BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

แหลงลม


แหลงลม

เมื่อวานซืน โยมแม่เอาอาหารมาถวาย เป็นปีกหมึกผสมหมูสับผัดใส่ต้นหอมเล็กน้อย กับกุ้งหัวมันต้มน้ำผึ้ง...

กุ้งหัวมัน มีขนาดประมาณนิ้วชี้ มีมากในทะเลสาบสงขลา ผู้สนใจดู http://www.sklonline.com/shrimp.html...  นิยมนำมาต้มกับน้ำตาลตโหนดหรือน้ำตาลทราย เมื่อต้มไปจนน้ำแห้งแล้ว น้ำตาลจะจับที่ตัวกุ้งเหนียวๆ และตัวกุ้งจะออกสีแดงปนน้ำตาลเข้ม... 

สำนวนปักษ์ใต้จะเรียกอาหารที่ทำด้วยวิธีการนี้ว่า ต้มน้ำผึ้ง ซึ่งสามารถนำเนื้อ หมู ไก่ หรือปลา มาต้มได้ทั้งนั้น โดยเรียกไปตามชนิด เช่น หมูต้มน้ำผึ้ง ไก่ต้มน้าผึ้ง หรือ เป็ดต้มน้ำผึ้ง...  การต้มน้ำผึ้ง สามารถเก็บได้หลายวัน คงจะเป็นวิธีการถนอมอาหารในสมัยที่ยังไม่มีตู้เย็น... เดียวนี้ความนิยมปรุงอาหารทำนองนี้น้อยลง ยกเว้น กุ้งต้มน้ำผึ้ง (อาจเป็นเพราะอร่อยเป็นพิเศษ)...

หลายเดือนก่อน โยมแม่เคยเอามาถวายครั้งหนึ่งแล้ว... ผู้เขียนฉันไปแล้ว ตอนเย็นก็รู้สึกว่าเมื่อยไปตามรอบบั้นเอว และลงไปตามขาอ่อน เข่า อยู่ประมาณ ๒-๓ วัน ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่เรียกกันว่า ลมติดขัด คงจะกินอะไรผิดสำแดง และเรียกอาการทำนองนี้ว่า แสลงลม หรือปักษ์ใต้บ้านเราเรียกสั้นๆ ว่า แหลงลม

ผู้เขียนไม่เคยได้ยินว่า กุ้งหัวมันต้มน้ำผึ้งจะแหลงลมด้วย... เป็นครั้งก่อนก็ยังคิดว่า คงจะเป็นกุ้งที่มีสารอะไรตกค้าง หรือ น้ำตาลที่นำมาต้มคงจะมีสารปนเปื้อนบางอย่าง...  จึงไม่เชื่อว่า กุ้งหัวมันต้มน้ำผึ้งจะแหลงลมด้วย...

ครั้งนี้ ตอนที่จะฉัน ผู้เขียนรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ว่าจะแหลงลมอีก แต่คิดว่า คงจะไม่เป็นไร แต่ก็เป็นจนได้ ... ประสบการณ์ครั้งนี้ ทำให้ผู้เขียนจำไว้เป็นข้อมูลส่วนตัวว่า กุ้งหัวมันต้มน้ำผึ้ง จะพยายามไม่ฉันอีกแล้ว....

............

คนเรานี้ก็แปลก ตอนเด็กๆ คนแก่มักจะขอช่วยให้เอาด้ายร้อยรูเข็มให้... เราก็นึกว่า คนแก่ขี้เกียจ ชอบใช้เรา โดยแกล้งบอกว่า มองไม่เห็น... แต่เดียวนี้ ผู้เขียนก็มักจะใช้น้องเณรที่อยู่ใกล้ๆ ช่วยร้อยรูเข็มให้เป็นบางครั้ง เพราะสายตาของผู้เขียนก็มองไม่ค่อยจะเห็นรูเข็มแล้วเช่นเดียวกัน... นั่นคือ คำตอบว่า ผู้ใหญ่มิได้โกหกเรา

แหลงลม ก็ทำนองเดียวกัน ตอนเด็กๆ เราไม่เข้าใจ ว่าเป็นอย่างไร... ตอนนี้ ผู้เขียนเข้าใจแล้ว เริ่มมีบัญชีส่วนตัวเกี่ยวกับของแหลงลมส่วนตัว กล่าวคือ ของดอง ของแช่อิ่ม ฉันไม่ได้ ห้ามฉันเด็ดขาด... และใหม่ล่าสุดก็คือ กุ้งหัวมันต้มน้ำผึ้ง

.....

เมื่อกล่าวในทางธรรม การที่ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงไป มีข้อจำกัดในการใช้ได้น้อยลงทำนองนี้ ท่านว่า เทวทูตมาเยี่ยม นั่นคือ มาบอกเราว่า รู้มั้ย ? แก่แล้ว ความตายเริ่มเข้ามาใกล้แล้วนะ ... ประมาณนี้

เทวทูต คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นั่นเอง แม้ว่าชาวพุทธส่วนใหญ่จะรู้เรื่องนี้ แต่ผู้เขียนคิดว่า เดียวนี้มีน้อยคนที่จะเอามาเป็นอารมณ์แล้วพิจารณา...

คนเฒ่าคนแก่ที่เป็นคนธัมมะธัมโมในสมัยก่อน เมื่อมีข้อจำกัดด้านร่างกาย ความไม่สะดวกบางอย่างทำนองนี้เกิดขึ้น ท่านก็พิจารณาเห็นว่า สิ่งเหล่านี้คือข้อตักเตือนจากเทวทูต เป็นเจตนาดีของเทวทูตที่คอยมาตักเตือนเรา มิให้เราหลงมัวเมา... ประมาณนี้

เพราะคนปัจจุบันส่วนใหญ่ เข้าไม่ถึงเจตนาดีของเทวทูตที่ค่อยมาตักเตือนทำนองนี้ ทำให้อาหารด้านสุขภาพค่อยๆ ขายดียิ่งขึ้น อาหารชีวจิตก็ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งบางชนิดก็มีราคาแพงมาก แต่คนก็ยังถวิลหาตามคำโฆษณาชวนเชื่อนานับปการ.... 

ผู้เขียนจะรอดูว่า อาหารสุขภาพหรืออาหารชีวจิตเหล่านั้น จะยืดความหนุ่ม ความสาว หรืออายุของผู้ที่หลงไหลเหล่านั้นต่อไปได้อีกกิ่ปี....

              

หมายเลขบันทึก: 100863เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2007 10:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท