สวัสดีครับ
ย้อนกลับไปยังตอนที่ผู้เขียนเรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้วผู้เขียนต้องเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งโรงเรียนก็อยู่ใกล้รั้วติดกันกับชั้นประถมครับเพียงแต่ชื่อต่างกันครับ ด้วยตอนนั้นผู้เขียนชอบเรียนหลายๆวิชาที่เด่นๆ ก็คือคณิตศาสตร์ อังกฤษ และศิลปะการวาดรูป เคยเข้าประกวดวาดสีเทียน แต่ด้วยศิลปะเหล่านี้ชอบมาตั้งเด็กๆ แล้ว และสนุกกับกิจกรรมสร้างสรรค์แบบเอาวัสดุรอบตัวมาประกอบกันบนกระดาษแบบผสมผสานเช่นใบไม้ กิ่งไม้ ส่วนต่างๆ จากธรรมชาติมาผสมกัน หลายๆ อย่าง สนุกดีครับ
และแล้ว การเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ตอนนั้น ทุกคนจะต้องเรียนสายวิชาวิทยาศาสตร์ โดยแต่ละคนจะต้องเลือกวิชาพื้นฐานด้วยซึ่งจะมี คณิตศาสตร์ ไฟฟ้า คหกรรม ช่างไฟฟ้า เขียนแบบ ศิลปะการวาดรูป และเกษตร วิชาเหล่านี้เป็นวิชาพื้นฐานที่เป็นตัวที่ต่างกันแต่ละคนว่าจะมีพื้นฐานทางด้านใด โดยเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์เป็นหลัก
ท่านคิดว่าผู้เขียนเลือกเรียนอะไรครับ อิๆ ใช่แล้วครับ ผู้เขียนเลือกเรียนศิลปะการวาดภาพครับ เพราะชอบมาก
และแล้ววันที่ต้องเลือกสาขาวิชาและสอบวิชาพื้นฐานเพื่อแบ่งห้องก็มาถึงครับ ว่าใครจะได้เรียนพื้นฐานวิชาอะไร ผู้เขียนเลือกศิลปะ สรุปว่ามีคนเลือกเพียงสองคนเท่านั้นครับรวมตัวผู้เขียนด้วย เลยสรุปว่าสาขานี้ไม่ต้องสอบเลือกสาขาเพราะมีอยู่สองคน แต่แล้วนั้น เรื่องสนุกก็เกิดขึ้น เมื่อนักเรียนชายเยอะมากไปเลือกวิชาไฟฟ้าแล้วทำให้มีการแย่งเก้าอี้กัน นั่นหมายความว่า ใครตกจากสาขานั้น ก็อาจจะไปตกอยู่ในสาขาวิชาพื้นฐานอื่นๆ แต่ที่ทราบแน่ๆ คือคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์จะต้องตกไปอยู่ในสาขาพื้นฐานวิชาเกษตรแน่นอน
เรื่องสนุกอยู่ที่ว่า โรงเรียนบอกว่า ปีนี้ สาขาพื้นฐานศิลปะไม่เปิด เพราะมีอยู่สองคน ทำให้เพื่อนอีกคนที่เลือกย้ายโรงเรียนไปเรียนอีกที่หนึ่งแทน ส่วนตัวผู้เขียนเองถูกย้ายให้ไปเรียนวิชาพื้นฐานเกษตรแทน รวมกับเพื่อนที่พลาดจากเก้าอี้การสอบแข่งขันพื้นฐานไฟฟ้า
สรุปว่าปีนั้น มีแค่ 4 สาขาวิชาคือพื้นฐานคณิตศาสตร์ พื้นฐานช่างไฟฟ้า คหกรรม และพื้นฐานเกษตร
ในขณะนั้นชาวบ้านซึ่งเป็นเกษตรกรไม่ค่อยชอบคนเรียนเกษตรครับ และใครมีลูกจะไม่ค่อยให้เรียนเกษตรเพราะคิดว่าเกษตรรู้กันอยู่แล้ว น่าจะไปเรียนวิชาสาขาอื่น ผู้เขียนเองกลับบ้าน ก็เล่าให้ที่บ้านฟัง ปรากฏว่าแต่ละคนรับไม่ได้ บางคนบอกว่าวิชาเกษตร ทนฟังเสียงไม่ได้ ญาติคนหนึ่งบอกว่า หากเรียนวิชาเกษตร ออกมากรีดยางที่บ้านดีกว่า ไม่ต้องไปเรียนหรอก ฟังจากแต่ละที่เค้ารับรู้กัน ประมาณว่ามีการสอบถามกันว่าแต่ละคนเรียนพื้นฐานสาขาอะไรกันบ้าง ส่วนคนที่เรียนคณิตศาสตร์ หรือช่างไฟฟ้าจะได้รับการชื่นชมว่าเก่ง ส่วนคนเรียนเกษตรประมาณว่าที่สุดท้าย ใครสอบไม่ได้ก็ตกลงไปอยู่ในถังนั้น
ด้วยความรู้สึกท้าทายขึ้นมาของผู้เขียนเลยรู้สึกว่า เอ เจ้าวิชาพื้นฐานเกษตรนี่ ช่างน่าสงสารจริงๆ ทำไมมีแต่คนเกลียดเจ้าเช่นนี้ ไม่ว่าจะมีคนว่าคนเรียนสาขานี้จะเกเร ยิงกันตามกระแสในตอนก่อนหน้านั้น แต่นี่แค่การเรียนใน ม.ต้นเท่านั้น มีน้าคนหนึ่งที่เรียนอยู่ ม.ปลาย มาปลอบบอกว่าวิชาเกษตรที่เลือกก็เป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น แต่เนื้อหาจริงๆคือวิทยาศาสตร์ โดยมีพื้นฐานตามความถนัดให้เด็กนักเรียนเอาไปเป็นตัวหลักในการคิดทำ หากไม่ชอบต่อไป ม.ปลาย ก็เปลี่ยนสาขาได้ ทำให้ที่บ้านที่ตามกระแสไปกับชาวบ้าน เย็นลงแล้วก็ให้ลูกเรียนตามที่ลูกคิดและสบายใจ
ผู้เขียนเองก็พลาดจากศิลปะแต่ก็คาดว่า ยังมีวิชาศิลปะในวิชาที่เรียนทุกชั้นปี ก็เลยคาดว่าจะไปเอาดีเอาในวิชานั้นๆ แทน แล้วหันมาเรียนวิชาเกษตรให้รู้จริงว่าทำไมคนถึงเกลียดวิชานี้เข้าไส้กันจริงๆ คงส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่าคงอยากให้ลูกหลานเรียนในสิ่งที่ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองทำอยู่หรือเป็นอยู่เพื่อความหลากหลายทางภูมิปัญญามั้งครับ
และแล้วผู้เขียนก็เอาจริงเอาจังกับวิชาเกษตร ไม่ว่าจะเป็นวิชาพืช สัตว์ ดินและปุ๋ย การขยายพันธุ์พืช และต่างๆ จนได้ผลลัพธ์ที่ดีจะได้เกรดดีๆในวิชานี้ตลอดสามชั้นปี 3,4 ตามแต่รายละวิชา และได้มีโอกาสเป็นตัวแทนไปแข่งขันตอบคำถามทางการเกษตรในระดับจังหวัดและระดับภาคใต้ เคยได้รางวัลที่ 1 ในระดับภาคใต้ ได้รางวัลเป็นต้นกุหลาบคนละต้น เพราะไปกับเพื่อนอีกหนึ่งคนครับ แล้วเอามาปลูกลงดินกัน ดอกใหญ่มากครับ เอาไว้เป็นที่ระลึกปลูกไว้หน้าบ้านเลยครับ อิๆ
พอเรียนเอาลึกๆ ก็ได้เทคนิคอะไรมากมาย แล้วก็เข้าใจว่าอะไรคืออะไร และสิ่งที่ชาวบ้านเค้าเกลียดวิชานี้กัน เป็นเพียงความเข้าใจพื้นฐานที่ผิดๆ ตามระบบค่านิยมเท่านั้น อย่างน้อยก็ทำให้เราทราบว่าการขยายพันธุ์พืช มีอะไรทำได้อย่างไรบ้างกับพืชที่เรามีอยู่ที่บ้าน ที่ปลูกกันอยู่ มีเทคนิคอะไรบ้างในการปลูกพืช ต้นไม้ การกรีดยางที่ว่า ก็ทำให้ผู้เขียนทราบว่าทำไมต้องกรีดอย่างนั้น เพราะอะไร ซึ่งอาจจะต่างจากที่คนดูถูกวิชาเกษตร ที่กรีดๆ กันตามกันมาตามปู่ย่าตายาย เพราะเอาเข้าจริงแล้วใครไม่ได้สามารถอธิบายได้ วิชาเกษตรที่ผู้เขียนชอบมากๆ คือการได้ปฏิบัติจริงเห็นจริง การปลูกยางมีพื้นที่ให้ปลูกทดลองกันจริงๆ การเลี้ยงไก่ การเลี้ยงนกกระทา การทำสวนมะนาว กระเจี๊ยบ ลุยกันทั้งเกษตรเชิงทฤษฏีและปฏิบัติ บอกได้ว่าสนุกมากๆ
สำหรับวิชาศิลปะผู้เขียนก็ไปเอาดีในวิชาเรียนศิลปะในคาบเรียนทั่วไปแทน ซึ่งสนุกมากๆ เช่นกัน มีโอกาสได้สนุกเต็มที่ แม้จะเห็นรุ่นถัดไปมีคนเรียนสาขานี้กันหลายคนแล้วทางโรงเรียนเปิดวิชาพื้นฐานนี้ให้ก็ตาม
คุณหล่ะครับ มีประสบการณ์อะไรสนุกๆ มาเล่ากันไหมครับ ในช่วง ม.ต้น ไว้ผู้เขียนจะมาเล่าประสบการณ์ ตอนจบ.ต้น แล้วที่มาที่ไป ผู้เขียนจะไปเรียนอะไรกันต่อไปครับ
รับรองมีคำท้าทายอะไรเด็ดๆ อีกเพียบ ที่ทำให้ผู้เขียนเอามาเป็นแรงกระตุ้นในการเรียนรู้ ประมาณว่าเรียนรู้จากคำดูถูก สบประมาท อะไรทำน้องนี้ ล้วนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาได้ดียิ่งในการเรียนรู้ครับ
กราบขอบพระคุณมากครับ
น้องเม้ง
สวัสดีค่ะคุณเม้ง
เมื่อกี้เบิร์ดเพิ่งไป Shopping คลายเครียด ( คิดงานไม่ออก )ที่บล็อกของคุณบางทราย..พอออกมาก็เจอบล็อกนี้ที่ทำให้ได้ความคิดดีๆ ไปต่อยอดงาน..
พ่อค้าตลาดนัดแถบนี้ใจดีนะคะ..ให้เปล่าบวกของแถมด้วย..โดยเฉพาะของแถมชิ้นนี้.." คำดูถูก สบประมาท ล้วนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาได้ดียิ่งในการเรียนรู้ " ..ถูกใจจริงๆ
สวัสดีครับคุณเบิร์ด
สวัสดีค่ะพี่เม้ง
สวัสดีครับน้องณิช
พี่หนิงเป็นเด็กศิลปะค่ะ
ถนัดมากคือ นาฏยศิลป์ พวกเต้นกินรำกิน อิอิ ไปงานไหนๆก็ได้กิน ฮ่า.... ส่วนจิตรกรรม หรือขีดๆเขียนๆนี่ จะถนัดออกแบบพานิชย์ศิลป์มากกว่าค่ะ
แต่นั่นเกือบ 30 ปีมาแล้วนะคะ ^__*
ที่เลือกเรียนศิลปะ เพราะชอบมาแต่เด็กแล้วค่ะ ตามประสาเด็กผู้หญิงมั้ง ชอบแต่งตัว 555 แต่ส่วนมากจะออกงานเป็นตัวพระตลอดค่ะ เพราะเป็นเด็กตัวสูง ขายาว
แต่พี่หนิงเป็นเด็กศิลป์ ที่ชอบไปแปลงเกษตรนะคะ ชม.เรียนจะตรงกัน เรียนศิลป์ในshopเสร็จ พี่ก็ลงแปลงกับเขาบ่อยๆ เพราะต้องรอเรียนพิเศษก่อนกลับบ้าน เขาแจกข้าวโพดบ้าง ต้นหอม ผักกาดบ้าง 555 เรื่องกินอีกแล้ว...
ลืมบอกไปว่า มีช่วงนึงที่ต้องตอนกิ่งมะนาวส่งคุณครู พี่ก็ได้เพื่อนๆเกษตรนี่แหละค่ะช่วยไว้
เรียนเกษตรไม่ดีตรงไหน..เนอะ ที่มีอยู่มีกิน แถมมีแปลงต้นไม้ ดอกไม้ ให้ไปวิ่งเล่นเสมอๆ ไม่ใช่เพราะหมวดเกษตรหรอกหรือ
สวัสดีครับพี่หนิง
สวัสดีครับพี่เม้ง
มีคนเคยพูดไว้ว่า ในโลกนี้ไม่มี อุตสากรรมใดๆที่ low-tech มีแต่วิธีการทำงานที่ low-tech เท่านั้นครับ
ถ้าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดนี้ได้ มันก็คงไม่แปลกที่คนหลายๆคน จะเจอคำสบประมาทแบบที่พี่เจอ และมองว่าการเรียนอะไรบางอย่างนั้นไม่จำเป็นต้องเรียนครับ
สวัสดีครับ น้องต้น
สวัสดีครับ อ.ลูกหว้า
สวัสดีครับ อ.ลูกหว้า