ความหวานหรือน้ำตาลนั้นเปรียบเสมือนเพชรฆาต เพราะน้ำตาลหรือเจ้าความหวานนี้มีความสัมพันธ์กับโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง มะเร็ง โรคติดเชื้อ ซึมเศร้าหรือแม้กระทั่งการปวดท้องประจำเดือน และสิว เป็นต้น
น้ำตาลเป็นสารที่ให้พลังงานแต่ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการ (Empty Calrories)
เมื่อวันก่อนได้ไปฟัง Lecture ของ Dr. Tom Ballard ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการทางเลือกของสหรัฐอเมริกา เล่าถึง กฎ 10 ข้อพิชิตหวาน โดยยกตัวอย่าง case หญิงวัยทำงานที่เป็นเบาหวานและอ้วนซึ่งเป็นคนที่ติดน้ำตาลอย่างมาก โดยเธอได้ปฏิบัติตามกฎพิชิตหวานเหล่านี้ ทำให้เธอเลิกติดหวาน เลิกซึมเศร้าแถมยังคุมน้ำตาลและลดน้ำหนักได้
หนูติดหวานทำอย่างไรดี " 10 กฎพิชิตหวาน "
1. กินเป็นเวลาทั้งมื้อหลักและมื้อว่าง ไม่งดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง โดยเฉพาะมื้อเช้า
2. กินอาหารที่มีแหล่งโปรตีนทุกมื้อเพราะโปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยให้น้ำตาลคงตัวและสร้างมวลกล้ามเนื้อให้กับร่างกาย
3. เลือกกินไขมันชนิดดี "ไขมันชนิดไม่อิ่มตัว" เช่น น้ำมันมะกอก รำข้าว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหินมะพานต์ ถั่วเมล็ดอัลมอนต์ ฯ เพราะไขมันช่วยทำให้อิ่มท้อง ไม่หิวง่ายและระดับน้ำตาลคงที่
4. เลี่ยงการเติมน้ำตาลหรือกินน้ำตาลที่แอบแฝงมาในอาหารต่างๆ
5. กินอาหารกลุ่มข้าวแป้งที่ไม่ขัดสี เข่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมื้อ เมล็ดธัญพืช ขนมปังโฮลวีทฯ
6. เสริมวิตามินเกลือแร่ เช่น วิตามันบี โครเมียม สังกะสี แมกนีเซียม โอเมก้า 3 ฯ เนื่องจากการกินน้ำตาลจะทำให้สูญเสียวิตามินเหล่านี้ไป โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการหรือนักกำหนดอาหาร
7. กินอาหารอย่างช้าในแต่ละมื้ออาหาร เพื่อช่วยทำให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆ
8. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้อินซูลินในร่างกายทำงานได้ดี ช่วยทำให้คุมน้ำตาลได้ดึขึ้น
9. หาครอบครัวหรือเพื่อนที่ช่วยทำให้คุณพิชิตน้ำตาลได้
10. ถ้าปฏิบัติตามกฎข้อ 1-9 แล้วยังไม่รู้สึกดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการหรือนักกำหนดอาหาร
ปฏิมา พรพจมาน/นักกำหนดอาหาร