะเดียวกันก่อนหน้านี้ แถวที่ต่อกันยาวเหยียดเว่อสุดๆนั้นจะกระเจิงมั๊ย

    แต่ผมไม่ได้ทำนะครับ เสียดายข้าวมันไก่

 

<< ลอดช่องสิงคโปร์ ๕: หมอพบหมอ 

ลอดช่องสิงคโปร์ ๗: ฝากท้องกับ Kopitiam   >>

หมายเลขบันทึก: 100986เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2007 18:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
อยากรู้ด้วยค่ะว่าทำไมทุกคนจึงเฉย โดยเฉพาะคุณแม่ ตอนแรกนึกว่ากระดูกติดคอเด็กเสียอีกค่ะ

คุณsprite ครับ

  • ถ้าให้เดา คุณลูกคงเป็นอย่างนั้นบ่อยมาก จนคุณแม่ชิน นั่งดูลูกขย้อนออกมาจนหมด แล้วจูงมือพากันเดินออกไป ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา ผมก็เดินไปกินที่ร้านเทียน เทียน อีกรอบ แต่ผิดหวังครับ มิใช่ว่าเขาไม่ขายเนื่องจากเป็นวันพระนะครับ แต่คนต่อคิวยาวกว่าวันที่อาจารย์ไปกินเสียอีก

เลยกินข้าวมันไก่ เฮง  เฮง แทน อยู่ตรงข้ามกัน ไม่มีใครเข้าแถวเลย

รสชาติเหรอ ลืมไปแล้วครับว่า เทียนเทียน เป็นยังไง มันหิวน่ะ

ว่าแต่ว่า ผมไม่ยักกะเห็นภาพบาดตาอย่างอาจารย์เลยนะ โชคดีจริง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท