เผชิญความตายอย่างสงบ ตอน 4: ถ้าเลือกการตายได้ จะตายแบบไหน?


ถ้าเลือกการตายได้ จะตายแบบไหน?

คำตอบกว้างๆก็คือ ตายดี บ้าง ตายอย่างมีศักด์ศรี (dead with dignity) บ้าง

คืออย่างไรล่ะ?

นี่คือโจทย์ที่ต้องขบให้แตก พวกเราก็รีบไปค้นหา "นิยาม" ของตายดีกันใหญ่ ค้นหานิยามของ "ศักดิ์ศรี" กันใหญ่ บางคนถึงขนาดไปค้นหานิยามของ "ตาย" มาด้วย เดี๋ยวจะพลาดไปเอา ดี เอา ศักดิ์ศรี ของอะไรที่ไม่ได้ ตายจริง มาจะยิ่งงงกันใหญ่

พอเริ่มค้นก็งงแล้ว เริ่มค้นก็สับสนแล้ว

ผมเขียนพาดพิงถึงปรากฏการณ์นี้ใน มรณวิทยา กับ แพทยศาสตรศึกษา เมื่อเดือนที่แล้ว เรื่องตายในสังคมยุค linear science หรือ Newton Era นี่เป็นเรื่องอะไรที่ต้องห้าม อัปมงคล แต่คนที่ตามยุคควอนตัมทัน ตามมาอยู่ในยุคไอสไตน์ทัน อาศัยอยู่ใน Chaotic-holistic-interconnectedness world ก็จะมีปัญหาน้อยกว่า

ที่จริง "ตายดี" อาจจะไม่มีนิยาม เพราะการที่เราพยายามจะใช้ wording หรือภาษาที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาบรรยายอะไรบางอย่าง ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มองเห็น หรือจับต้อง หรือตีตรา เป็นความผิดพลาดตั้งแต่ต้น นึกถึงหนังสือ อยู่กับมาร (Living with the devil) ของ Stephen Batchelor ที่คุณสดใส ขันติวรพงศ์แปล ได้อย่างสวยงามน่าพิศวงขึ้นมาทันที (ต้องขอบคุณเจไดวฆ ที่แนะนำด้วยครับ) การที่เราพยายามจัด category ของมาร ว่ามีกี่แบบๆ เป็นการพาตัวไปตกหลุมพรางของมาร เพราะมารนั้นลื่นไหล เจ้าเล่ห์เพทุบายนัก ตอนที่เราหลงจัดกลุ่มเสร็จ มันก็จะมาหาในอีกรูปแบบนอกเหนือจากที่เราจัดเสมอ

ผมเขียนตอบการบ้านไป 4 ข้อ ตามที่ตอนนั้นพยายาม "คั้น" ออกมาเป็นสิ่งจับต้องได้

  1. ไม่มีความเจ็บปวดทรมาน
  2. ไม่มีภาระคั่งค้าง
  3. คนที่รักเป็นห่วง มีความเข้าใจ และสามารถยอมรับหรือทำใจได้
  4. ขอมีสติสมบูรณ์จวบจนวาระสุดท้าย

ข้อหลังนี่เขียนไปแล้ว บางคนอาจจะนึกถึงหนังไทยยุคหนึ่ง ที่กว่าตัวเอกจะตาย ถูกยิ่งไปกว่า 100 นัด ก็สามารถสั่งเสีย เรียบเรียงประวัติ ไล่ลำดับญาติประมาณ 15 นาที ทำหน้าหล่อ (หรือสวย) อีก 3 นาที ขยับตัวเฮือกๆอีก 7 นาทีเศษๆ (พอให้คนดูรู้ว่าเตรียมตัวสำรวจข้าวของเพื่อจะเดินออกจากโรงภาพยนต์ได้) แต่ไม่ใช่นะครับ ผมอยากมีสติเพื่อจะขอ "พิจารณาความตายด้วยตนเอง เป็นครั้งสุดท้าย" ให้เห็นจริงเสียทีเถิด

ในรายการที่เพื่อนๆผู้เข้าอบรมใส่มาก็มีหลากหลายมากครับ อีกอย่างที่เป็นที่ยอดนิยมคือ ขอตายสวย นั่นคือร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์ (ผมถามไปว่าหมายถึงอวัยวะภายในหรือภายนอก คำตอบก็มีหลากหลายอีกนะครับ บางคนบอกหมดเลย บางคนบอกเอาแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็พอ บางคนครบไม่พอ ขอแต่งหน้า แต่งตาเป็นครั้งสุดท้ายด้วย) ซึ่งน่าสนใจ แสดงว่าเรารักห่วงใยในร่างที่เราทะนุถนอมใช้มานานนี่มากทีเดียว

หลวงพี่ไพศาลให้ข้อคิดว่าในบรรดารายการ "ตายดี" ของเรานั้น มีข้อใดบ้างที่เราพอจะ "เตรียม" ได้ หรือเรียกว่าพอจะมี sense of agency ในการที่จะควบคุมให้มันเกิดขึ่นได้ เพราะจะมีบางประการที่จะนอกเหนืออำนาจของตัวเรา หรือแม้กระทั่งนอกเหนือสิ่งที่หมอ พยาบาล ญาติๆที่รู้ว่าเราต้องการอย่างไร จะจัดทำให้ได้ในบริบทเมื่อมาถึง

ประเด็นนี้น่าสนใจ เช่น การเกิดอุบัติเหตุนั้น ต่อให้เราควบคุม ไม่ประมาท ก็จะมีมารทะเร่อทะร่าขับสิบล้อมาชนเราแม้แต่ตอนนั่งในบ้านก็เป็นไปได้ งานการภาระกิจดูเหมือนจะมีไม่หมดไม่สิ้น อารมณ์คนรอบข้างรึก็ผันแปรปรวน ขนาดของเราเองก็ยังต้องฝึกปรืออย่างตั้งใจ เขาจะเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบได้ ถ้าปัจจัยต่างๆที่เราอยากให้เกิดนั้น มันไม่เกิดล่ะ เราจะทุกข์ไหม เราจะเป็นอย่างไร?

อะไรที่จะเป็นภูมิคุ้มกันของการ "ตายไม่ดี" ได้? มีหรือไม่? และทำอย่างไร?

อิกคิวซังนั่งสมาธิ เสียงบักฮื้อเคาะดังป๊อก ป๊อก ป๊อก ป๊อก ไม่เห็นมีใคร ยูเรกา ออกมาเลย ปิ๊งแวบดูจะเหือดหายไป

ขออภิปรายต่อตอนหน้า ต้องไปบรรยายแล้วครับ

 

หมายเลขบันทึก: 85140เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2007 08:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม 2012 23:32 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับพี่  ประทับใจมากเลยครับ ที่ 8th HA national forum  ช่วง section Peace and dignity for the dying  ตามมารียนรู้ต่อใน blog g2k ครับ

พี่เลือกคำตอบ 4 ข้อได้ตรงใจผมเลยครับ 

เมื่อ  2  สัปดาห์ก่อน ไปเยี่ยมบ้าน ลุงคนหนึ่ง อายุมากแล้วครับ อยู่ดี ๆ ก็ทรุดลงไปเรื่อย ๆ พยาบาล pcu เลยชวนผม ไปเยี่ยมบ้าน   ก่อนหน้าผมไปเยี่ยม 4-5 วัน แกยังพูดได้ คุณป้าภรรยาแก ถามว่าจะไป รพ.ไหม แกบอกว่า ไม่ไป ไม่เจ็บปวดอะไร  แกบอกว่า แกหมดแรงลงเฉย ๆ   

วันที่ผมไปเยี่ยม แกพูดไม่ได้แล้วครับ ป้ากับ ลูก ๆ เตรียมการทุกอย่างพร้อม  ทำความสะอาดบ้าน เรียกลูกหลานเท่าที่จะเรียกได้มา  ผมถามแกว่าจะไป โรงพยาบาลไหม ป้าบอกว่าคงไม่ต้องไปแล้วละ พูดพร้อมยิ้ม ๆ  ลูกสาวนั่งอยู่ข้าง ๆ ก็พยักหน้าตาม  แล้วแกก็หันไปถาม  คุณลุง ว่าจะไปไหม  คุณลุงส่ายหน้า ( พูดไม่ไหวแล้ว )  หายใจเบา ๆ

วันต่อมา หัวหน้า pcu โทรมาแจ้งข่าว  ว่าแกเสียชีวิตแล้ว  บอกว่าเราน่าจะให้น้ำเกลือสักหน่อย จะได้ช่วยแกมีแรงก่อนตาย  ผมบอกว่า " ไม่เป็นไรหรอกพี่ คุณลุง กับ ลูกเมีย แกเตรียมตัวมาพอสมควรแล้ว  ผมนึกในใจว่า ลุงแก ตายดี จริง ๆ

ผมอ่าน คำตอบการบ้านของพี่ แล้ว ใช่เลยครับ

ขอเป็นลูกศิษย์ด้วยคนนะครับ

สวัสดีครับจิ้น

ห่างกันแค่ 2 รุ่น อย่าเป็นเลยครับลูกศิษย์ ยังไม่อยากแก่เกินวัย (สงสัยต้องเปลี่ยนรูปที่ blog นี้ซะแล้ว มีแต่คนทักว่าตัวจริงเด็กกว่าในรูปเป็นกอง)

ผมขออนุโมทนาในจิตเป็นหมออันประเสริฐของจิ้นด้วยครับ ผมไม่ค่อยมีเวลาออกไปอยู่กับชาวบ้านแบบจิ้น แต่ได้ยิน ได้เห็น ได้ทราบกิจกรรมอย่างที่จิ้นทำ ก็เกื้อกูลการุณจิตใจผมอย่างยิ่งแล้ว

วันก่อนผมไปบรรยาย palliative care ที่ศูนย์มะเร็งสุราษฎรธานี คนจดแอบมากระซิบว่ามีน้องพยาบาลคนนึงพูดว่า "รู้สึกรักอาชีพพยาบาลมากขึ้นเป็นกอง" ผมก็แทบตัวลอย ฟันธงว่าบรรยายครั้งนี้ต้องถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว ขอให้มีคนได้เติมพลัง รักในอาชีพพยาบาลเพิ่มมาหนึ่งคน คนไข้ก็จะได้ประโยชน์มากมายมหาศาล

ผมยังต้องพึ่งพาพลังบริสุทธิ์จากสิ่งที่จิ้นทำต่อไปเรื่อยๆนะครับ

keep up the good work, Our Gangs ARE ALL HERE!! what the hell do we care!!

ขอบคุณสำหรับ กำลังใจครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจ สำหรับ คนทำงานครับ

จบจากศิริราช  กันมานานแล้ว ก็ยังได้ตามมาเรียนรู้กับ พี่ต่ออีกนะครับ  เพราะ G2K แท้ๆ เชียว

Our Gangs ARE ALL HERE!! what the hell do we care!!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท