ขึ้นลงเป็นนิสัย


เมื่อต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นวัน ๆ วันละหลาย ๆ ชั่วโมง ก็รู้สึกว่าแต่ละวันเมื่อยล้าไปหมดค่ะ

ตอนนี้กำลังสร้างนิสัยใหม่ให้กับตนเอง คือเรื่องการเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ เพื่อให้ตัวเองได้ออกกำลังกายสบายชีวีบ้าง ( แต่ตอนเย็นๆก็พยายามไปออกกำลังกายนะคะ แอโรบิก ประมาณสัปดาห์ละ 3ครั้งค่ะ)

แรกๆ ก็เดินลงก่อนค่ะ 5 ชั้น ไม่มีปัญหา เพราะเวลาเดินลงสบายมาก  แต่ขึ้นบันได้ 5 ชั้นนี่สิคะไม่ค่อยจะไหวเลย เลยใช้วิธีคือ ตอนเช้ามาทำงาน กดลิฟท์ถึงชั้น 3 แล้วเดินบันไดถึงชั้น 5 ทำแบบนี้จนรู้สึกว่าน่าจะลองเป็น 5 ชั้นค่ะ เพราะนึกถึงตอนเรียนต้องเดินถึง 5 ชั้นเป็นประจำ ยังทำได้เลย แต่เมื่อมาทำงานการที่เราใช้ลิฟท์ตลอดทำให้เสียนิสัย เคยตัว และขี้เกียจไปหมด  

พยายามขึ้นลงบันไดให้เป็นนิสัยค่ะ ยกเว้นว่าหอบของพะรุงพะรัง หรือวันไหนอยากสวยใส่ส้นสูงมาก็เลยเป็นอุปสรรคการเดิน ทำให้ขึ้นลง 5 ชั้นไม่ไหว ก็ใช้ลิฟท์เหมือนกัน

นอกจากนี้เพื่อผ่อนคลายอาการเมื่อล้าจากการนั่งทำงานนานๆ ก็พยายามทำอะไรด้วยตัวเอง อย่างการส่งงานทาง MSN หรือการที่จะโทรไปถามงาน บางครั้งก็ใช้วิธีเดินไปถามแทนค่ะ เพราะนั่งตลอดหลายๆชั่วโมงไม่ลุกจากเก้าอี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ  แถมวันๆหนึ่งก็จะไม่เจอเพื่อนร่วมงานที่นั่งคนละห้องเลย

หมายเลขบันทึก: 113838เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2007 16:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2015 12:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เป็นวิธีการที่ดีครับ ขอแชร์ประสบการณ์ในส่วนของผม ทางที่ทำงานจัดให้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ทำงานหนึ่งคนต่อหนึ่งเครื่อง  ผมใช้ช่างติดตั้งคอมฯไว้ที่เครื่อง print รวมเพื่อป้องกันการนั่งทำงานกับเครื่องคอมฯ นาน แล้วร้สึกตาลาย เมื่อย ทำให้ผมต้องเดินไปหยิบเอกสารที่  print out ถื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบถจะได้ไม่มีอาการเมื่อยล้าจากการดูหน้าจอคอมฯ นาน ๆ

คุณพิชชาครับ

ขอแสดงความเห็นแย้งนิด เพื่อเป็นข้อเตือนใจนะครับ

ว่าการขึ้นลงบันได อาจดูเหมือนได้ออกกำลังกาย แต่ก็มีโทษเหมือนกัน คืออาจเร่งให้ ข้อเข่าเสื่อม เร็วขึ้น เพราะเข่าต้องแบกน้ำหนักมากขึ้น โดยเฉพาะขาลง

อาจารย์หมอธวัช ประสาทฤทธา จาก โรงพยาบาลเลิศสิน เตือนหนุ่มๆสาวๆ หลายครั้งว่า ให้ถนอมๆเข่าไว้หน่อย แก่ตัวไปจะลำบาก

อาจารย์แนะนำว่า หากมีลิฟท์ให้ ก็ควรจะเลือกขึ้นลงโดยลิฟท์

ว่างๆ ผมจะ search ข้อมูลมาเล่าให้ฟังครับ

        สุขภาพต้องรักษา  กิริยาต้องงดงาม

การออกกำลังกายก็ดีแล้วครับ... แต่การกลัวการเสื่อมของข้อเพราะเดินขึ้นลงบันใดดูจะถนอมตัวมากไป โบราณว่า (ของกินไม่กินนานไว้ก็เน่า ของเก่าไม่เล่าก็ลืม) ยิ่งไม่ใช้ยิ่งเสื่อมเร็วเพราะร่างกายเกิดมาเพื่อใช้งาน...ผมเห็นปู่ตาย่ายายผมเดินทำงานในท้องนา เดินแบกฟืนแบกของ หรือเดินกลับบ้านเดินตามหลังรถไถ และสารพัดที่จะเดิน ปัญหาข้อเท้าเสื่อมไม่เจอสักคน แต่ที่เจอ...มักเป็นคนเมืองที่ไม่ใช้ขา ใช้แขนออกกำลัง....เอาเถอะครับผมว่าการออกกำลังกายดีแล้วครับ....ร่างกายถนอมไว้เท่าไหร่มันก็ต้องเสื่อมตามอายุ.....อนิจจัง เหมือนเณรน้อยเห็นดอกไม้ที่ตนเองดูแลเหี่ยว หลวงพ่อบอกว่าช่างเถอะดอกไม้มิอาจสดอยู่ถึงร้อยปี..ร่างกายก็มิอาจสดอยู่ถึงร้อยห้าสิบปี....หัวเข่าถ้าเสื่อมเพราะการเดินก็จงภูมิใจหัดใช้สมกับที่พ่อแม่ให้เรามามิดีกว่ากลัวแม้แต่เดินขึ้นบันใดฤา

สวัสดีค่ะ นาย สนิท - เกตุแก้ว

  • อย่างน้อยขยับร่ายกายสักนิดดีกว่าอยู่หน้าจอนานๆนะคะ...ที่ทำงานพอดีเครื่องพิมพ์มีใช้แทบจะทุกคนค่ะเลยแค่หมุนตัวไม่ต้องลุก
  • เมื่อก่อนจะไปหยิบเอกสารบนโต๊ะที่ไกลเอื้อมมือยังนั่งเก้าอี้เลื่อนไปหยิบเอาค่ะ(ไม่ยอมลุกไปหยิบ) ตอนนี้ก็ลุกไปหยิบเพื่อปรับเปลี่ยนอริยาบทค่ะ

สวัสดีค่ะ P

  • เรื่องเข่าเสื่อม เคยได้ยินรวมถึงว่าการออกกำลังกายให้เดินดีกว่าวิ่งด้วยค่ะ  ไม่รู้เท็จจริงอย่างไร
  • เช้าเย็นเดินขึ้นลงบันไดทำให้รู้สึกดีขึ้นค่ะ  เพราะตอนนี้งานไม่ค่อยได้ออกไปเชิงรุกเท่าไหร่...
  • แค่ขึ้นลงเช้า-เย็นคงไม่เป็นอันตรายมากกระมังคะ อย่างไรต้องขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะสำหรับข้อมูลที่จะหาข้อมูลมาเพิ่มค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ kuson27

  • คนเดียวกับอาจารย์โกศล เจ้าของ Blog  งานเงินที่อยู่คู่ครอง ใช่ไหมคะ
  • ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจในการส่งเสริมสุขภาพ
  • แถมท้ายด้วยหลักธรรมะที่เคยเขียนบันทึกไว้ด้วยค่ะ "อนิจจัง คือความไม่แน่นอน สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ อนิจจัง"
อาจารย์โกศล คงสมปราชญ์

หวัดดีครับอาจารย์พิชชา

* ผมเป็นคนเดียวกับเจ้าของล็อค งานเงินที่อยู่คู่ครอง

 **ขอถามอาจารย์เพิ่มอีกนิดครับการเอารูปเราให้เข้ามาปรากฎโชว์ในตอนเราแสดงความคิดเห็นมีวิธีทำอย่างไร

**** และการที่ทำให้ภาพคนอื่นที่แสดงความคิดเห็นบนบล๊อคของเราทำไงครับ 

 (แพลนเนตที่แนะนำทำได้แล้วครับขอบคุณครับ)

*****ผมชอบบทความแนวนิทานที่ให้ข้อคิด หรือแนวคิดที่มีสาระ (สามารถนำไปเสนอสู่การอบรมบรรยายหรือปาฐกถาของวิทยากรได้ได้ครับ เพราะนิทาน  คำสอนที่คล้องจอง และคำคมคือเครื่องปลุกคนให้คลายเครียดและหายง่วงและคุ้มกับเวลาที่นั่งฟังเราพูด) อาจารย์มีส่งมาให้อ่านนะครัย ขอบคุณ

อาจารย์โกศลคะ

  • เช็คดูแล้วอาจารย์มีรูปที่แสดงใน Blog อาจารย์อยู่แล้วค่ะ
  • ถ้าต้องการให้ต้องการให้รูปแสดงเมื่อแสดงความคิดเห็นนั้น อาจารย์จำเป็นต้องเข้าระบบ ( log in) ก่อนค่ะ  แล้วรูปจะปรากฏโดยอัตโนมัติเมื่อแสดงความคิดเห็นค่ะ

คุณkuson27

ขออนุญาตมีความเห็นแย้งนิดนะครับ

การออกกำลังกาย ย่อมเป็นผลดี แต่ไม่ใช่ทุกกรณีไป นะครับ

การเดิน แม้เป็นการออกกำลังกาย  แต่การเดินในแนวราบ กับ ขึ้นลงบันได ก็มีผลกระทบต่อข้อเข่าต่างกัน การขึ้นกับการลงบันได ก็เกิดความเข้าใจผิดว่า การลงจะมีผลกระทบต่อข้อเข่าน้อยกว่า ทั้งที่ในความเป็นจริง มากกว่าตอนขึ้น

 คุณพิชชา

ผม search มาฝากตามที่เรียนไว้แล้วนะครับ ตามไปดูฉบับเต็มได้ที่ link ไว้

อ้างอิงจาก หนังสือ แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัยและรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

ของ สำนักพัฒนาวิชาการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขhttp://www.thaicpg.org/pdf/knee.pdf 

การป้องกัน (หน้า 13)

 

การป้องกันนี้หมายรวมถึง การป้องกันไม่ให้เป็นข้อเข่าเสื่อมและผู้ที่เป็นแล้วจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นมากขึ้น โดยเน้นเรื่องการดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง วิธีการป้องกัน ได้แก่

 1. แนะนำการควบคุมและ / หรือลดน้ำหนัก

 

2. ให้ความรู้ข้อเข่าเสื่อม

 

- การให้ความรู้เรื่องโรคและการดำเนินโรค รวมทั้งการดูแลรักษาพอสังเขป

 

- พยายามเลี่ยงอิริยาบถที่ต้องงอเข่ามากๆ เช่น การนั่งพับเพียบ คุกเข่า ขัดสมาธิ หรือนั่งยองๆเนื่องจากจะเพิ่มแรงอัดภายในข้อเข่า และจะมีผลต่อกระดูกอ่อนข้อเข่า ไม่ควรใช้สุขาแบบส้วมซึมที่ต้องนั่งยอง ซึ่งจะส่งผลเสียอย่างยิ่งต่อข้อเข่า แนะนำให้ปรับเปลี่ยนสุขภัณฑ์

 

- ไม่ควรขึ้นลงบันไดโดยไม่จำเป็น

 

- การออกกำลังเพื่อสุขภาพบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อข้อเข่าที่มีการเสื่อมแล้ว เช่น การวิ่ง การกระโดดเชือก หรือ การออกกำลังโดยการขึ้นลงบันได หากออกกำลังกายแล้วมีอาการปวดเข่า ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง

 

- เน้นการบริหารเพื่อเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท