เคล็ดลับแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ ด้วยนพลักษณ์


ที่สำคัญคือ เรียนรู้นพลักษณ์แล้ว นำไปปรับแก้ที่ตัวเอง ไม่ใช่การแก้ไขคนอื่น

ปิ๊งค์ แว๊บ จากรายการคุณอุ๊  ช่อผกา วิริยานนท์

 ดิฉันเป็นแฟนรายการวิทยุอยู่รายการหนึ่ง ทางคลื่น FM 100.5  ทุกวันอาทิตย์เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืน แบบติดหนึบ (แต่ก็แอบหลับบ้างบางอาทิตย์.... ก็มันดึก นี่หน่า...)  

คุณอุ๊ เป็นคนมีพลังมากมายในการทำโน่น นี่ นั่น แต่เธอก็ปลีกตัวมาจัดรายการวิทยุในคืนวันสุดท้ายของสัปดาห์ โดยเน้นเนื้อหาของรายการเป็นการพัฒนาด้านใน หรือจิตวิญญาณของผู้คน ไม่ด้วยธรรมะ ก็ด้วยศาสตร์โบราณ ที่เรียกว่า นพลักษณ์   

เมื่อสามสัปดาห์ที่แล้ว เธอเชิญแขกร่วมรายการเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเอกชนท่านหนึ่งมาออกรายการ เรียกง่ายๆ ว่าคุณฑิตย์ ก็แล้วกันนะคะ

คุณฑิตย์พูดได้ประทับใจดิฉันมาก จนอดไม่ไหวที่จะบอกเล่าให้ผู้คนได้รับฟัง รับทราบ เล่าไปแล้วหลายที่ หลายแห่ง ก็เลยคิดว่า เขียนไว้ในบล๊อกนี้ด้วยก็คงจะดี  

คุณฑิตย์ เริ่มเรื่องด้วยการบอกเล่าว่า เขาคิดว่าความสัมพันธ์ที่บ้านมันตึงเครียด ด้วยว่าเขาไม่เข้าใจรูปแบบวิธีคิด วิธีรู้สึกของภรรยา และพฤติกรรมของลูกก็ไม่ได้ดั่งใจ เลยไปปรึกษาพระที่นับถือรูปหนึ่ง ท่านก็แนะนำให้ไปศึกษาศาสตร์นพลักษณ์  จึงตัดสินใจไปเข้าอบรมหลักสูตรนพลักษณ์ขั้นต้น  

ระหว่างอบรมก็ค้นพบว่าตัวเองเป็นคนลักษณ์ 1 และคิดว่าภรรยาน่าจะเป็นคนลักษณ์ 4 (ภรรยาไม่ได้เข้ารับการอบรมด้วย)  เมื่อทราบดังนี้ ก็พยายามคุยกับผู้เข้าร่วมที่เป็นลักษณ์ 4 ทุกคน ด้วยคิดจะทำความเข้าใจคนลักษณ์ 4 และจะได้ไปใช้กับภรรยา  

แต่คุณฑิตย์เล่าว่า วิธีที่ใช้ครั้งแรกเป็นวิธีที่ผิด  

เมื่อรู้หลักการวิธีใช้นพลักษณ์ที่ถูกต้องแล้ว คุณฑิตย์พูดว่า  สถานการณ์ในบ้านเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือ ด้วยการ เปลี่ยนแปลงที่ตัวเอง เท่านั้นเอง  คนในบ้านคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือลูก ไม่จำเป็นต้องเข้าอบรมนพลักษณ์ด้วยเลย  

คุณอุ๊ ถึงกับหูผึ่ง รีบตั้งคำถามถี่ยิบ และให้คุณฑิตย์ช่วยเล่าให้ฟังคุณฑิตย์เปิดเผยตัวเองอย่างน่าประทับใจมากว่า  การที่ตนเองมีนิสัยเจ้าระเบียบ ทุกอย่างต้องได้มาตรฐาน มีคำว่า ถูก  ผิด   ต้อง  ควร  อยู่ตลอดเวลา นั่นเอง (ลักษณะหลักของคนลักษณ์ 1)  ทำให้ที่บ้านเครียด ตัวเองก็เครียดเพราะไม่ได้ตามที่ตั้งมาตรฐานไว้  เช่น ตนเองให้เงินภรรยาใช้จ่ายในครอบครัว ก็คาดหวังว่า ภรรยาน่าจะทำบัญชีรายรับ รายจ่ายไว้ เพื่อตอบได้เมื่อตนเองต้องการทราบว่าแต่ละเดือนใช้ไปในเรื่องอะไรบ้าง หรือกลับถึงบ้านในเวลานี้ ลูกควรต้องทำการบ้าน ไม่ใช่ดูทีวี หรือเล่นเกม ฯลฯ สารพัดเรื่องที่คุณฑิตย์คิดว่าบรรยากาศในบ้านมันไม่ควรจะเป็น  

แต่พอเรียนรู้นพลักษณ์พบว่า การที่คนหนึ่งหงุดหงิดก็เพราะกับดักประจำลักษณ์เล่นงาน คือ ความใส่ใจ และความคิดยึดติด เรื่องถูกต้อง ควร ไม่ควร มันมีมากกว่าคนลักษณ์อื่นๆ  และพุ่งไปมองที่คนอื่น ก็มักจะไม่พอใจ ไม่ได้ดังใจ   

เมื่อหัดที่จะหันมาแก้ไขที่ตัวเอง  คือ ปล่อยวางความรู้สึก ถูก/ผิด ควร/ไม่ควร ลง หรือเมื่อเห็นว่ามันกำลังทำงานอยู่ก็รู้ตัว มันก็ลดน้อยลงโดยปริยาย   กลับบ้านก็เล่นกับลูก แทนที่จะเพ่งเล็งว่าควรเป็นเวลาทำการบ้าน บรรยากาศมันก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา  บ้านช่องมันจะรกบ้าง ก็ปล่อยๆ ไปได้บ้าง ความสัมพันธ์กับภรรยาก็ดีขึ้น 

คุณฑิตย์สรุปให้ฟังว่า การมีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด คามความใส่ใจของลักษณ์ 1 นั่นดี และใช้ได้ผลกับงานที่บริษัท แต่กับความสัมพันธ์กับ คน แล้ว คุณฑิตย์บอกว่า ไม่ควรใช้มาก  ต้องหันกลับมาใช้ ใจ มากกว่า ซึ่งตัวเขาเองได้ทดลองอย่างได้ผลมาแล้ว  

ตรงนี้ก็ต้องขอบคุณ กุญแจ สำคัญ ที่จะไขความลับเรื่องราวของชีวิตของแต่ละคนให้รู้จุดแข็ง จุดอ่อน ของตัวเอง แล้วปรับแก้ หรือพัฒนาตัวเองให้มีความสุข คือ นพลักษณ์ นั่นเอง  

และที่สำคัญคือ เรียนรู้นพลักษณ์แล้ว นำไปปรับแก้ที่ตัวเอง ไม่ใช่การแก้ไขคนอื่น ...............เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง เป็นหนทางแห่งความเข้าใจคนอื่น อย่างมีเมตตานั่นเอง  

หมายเลขบันทึก: 121059เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2007 16:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 13:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
อ่านแล้วมีความเห็นอย่างไรก็แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้นะคะ ยินดีรับฟังทุกความเห็นค่ะ

สำหรับตัวเองหลังจากได้รู้จักนพลักษณ์แล้ว  ก็พยามปรับตัวและพยามนึกถึงที่มา-สาเหตุที่ทำให้เขาทำกับเราอย่างนั้น (อย่างที่เราว่ามันไม่เหมาะหน่ะคะ เช่นความมันเห็นแก่ตัว การแย่งชิงเพื่อเป็นเลิศโยทำร้ายจิตใจใครๆ)  แต่...555...ก็ให้สงสัยว่าทำไมเขาไม่ปรับบ้างหว่า (ก็อบรมมาเหมือนกัน รู้พร้อมกัน)

ดังนั้นปัญหาที่ยังคาใจคือทำไงเขาจะปรับบ้างนะ เพื่อสันติสุขของมวลชนกลุ่มน้อยๆ ที่มีกันอยู่

คุณพวกบ้า 555 คะ

ดิฉันขอตอบจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ ถ้าเจอกรณีอย่างนี้ "แก้ไขที่ใจของเรา" ค่ะ

วางใจของเราไว้ที่ อุเบกขา และเมตตาเขา  (ว่า.... โธ่ อุตส่าห์รู้จักนพลักษณ์พร้อมกัน เขาไม่เมตตาตัวเองเลยที่ไม่รู้จักแก้ไขและพัฒนาตนเอง ปล่อยให้คนอื่นนำโด่งไปแล้ว 5555) ในวงเล็บนี่ทีเล่นที่จริงนะคะ

เห็นด้วยกับบทความ

การศึกษานพลักษณ์ การศึกษาตนเอง สิ่งสำคัญคือการแก้ไขปรับสมดุลย์ตนเอง

ยอมรับว่ารู้จักนพลักษณ์ครั้งแรก ตื่นเต้นตื้นตันเพราะช่างอธิบายตนเองได้ลึกซึ้งมากอะไรอย่างนี้

จากนั้นยอมรับอีกว่า มีช่วงที่พยายามตีตราท่านอื่นพร้อมอยากเปลี่ยนแปลงคนเหล่านั้น หรือให้ช่วยๆกันเปลี่ยน

แต่เราลืมไปว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นหรือโลกได้

แต่เราสามารถเปลียนตัวเองได้ ก็รู้สึกดีขึ้นจากความพยายามอันนี้ เพราะทำให้ความคิด ความรู้สึก การกระทำ กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แล้โดยรวมอะไรๆก็คงจะดีขึ้นตามมาเอง จริงๆ

แค่เราเปลี่ยนตัวเอง ..เด็กดอกไม้ดอกเดียวสะเทือนถึงดวงดาว

 

 

 ยินดีกับคุณ นาตาลี ค่ะ ที่สามารถเข้าถึงเคล็ดลับสุดยอดวิชา "นพลักษณ์" แล้วค่ะ

นับถือ นับถือ ....

เหลือแต่เพียง การปฏิบัติ ในชีวิตจริง บ่อยๆ ซ้ำๆ ค่ะ

.... ขอบอกว่า .... ณ ปลายทาง และระหว่างทาง เราจะพบชีวิต ที่ "ร่มเย็น เป็นสุข" เพิ่มขึ้นทีละนิด ทีละนิดค่ะ ....... ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ  ......
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท