หัดขี่จักรยานกับคุณยาย


หัดขี่จักรยานกับคุณยาย.....เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 40 กว่าปีแล้ว  สมัยนั้นยังมี จีไอ อเมริกันอยู่ในเมืองไทยมากมาย  โดยเฉพาะรั้วทหารที่ครูอ้อยเคยอยู่เมื่อเป็นเด็ก 

ไม่ว่าจะเป็น  อุปกรณ์  ยวดยาน  อาคาร  สถานที่  บุคลากร  คนไทยจะได้รับผลพวงมาจาก อเมริกันจีไอมากมาย   ครูอ้อยไม่ได้นิยมชาวต่างประเทศหรอก  เพราะตอนเด็กๆ  ไม่ได้คิดอะไรมากมาย  คิดแต่ว่า....สนุก  กินอิ่ม  ไปวันๆ  

ในรุ่นเดียวกันกับครูอ้อย   เป็นเพื่อนผู้ชาย   เขาถีบจักรยาน  คำว่า...จักรยาน...คำกริยาที่ใช้...ควรจะเป็นถีบมากกว่าขี่...แต่ครูอ้อยกลัวคำว่า...ถีบ...จึงขอเลี่ยงเป็น..ขี่..ละไว้ในฐานที่เข้าใจ..ก็แล้วกัน  

เพื่อนๆของครูอ้อยในวัยเดียวกัน  ก็จะเป็นแต่ผู้ชาย  ชอบไปเล่นในค่าย  เพราะฝรั่ง จีไอ มีของเล่น และอะไรที่แปลกๆ  เด็กทั่วไปไม่เคยเห็น  ไม่ว่าจะเป็นของเล่น...แต่ที่เตะตาครูอ้อยที่สุดก็คือ.....จักรยาน  

จักรยานของคุณพ่อ  เป็นจักรยานตัวผู้.....มีไอ้เหล็กคั่นตรงกลาง..เวลาครูอ้อยจะขี่มัน  ก็แสนจะยากเย็น  จึงขี่มันไม่เป็นสักที...

แต่แหม..จักรยานของจีไอ..คนนั้น..น่าสนใจ  เป็นจักรยานสุภาพสตรี   ครูอ้อยไม่เคยเห็น.....คงจะเป็นรุ่นแรกๆที่เป็นของผู้หญิง...ทำอย่างไรเล่า..จึงจะได้ขี่มัน....

คุณยาย  คุณยายจ๋า...หนูอยากขี่จักรยานคันนั้นน่ะค่ะ .....ครูอ้อยบอกกับคุณยาย   โดยไม่คิดเลยว่า  คุณยายจะหาวิธีให้ได้จักรยานคันนั้นมาให้หลานอ้อยขี่...

ทุกๆวัน  คุณยายจะตามคุณแม่ไปทำงานในค่ายฝรั่ง  ขณะนั้นคุณแม่ทำงานสวัสดิการ  ในหน่วยซักรีด  และในบ้าน...แอร์เฮ้าส์  ที่ฝรั่ง จีไอ  จะนิยมมานั่งดริ๊งค์พักผ่อนกันที่นี่ 

คุณแม่กับคุณยายไม่ชอบให้ครูอ้อยไปเพ่นพ่านแถวนี้.....เพราะครูอ้อยเป็นลูกผู้หญิง....ครูอ้อยยังไม่เข้าใจเลยว่า....การเป็นลูกผู้หญิงนั้น  จะเดินเข้าไปเล่นในแอร์เฮ้าส์บ้างไม่ได้หรือ...ที่เจ้าเพื่อนผู้ชายยังเข้าไปได้เลย...

ครูอ้อยเก็บความสงสัยไว้   คุณยายก็ไปทำงานที่แอร์เฮ้าส์ด้วย...ปูโต๊ะ  ทำความสะอาด  ทุกวัน  คุณยายจะได้...ขี้ฝรั่งมาด้วย...

ครูอ้อยสงสัยว่า..ทำไมคุณยายจึงเรียกว่า..ขี้ฝรั่ง...คุณยายหัวเราะและบอกว่า  ฝรั่งมันเอาขี้ใส่กระป๋องแล้วอัดมาจากเมืองนอกมากินในเมืองไทย...แต่อูย...ขี้ก็ขี้เถอะ..ครูอ้อยคิด.....มันอร่อย  หวานมัน  มีส่วนผสมหลายอย่าง

ประเภทขนมในกระป๋อง..ซึ่งในสมัยนั้น  เด็กไทยทั่วไปไม่ค่อยจะได้กิน  นอกจากคุณพ่อคุณแม่จะทำงานกับฝรั่ง....ครูอ้อยโชคดีอีกนั่นล่ะที่คุณพ่อเป็นทหารอากาศ  ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นล่ามนี่ล่ะค่ะ  จะเรียกว่า  interpreter  ก็ได้มั้งคะ 

คุณพ่อจะไปทำงานที่โคราช  ที่นั่นมีฐานทัพ..

วกกลับมาเรื่องขี่จักรยานดีกว่า....คุณยายก็หาวิธีจะให้หลานขี่จักรยานคันนั้นจนได้ 

วันหนึ่ง  ฝรั่งที่เป็นเจ้าของจักรยานคันนั้น  เขาขี่จักรยานมาที่สนามกีฬาของกองทัพอากาศ   มีลู่วิ่งด้วย  เท่าที่จำได้   คุณยายบอกว่า.....ให้ครูอ้อยวิ่งเล่นแถวนี้  เดี๋ยวคุณยายจัดการให้    มาทีหลังจึงรู้ว่า...เป็นแผนของคุณยายพยอม นั่นเอง

ครูอ้อยก็วิ่งตามฝรั่งคนนั้นล่ะค่ะ  ครูอ้อยเห็นจักรยานมันจอดอยู่ริมลู่    ด้วยความเป็นเด็กที่อยากได้  จึงเดินไปจับ  ตอนนั้นขับขี่ไม่เป็นหรอกค่ะ  แต่อยากขี่เป็น...ฝรั่งหันมาเห็น  และยิ้ม...

ครูอ้อยกลัวเขามากเลย..ครูอ้อยเรียนอยู่ชั้น ป.5 ตอนนั้น  พูดภาษาอังกฤษได้นิดนึง   ครูอ้อยฟังฝรั่งไม่รู้เรื่อง  แต่..ครูอ้อยบอกกับฝรั่งว่า...  I love it.  ฝรั่ง ร้อง  โอ......แล้วอะไรต่อไปครูอ้อยก็ฟังไม่รู้เรื่อง 

ฝรั่งเอาจักรยานตั้ง  และชี้โบ๊เบ๊ให้ครูอ้อยขึ้นขี่นั่นเอง....และก็ผลักให้ครูอ้อยขี่ไป   แต่ครูอ้อยกลัวมาก  จึงทำท่าจะล้ม  ทำแบบนี้สัก 3 ครั้ง   ครูอ้อยกลัวเสียงฝรั่งคนนี้มากเลย  เสียงดัง  แต่ใจดี   

ล้มหลายครั้ง   อานจักรยานกระแทกกล่องดวงใจของครูอ้อยก็หลายครั้ง..ซูดส์ส์ส์..อดทน  อดทน..ซูดส์ส์ส์    แล้วหัวเข่าก็แตก  ..ซูดส์ส์ส์..ร้องไป  ฝรั่งก็วิ่งตามไปด้วย  สักเกือบรอบสนามฟุตบอลในลู่วิ่ง..

ครูอ้อยก็บอกว่าเหนื่อย...ฝรั่งพูดอะไรไม่รู้เรื่อง  แต่ครูอ้อยพูดอยู่นั่นว่า...I love it.  ฝรั่งร้อง  โอ..แล้วก็จับจักรยานตั้งอีก  ..

คราวนี้ฝรั่งแนะนำให้และทำท่าทางใบ้  ให้ครูอ้อยมองไปไกลๆ  และจับแฮนด์ให้มั่น   พร้อมกับใช้เท้าถีบไปแรงๆ  ...สัก 2 ทีที่จะล้ม  พอทีที่ 3   ครูอ้อยถีบไปได้สัก 2 ล้อหมุน  หันมาไม่เห็นฝรั่งจับท้าย...ครูอ้อยเลยล้มเลย....

ฝรั่งวิ่งตามมา  แล้วหัวเราะ  ที่จำได้ฝรั่งพูด...Oh! You can.... แล้วครูอ้อยก็ทำตามที่ฝรั่งแนะนำ  ครูอ้อยขี่ไปสัก ครึ่งรอบสนาม  มองไปไกลๆ  เห็น.....คุณยายค่ะ 

คุณยายของครูอ้อย  ยืนอยู่ที่หลังบ้าน  แอร์เฮ้าส์ที่คุณยายทำงาน  คุณยายโบกมือไปมา  และ  ปรบมือให้ครูอ้อยค่ะ 

ครูอ้อยเลยลุกขึ้น  ขี่อีกครั้ง...เจ็บหัวเข่า  และเจ็บมากๆที่กล่องดวงใจของครูอ้อยค่ะ...ซูดส์ส์ส์ส์...อูยอูย 

คุณยาย..คุณยายจ๋า...

หมายเลขบันทึก: 137286เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2007 06:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ครูอ้อยค่ะ อ่านบันทึกถึงคุณยายของครูอ้อยหลายบันทึก ประทับใจคุณยายคุณหลานจังคะ หมูไม่เคยเจอหรือรู้จักคุณยายตัวเอง เพราะแม่ข้ามมาจากเวียงจันทร์ พอเกิดการยึดเมือง ครอบครัวแม่ของหมูก็สูญหายไป บันทึกนี้หวนรำลึกนึกถึงการหัดจักรยานครั้งแรกด้วยคะ อิ อิ อิ

สวัสดีค่ะเพื่อน...MOO

  • พอโตเป็นสาว เขาพูดกันเรื่อง พรหมจารีย์ และบอกว่า พวกขี่จักรยาน เยื่อพรหมจารีย์ขาดสะบั้นไปตั้งนานแล้ว...ครูอ้อยเลยนึกถึง...จุก...ซูดส์ส์ส์..อิอิ
  • คุณยาย  เป็นชีวิตของครูอ้อยเลยค่ะ..แล้วติดตามเรื่องซึ้งๆเศร้าๆต่อไปค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ..คิดถึงค่ะ

  • ขำ ขำ ใครที่เคยหัดจักรยานจะรู้ว่าต้องเจ็บตัวตรงไหนบ้าง
  • ใครไม่เคยหัดก็ไม่บอก 555  ต้องไปลองหัดเอง
  • คิดว่าจักรยานหัดยากกว่ารถทุกประเภท
  • ขอบคุณครูอ้อยค่ะ 

สวัสดีค่ะน้องรักษ์.....RAK-NA

แสดงว่าเคยขี่จักรยานมาแล้วใช่ไหมคะ..ซูดส์ส์ส์  ไหมคะ..อิอิ

ครูอ้อยขา...

ตอนนี้เลิก..ซูดส์ส์ส์ส์...อูยอูย.....หรือยังคะ

อิอิอิ

"ความพยายามอยู่ที่ไหน...ความพยายามก็อยู่แถวๆ นั้นแหล่ะค่ะ"

ฮิฮิ

สวัสดีค่ะน้อง....Gutjang

ครูอ้อยมักจะมีความพยายามทุกครั้งที่จะทำอะไร  แต่ความพยายาม..ที่จะต้อง....ซูดส์ส์ส์ส์...นี่..ไม่อาว..ดีกว่า...อิอิ..ขำขำ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท