ประสบการณ์ อ่าน เขียน แปล กระบวนทัศน์ใหม่ (14)


คืนที่สาม วงชาเขียว

คืนสุดท้ายของรุ่นหนึ่ง อ่าน เขียน แปล กระบวนทัศน์ใหม่ ว่าที่ graduate ดูเนือยๆลงไปเล็กน้อย แต่ทุกคนยังไม่ลืมแผนการตั้งวงชาเขียวในคืนนี้ แม้ว่า voice dialogue จะใช้เวลามากกว่าปกติจนเดินกลับแป้นเกร็ดประมาณ 4 ทุ่มกว่า แต่เราก็ดำเนินตามแผน อาจจะเป็น "วงชา" ที่ดึกที่สุดที่เคยตั้งมา

ซือแป๋ฌานเดชให้เกียรติมาร่วมวง ท่านแอ๊ดอารมณ์ดีก็มา join (เธอมีข้ออ้างชัดเจนว่า ขัดท่านเจไดวฆ ไม่ได้ จำเป็นจริงๆต้องมาร่วม) พี่วิรัช ท่านเจไดวฆ ท่านเก่ง ท่านศรชัย อา... น้องอะไรหว่าอีกหนึ่งคน ตายแล้ว ขออโหสิด้วย ผมลืมชื่อไปแล้ว (น่ามหัศจรรย์ที่การแต่งงานมีผลทำให้ศูนย์ความจำชื่อผู้หญิงเสียหายไปเยอะ ไม่รู้ตอนเราหลับมีใครแอบมาอะไรรึเปล่า) เราเดินวนไปมาหาที่นั่งอยู่นาน (ทั้งๆที่ไม่มีคนนั่งเลยสักโต๊ะ) นัยว่ามุมไหนที่มันจะเก็บเสียงมากที่สุด เสียงคุยน่ะไม่เท่าไร เสียงหัวเราะตอนสี่ทุ่มนี่อาจจะเชื้อเชิญเคหวัตถุไม่พึงประสงค์มาได้ (เจไดวฆ บอกว่าไม่เป็นไรดอก เขาโผล่มาเห็นหน้าเจ้าแอ๊ด ก็จะรีบหลบกลับไปเอง ผมมองไปรอบๆ เห็นท่านอาจารย์ฌานเดชอีกคนนั่งอยู่ ก็อุ่นใจ อีกหลายคิวกว่าจะถึงเรา แฮ่ะๆ)

เราเริ่มจากการนินทาคนโน้นคนนี้ เอ... ไม่ใช่สิ มาจากการทบทวนบทเรียนต่างหาก พูดกันถึง 4 ทิศ แล้วก็มียกตัวอย่าง อ.ฌานเดชก็ยกตัวอย่างพี่วิธาน หนูผู้น่ารัก เราก็เพิ่มภาพพจน์ (The Figure of Speech) ว่าหนูควรจะเป็นยังไงได้ชัดเจนขึ้นเยอะ แถมเรียกเสียงหัวเราะยกแรกๆได้ (หัวเราะเพราะความรักจริงๆครับ พี่วิธาน พี่น่าจะนอนฝันดี ไม่มีสะดุ้งอะไรเลย ใช่ไหมครับ ใช่ไหมครับ) ส่วนกระทิงนั้นมีให้เห็นอยู่แล้ว รวมทั้งกระทิงติดปีกอย่างท่านเจไดวฆ (อะไรเอ่ยตัวใหญ่ มีเขาโค้งงอนสองข้าง มีปีก บินสูง ชนทุกอย่างบนพื้นผิว.... ให้เวลา 3 วินาที...)

คุยกันไปมา วกมาที่แอ๊ดเมื่อไรไม่ทราบ (สงสัยเป็นตอนรินชาเขียว) แอ๊ดก็เล่าเรื่องที่มาความเป็นไปของความเป็นแอ๊ดให้ฟัง ซึ่งน่าฟังมาก เป็น version ที่น่าจะเล่าในวงใหญ่เสียด้วยซ้ำ อาจารย์ฌานเดช โยนคำถามสะท้อนจิตภายใน สะท้อนการรับรู้ภายนอก เติมไปเป็นระยะๆ ดูเหมือนอาจารย์กำลังแอบสอนการเป็นกระบวนกรให้ (รึเปล่า..... มั้ง) แอ๊ดก็พรั่งพรูประวัติออกมา (ขอโทษนะแอ๊ด... ยังกะคนไข้ผมก่อนตายแน่ะ เหมือนจริงๆ) พูดถึงผู้มีพระคุณที่ "ขอเถอะแอ๊ด" คำเดียว แต่ผสมด้วยบารมีแห่งความรัก ความปราถนาดี แอ๊ดก็เปลี่ยนวิถีชีวิต ณ บัดนั้น พูดไม่ทันขาดคำ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดัง เจ้าแอ๊ดรับ "อ้าว พีเองหรอกหรือ!!" ปรากฏว่าเป็นพี่คนที่กำลังพูดถึง โทรเข้ามาพอดี อะไรมันจะ co-incident ขนาดนั้นล่ะนี่!! วงชาเขียวมองหน้ากันไปมา แล้วก็พร้อมใจกันเติมชาเขียวเพิ่ม ท่านเก่งก็ไปหามาเพิ่มอีกสองขวดทันทีเหมือนกัน

จากที่แอ๊ดเล่าให้ฟัง ทำให้เราสำเนียกว่า การที่เราจะ oversimplify ชีวิตของใครสักคน ว่าสิ่งนี้เป็นตัวการทำให้เกิดสิ่งนั้น เป็นเรื่องที่โง่เขลามาก คนๆหนึ่งนั้นสะสม theta มาเป็นเวลานาน สิ่งเหล่านั้น ทั้งหมด ที่ประกอบเป็นตัวเขา เหมือนอย่างเรื่องผลึกเกลือแกงที่เล่าไปในตอนแรกๆนั้นเอง แม้ว่าจู่ๆจะมีกระสอบเกลือเทตูมลงมา เกิดผลึก แต่เกลือเดิมในแก้วนั้น ที่รอจับตัวมานานนับปี สิบปี ก็มีส่วนอย่างมากในการที่จะทำให้เกิดรูปร่าง ความแข็งแกร่ง และความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงของผลึกอย่างแน่นอน

เราพึ่งค้นพบว่างานอ่าน เขียน แปล ครั้งนี้ มีคนที่จะต้องไปพูดที่ National Forum ของ พรพ. อยู่ถึง 5 คน เรียงจากท่านโยดาและพี่วิธานในวันพุธที่ 14 ผมพูดในวันพฤหัสบดีที่ 15 และพี่วิรัชกับท่านเจไดวฆ จะปิดท้ายรายการ share ประสบการณ์ ณ นครพิงค์และสันทรายในวันศุกร์ที่ 16 ช่างเป็น co-incident (อีกแล้ว !!) เราก็คุยกัน (เล่นๆ) ว่าจะวาง plot ต่อเนื่อง เป็นหมัดหนึ่ง สอง สาม ดีหรือไม่ แต่แล้วก็เชื่อใน ฌานทัศนะ ว่าสิ่งที่ดีที่สุดกำลังจะค่อยๆเกิดขึ้นเอง พลังแห่งคนฟัง พลังแห่งการหมุนรอบตัวเองของโลก และตำแหน่งแห่งที่ของระบบสุริยะบนกาแลกซี่ทางช้างเผือกนี้ ก็จะเลือกวิธีที่งานนี้ออกมาในที่สุด พี่วิรัชชี้ให้เห็นถึง "เจตนา" น่าจะเป็นตัวกำหนด merit ทั้งของงานและของคน และว่าคนเรานั้นเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา "ทุกๆคน" ด้วย ดังนั้น เราน่าจะมี hope อยู่เสมอ (แม้ในความมืดมิดที่สุดก้นหีบแพนดอรา ก็เป็นที่อยู่อาศัยของ HOPE เสมอ)

ในที่สุด คืนสุดท้ายก็มาถึง เราจะ graduate ไหมหนอ หรือว่าสอบตกต้องกลับมาใหม่ (คำพูดของ อ.ประสาทกลับมาในโสตสำนึกทันที ที่ว่าอาจารย์เคยสอบ top physics ครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า ครูให้สอบใหม่ทั้งชั้นเรียน !!! what a life!) หลายๆคนที่ถูกโยดา reprimand ทีเล่นทีจริง ไม่เขียน ไม่ให้กลับบ้าน จนเพื่อนๆร่วมชั้นเป็นห่วง (กลัวตัวเองจะไม่ได้กลับด้วย) ต้องลุ้น จนไม่ต้องลุ้นเพราะผ่านฉลุย แบบที่เรียกว่าถ้าครูคนเดิมมาเห็น ต้องประกาศสอบใหม่อีกครั้งแน่ๆ

วันพรุ่งนี้ก็จะครบเจ็ดวันหลังการอบรม ผมต้องเดินทางไป กทม. คืนนี้แล้ว ไม่แน่ใจว่าสามารถ landing ลงได้ทันเวลาหรือไม่ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญใช่ไหมครับ มันจะจบตอนที่มันจะจบเท่านั้น

 

หมายเลขบันทึก: 83650เขียนเมื่อ 13 มีนาคม 2007 10:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท